xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นภาคบ่ายปิดลบ 2.08 จุด หลังนักลงทุนขายทำกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หุ้นไทยวันนี้มี take profit หลังขึ้นแรง อย่างไรก็ตาม ยังหวังว่าจะมี January effect อยู่ ช่วงนี้แนะทยอยสะสมไปรอขายต้นปีหน้า เน้นหุ้นขนาดใหญ่ของแต่ละกลุ่ม ปัจจัยการเมืองยังไม่มีอะไรที่แย่ลง ทิศทางพรุ่งนี้ปลายปีวอลุ่มอาจอ่อนตัวลง ดัชนีน่าจะปรับขึ้นได้แต่ไม่แรง

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(26 ธ.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 841.20 จุด ลดลง 2.08 จุด เปลี่ยนแปลง -0.25% มูลค่าการซื้อขาย 14,822 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 848.80 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 836.84 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 162 หลักทรัพย์ ลดลง 160 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 110 หลักทรัพย์

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้มี take profit บ้างหลังขึ้นแรง 2 วัน กว่า 50 จุด และตลาดหุ้นภูมิภาคเทรดอยู่ในช่วงแคบ มองเป็น take profit ธรรมดายังไม่ได้มองเลวร้าย และยังหวังว่าจะมี January effect อยู่ ตอนนี้แนะนำทยอยสะสมไปเรื่อยๆ แล้วไปขายต้นปีหน้าโดยให้เข้าหุ้นขนาดใหญ่กระจายไปในแต่ละกลุ่ม เช่น แบงก์ใหญ่ เพราะมองว่า sentiment โดยรวมยังไม่ได้เสียไป มองว่าต้นปีมีโอกาสปรับขึ้น จึงให้เก็บสะสมตรงนี้และไปทยอยขายในสัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่ 2 ของปี

"ปัจจัยการเมืองยังไม่ได้มีอะไรที่แย่ลง ขณะเดียวกันภาพคงออกมาชัดขึ้นว่าน่าจะเป็นพลังประชาชนที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล" น.ส.ศศิกร กล่าว

ทิศทางพรุ่งนี้ มองปลายปีวอลุ่มอาจจะอ่อนตัวลงขณะเดียวกันดัชนีน่าจะปรับขึ้นได้แต่จะไม่รุนแรงอย่างวันแรกที่ผ่านมา

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,654.10 ล้านบาท ปิดที่ 368.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,371.69 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 967.23 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 927.23 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท ลดลง 10.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 602.44 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
กำลังโหลดความคิดเห็น