"ศุภวุฒิ" ย้ำไม่เคยถูกทาบนั่งเก้าอี้ขุนคลังในรัฐบาลใหม่ ชี้คนที่จะเข้ามาคงตัดสินใจยาก เพราะติดปัญหากฎหมายใหม่ หากพ้นตำแหน่งออกไป ต้องเว้นวรรคการทำงานด้านการเงินนานถึง 2 ปี พร้อมแนะรัฐบาลใหม่เร่งแก้ไขเงินเฟ้อ โดยทำค่าเงินบาทให้แข็ง ยอมรับศก.ไทยโตได้จริงแค่ 2% เท่านั้น
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด กล่าวย้ำถึงกระแสข่าวลือที่ระบุว่า ตนเองเป็นตัวเต็งที่ถูกทาบทามให้เข้ารับตำแหตน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และขอยืนยันว่า ไม่มีคนที่เข้ามาทาบทามตามที่มีกระแสข่าวที่ออกมา
สำหรับคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายศุภวุฒิ ระบุว่า ตนเองไม่ได้มองที่ตัวบุคคลว่าจะเป็นใคร แต่จะมองที่นโยบายมากกว่า ทั้งนี้ มองว่าการหาตัวรัฐมนตรีคลังนั้นทำได้ยาก เพราะติดกฎหมายที่ห้ามทำงานด้านเงินเป็นเวลา 2 ปี ตนอยากเสนอให้รัฐบาล เร่งทำงบประมาณขาดดุลเพิ่ม ขณะที่ต้องมีความชัดเจนว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร ดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง ให้สอดคล้องกัน ยกเลิกมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 พร้อมทั้งต้องเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อ โดยการทำให้ค่าเงินบาทแข็ง
นอกจากนี้ นายศุภวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ปัญหาเงินเฟ้อสูง จะส่งผลกระทบกับประชาชนจำนวนมาก กัดกร่อนความสามารถในการลงทุนเพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขณะที่ ค่าเงินบาทแข็ง จะส่งผลกระทบแต่กับผู้ส่งออกเท่านั้น นอกจากนี้ยังมองว่า การทำหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจเอียง แม้ปีที่แล้วเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ร้อยละ 4-5 แต่ในความเป็นจริงเศรษฐกิจภายในประเทศไทย ขยายตัวเพียงร้อยละ 2 ขณะที่ ส่วนใหญ่โตจากการส่งออก