ตลท.ชี้ บ.ไปรษณีย์ไทย มีความพร้อมสูงสุดในกลุ่มรัฐวิสาหกิจ ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น เพราะไม่ได้นำสมบัติของชาติมากอบโกยผลประโยชน์ ส่วนบริษัทอื่นๆ ทั้ง ทีโอที และ กสท หากจะเดินหน้าเข้าตลาดหุ้น ควรปรับโครงสร้างกิจการก่อน โดยแยกสินทรัพย์ของชาติออกจากตัวกิจการ
วันนี้ (8 ม.ค.) นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการนำหุ้นรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดยระบุว่า รัฐวิสาหกิจยังมีโอกาสในเข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยตามแผนงาน โดยบริษทแรกที่จะเห็นน่าจะเป็น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ที่มีความพร้อมสูงกว่าแห่งอื่นๆ ในการเข้าจดทะเบียนโดยไม่ติดปัญหา เนื่องจากไปรษณีย์ไทยไม่ได้รับผลกระทบการใช้สินทรัพย์ของประเทศในการบริหารงาน และไม่ได้รับสิทธิพิเศษในการดำเนินกิจการ
ขณะที่รัฐวิสาหกิจแห่งอื่น ทั้งบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งก่อนหน้านี้ มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ก็ยังสามารถดำเนินการได้ตามแผน แต่จะต้องมีการปรับโครงสร้างกิจการ และไม่มีการนำสินทรัพย์ของรัฐ หรือสมบัติของแผ่นดินมาบริหารกิจการ
“ตอนนี้รัฐวิสาหกิจยังไม่ล้มเลิกแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะตามแผนงานก็มีรายชื่อรัฐวิสาหกิจแปรรูป แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และผลกระทบภายหลัง เราต้องแยก Business Unit ที่เป็นสินทรัพย์ของประเทศออกเสียก่อน” นางภัทรียา กล่าวพร้อมกับทิ้งท้ายว่า
ทั้งนี้ กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว ได้แก่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งมีการนำทรัพย์สมบัติของชาติมาแสวงหาผลการดำเนินงาน และท้ายสุดต้องโอนที่ดินบางส่วนและกิจการท่อก๊าซกลับคืนไปให้รัฐ เพราะถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน