แฉ! ลูกค้าฟ้องบริษัทกำจัดปลวก แหกตาหลอกฉีดสารเคมีไร้คุณภาพผ่านสคบ.เพียบ อัดพ่อค้าหัวใสแอบลดต้นทุน-สารเคมี ขณะที่ธุรกิจยังระส่ำหนัก โครงการบ้านจัดสรรสั่งเบรกเปิดโปรเจกต์ใหม่ หากการเมืองไม่นิ่งมีสิทธิ์ตายหมู่ ขณะที่ค่าย “ศิริเจริญ” ยืดอกรับ แจงผลงาน 11 เดือนพลาดเป้า แต่มั่นใจปีหน้าตั้งเป้าอัตราการเติบโตประมาณ 20-30% แน่นอน
นายสุทิยา ศิริเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิริเจริญ โฮมเซอร์วิส จำกัด กล่าวยอมรับว่า ธุรกิจกำจัดปลวกเริ่มชะลอตัวลง เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง เศรษฐกิจในประเทศและเรื่องของราคาน้ำมัน ทำให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจกำจัดปลวกพยายามลดต้นทุน โดยเฉพาะตัวยาสารเคมี และทำให้ลูกค้าได้รับความเดือดร้อนจากปลวกกินบ้าน ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทกำจัดปลวกที่ลดต้นทุนตัวยาสารเคมี สืบเนื่องจากปัญหาในเรื่องของโครงการบ้านจัดสรร ได้สั่งชะลอโครงการใหม่ทั้งหมด ในส่วนของธุรกิจคอนโดมิเนียมยังเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง
“หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าก็ต้องแก้ปัญหาเอง ซึ่งหากใช้ผิดวิธีก็อาจจะเกิดปัญหาหรือเพิ่มภาระให้แก่ลูกค้า” นายสุทิยา กล่าวถึงสัญญาณร้ายที่จะเกิดขึ้นกับภาพรวมตลาดกำจัดปลวก และชี้ว่า
หากผู้ประกอบการไม่ปรับตัวให้เข้ามาตรฐาน ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญของธุรกิจนี้ ก็อาจจะทำให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจกำจัดปลวก ต้องประสบกับภาวะที่แข่งขันตัดราคาและที่สำคัญตัวสารเคมีก็อาจจะไม่ได้มาตรฐานและไม่มีคุณภาพ ตรงนี้จะเป็นอันตรายต่อลูกค้า ที่จะได้รับบริการที่ไม่ตรงกับคุณภาพของตัวสารเคมี และอาจจะต้องเสียค่าบริการในการเรียกใช้บริษัทกำจัดปลวกเพิ่มขึ้นอีก
" ตอนนี้ลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและดำเนินเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ.เพิ่มมากขึ้น โดยการฟ้องร้องส่วนมาก คือ การที่ผู้ประกอบการไปลดต้นทุน จากสารเคมี 80-100 บาท แต่ใช้สารเคมีเพียง 20 บาท ทำให้สารเคมีดังกล่าวไม่สามารถป้องกันปลวกได้ หรืออาจจะมีอายุการป้องกันปลวกสั้นลง จากที่สัญญาการรับประกัน 3 ปี ”
นายสุทิยากล่าวต่อว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ต้องยอมว่าได้รับผลกระทบ แต่เราจะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมีผลกระทบเล็กน้อยเท่านั้นประมาณ 10-15% แต่เป็นเพียงการชะลอตัดสินใจเท่านั้น
ทั้งนี้ สำหรับทิศทางปีหน้า บริษัทฯ มีแผนจะรักษาฐานลูกค้าเก่าที่เน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าพรีเมียม และจะร่วมทำโครงการกับบริษัทรับสร้างบ้านเปิดตัวโครงการ “บ้านกำจัดปลวก” ซึ่งในปีหน้าได้วางเป้าหมายในการเติบโตของธุรกิจไว้ประมาณ 20-30% แต่ที่สำคัญจะต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศการเมือง ราคาน้ำมัน หากปัจจัยเหล่านี้มันนิ่งก็จะสามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทได้ตั้งเอาไว้ ขณะเดียวกัน ในส่วนของรถที่ให้บริการนั้น ทางบริษัทฯ จะเปลี่ยนรถให้บริการหันมาใช้แก๊สทั้งหมด เพื่อเป็นการลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยตั้งงบประมาณไว้ 2 ล้านบาท
นายสุทิยา ศิริเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิริเจริญ โฮมเซอร์วิส จำกัด กล่าวยอมรับว่า ธุรกิจกำจัดปลวกเริ่มชะลอตัวลง เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง เศรษฐกิจในประเทศและเรื่องของราคาน้ำมัน ทำให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจกำจัดปลวกพยายามลดต้นทุน โดยเฉพาะตัวยาสารเคมี และทำให้ลูกค้าได้รับความเดือดร้อนจากปลวกกินบ้าน ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทกำจัดปลวกที่ลดต้นทุนตัวยาสารเคมี สืบเนื่องจากปัญหาในเรื่องของโครงการบ้านจัดสรร ได้สั่งชะลอโครงการใหม่ทั้งหมด ในส่วนของธุรกิจคอนโดมิเนียมยังเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง
“หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าก็ต้องแก้ปัญหาเอง ซึ่งหากใช้ผิดวิธีก็อาจจะเกิดปัญหาหรือเพิ่มภาระให้แก่ลูกค้า” นายสุทิยา กล่าวถึงสัญญาณร้ายที่จะเกิดขึ้นกับภาพรวมตลาดกำจัดปลวก และชี้ว่า
หากผู้ประกอบการไม่ปรับตัวให้เข้ามาตรฐาน ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญของธุรกิจนี้ ก็อาจจะทำให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจกำจัดปลวก ต้องประสบกับภาวะที่แข่งขันตัดราคาและที่สำคัญตัวสารเคมีก็อาจจะไม่ได้มาตรฐานและไม่มีคุณภาพ ตรงนี้จะเป็นอันตรายต่อลูกค้า ที่จะได้รับบริการที่ไม่ตรงกับคุณภาพของตัวสารเคมี และอาจจะต้องเสียค่าบริการในการเรียกใช้บริษัทกำจัดปลวกเพิ่มขึ้นอีก
" ตอนนี้ลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและดำเนินเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ.เพิ่มมากขึ้น โดยการฟ้องร้องส่วนมาก คือ การที่ผู้ประกอบการไปลดต้นทุน จากสารเคมี 80-100 บาท แต่ใช้สารเคมีเพียง 20 บาท ทำให้สารเคมีดังกล่าวไม่สามารถป้องกันปลวกได้ หรืออาจจะมีอายุการป้องกันปลวกสั้นลง จากที่สัญญาการรับประกัน 3 ปี ”
นายสุทิยากล่าวต่อว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ต้องยอมว่าได้รับผลกระทบ แต่เราจะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมีผลกระทบเล็กน้อยเท่านั้นประมาณ 10-15% แต่เป็นเพียงการชะลอตัดสินใจเท่านั้น
ทั้งนี้ สำหรับทิศทางปีหน้า บริษัทฯ มีแผนจะรักษาฐานลูกค้าเก่าที่เน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าพรีเมียม และจะร่วมทำโครงการกับบริษัทรับสร้างบ้านเปิดตัวโครงการ “บ้านกำจัดปลวก” ซึ่งในปีหน้าได้วางเป้าหมายในการเติบโตของธุรกิจไว้ประมาณ 20-30% แต่ที่สำคัญจะต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศการเมือง ราคาน้ำมัน หากปัจจัยเหล่านี้มันนิ่งก็จะสามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทได้ตั้งเอาไว้ ขณะเดียวกัน ในส่วนของรถที่ให้บริการนั้น ทางบริษัทฯ จะเปลี่ยนรถให้บริการหันมาใช้แก๊สทั้งหมด เพื่อเป็นการลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยตั้งงบประมาณไว้ 2 ล้านบาท