SSI กำไรงวดสิ้นปี 50 ทรุดกว่า 63% ผลจากรายได้การขายเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนลดลง รวมทั้งรายได้จากการขายเศษเหล็กก็ต่ำกว่า ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นลดลง ผู้บริหารเผยถือเป็นการดำเนินงานฝ่าวิกฤตรุนแรง แต่รักษาระดับผลการดำเนินงานให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ พร้อมเน้นขายสินค้าเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษ ที่มาร์จิ้นดีรวมทั้งการจัดซื้อวัตถุดิบ ซึ่งมีอัตรากำไรส่วนต่างที่ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI ) แจ้งผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 2550 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 992.97 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,690.14 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงจาก 21 สตางค์ เหลือ 7 สตางค์ต่อหุ้น หรือกำไรสุทธิลดลง 63.08% เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน 27,848.2 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ายอดขายในงวดเดียวกันของปี49 ซึ่งมี 34,604.3 ล้านบาท สวนทางกับรายได้จาการขายเศษเหล็กปีนี้ก็ต่ำกว่าปีก่อนหน้า
ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการลดลง ส่วนรายได้อื่นก็ลดลงด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (ไม่รวมดอกเบี้ยจ่าย) ลดลง และบริษัทโอนกลับขาดทุนจากการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ
“บริษัทสามารถรักษาระดับผลการดำเนินงานให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้ว่าจะลดลงจากปี 49 ท่ามกลางปัจจัยลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองในประเทศที่ไม่ชัดเจน ทำให้โครงการของภาครัฐและเอกชนชะลอตัว และส่งผลต่อเนื่องต่อความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่ลดลง รวมทั้งกับวิกฤตราคาเหล็กแท่งแบนซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของบริษัท เนื่องจากมาตรการกีดกันการส่งออกวัตถุดิบของประเทศจีน รวมถึงการปรับตัวสูงขึ้นของค่าระวางเรือและต้นทุนด้านพลังงาน” นายวิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถผ่านวิกฤตต่างๆ ไปได้ โดยมีกลยุทธ์หลัก คือ เน้นขายสินค้าประเภทเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษ ซึ่งมีอัตรากำไรส่วนต่างที่ดีการจัดซื้อวัตถุดิบ และการบริหารสินค้าคงคลังอย่างรอบคอบ และประสิทธิผลจากการบริหารเงินทุนหมุนเวียนโดยมีอัตราหนี้สินต่อทุนลดลงรวมถึงการลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และยังพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงและปี 2551 บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากการขายเติบโตไม่น้อยกว่า 30% โดยยังมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายตลาดเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษเป็นหลัก
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI ) แจ้งผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 2550 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 992.97 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,690.14 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงจาก 21 สตางค์ เหลือ 7 สตางค์ต่อหุ้น หรือกำไรสุทธิลดลง 63.08% เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน 27,848.2 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ายอดขายในงวดเดียวกันของปี49 ซึ่งมี 34,604.3 ล้านบาท สวนทางกับรายได้จาการขายเศษเหล็กปีนี้ก็ต่ำกว่าปีก่อนหน้า
ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการลดลง ส่วนรายได้อื่นก็ลดลงด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (ไม่รวมดอกเบี้ยจ่าย) ลดลง และบริษัทโอนกลับขาดทุนจากการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ
“บริษัทสามารถรักษาระดับผลการดำเนินงานให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้ว่าจะลดลงจากปี 49 ท่ามกลางปัจจัยลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองในประเทศที่ไม่ชัดเจน ทำให้โครงการของภาครัฐและเอกชนชะลอตัว และส่งผลต่อเนื่องต่อความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่ลดลง รวมทั้งกับวิกฤตราคาเหล็กแท่งแบนซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของบริษัท เนื่องจากมาตรการกีดกันการส่งออกวัตถุดิบของประเทศจีน รวมถึงการปรับตัวสูงขึ้นของค่าระวางเรือและต้นทุนด้านพลังงาน” นายวิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถผ่านวิกฤตต่างๆ ไปได้ โดยมีกลยุทธ์หลัก คือ เน้นขายสินค้าประเภทเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษ ซึ่งมีอัตรากำไรส่วนต่างที่ดีการจัดซื้อวัตถุดิบ และการบริหารสินค้าคงคลังอย่างรอบคอบ และประสิทธิผลจากการบริหารเงินทุนหมุนเวียนโดยมีอัตราหนี้สินต่อทุนลดลงรวมถึงการลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และยังพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงและปี 2551 บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากการขายเติบโตไม่น้อยกว่า 30% โดยยังมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายตลาดเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษเป็นหลัก
