ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายร้อนแรง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นย่านเอเชียที่ปรับขึ้นยกแผง มีแรงซื้อหนาแน่นในหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป โดยนักลงทุนสถาบันลุยซื้อกว่า 2 พันล้าน ขณะที่ต่างชาติชะลอการขาย ส่งผลดัชนีปิดที่จุดสูงสุดของวัน 844.80 จุด แนวโน้มพรุ่งนี้ดัชนีน่าจะบวกต่อได้ ให้แนวต้าน 850 จุด แนวรับ 837 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(29 พ.ย.) ดัชนีภาคบ่ายปิดที่ระดับ 844.80 จุด เพิ่มขึ้น 24.28 จุด เปลี่ยนแปลง +2.96% มูลค่าการซื้อขาย 22,309 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 844.80 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 832.01 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 281 หลักทรัพย์ ลดลง 65 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 100 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 92.18 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,048.40 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,956.23 ล้านบาท
นางสิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ค่อนข้างดีบวกขึ้นทั้งภูมิภาค หุ้นใหญ่ปรับขึ้น คิดว่าวันนี้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอลงแล้วเพราะดูจากค่าเงินเยนไม่ได้มีสัญญาณแข็งค่าไปในทางลบ วันนี้ทางเทคนิคดัชนีขึ้นมายืนเหนือ 830 จุดได้ก็เป็นมุมมองในเชิงบวก และมองว่าดัชนีน่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะของการรีบาวน์ได้
ในส่วนของปัจจัยพื้นฐานที่จะมาสนับสนุนคือแรงขายของต่างประเทศคิดว่าน่าจะชะลอลง และวันที่ 11 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมเฟดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยและน่าจะให้ความเชื่อมั่นว่าเฟดจะดูแลเรื่องนโยบายดอกเบี้ยและสภาพคล่องเพื่อที่จะดูแลวิกฤตสินเชื่อของสหรัฐ ตรงนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุน ภายในประเทศเดือน ธ.ค. ก็จะมีเรื่องของการเลือกตั้ง
"ขณะที่ราคาน้ำมันวันนี้เริ่มกลับเข้ามาเพราะมีเรื่องท่อน้ำมันในสหรัฐระเบิด โดยรวมหุ้นน้ำมันยังมองดีเพราะความต้องการของเอเชียและจีนก็ยังสูงอยู่น่าจะทรงตัวในระดับสูงได้ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอ"
ทิศทางพรุ่งนี้โดยรวมแนวโน้มน่าจะเริ่มเป็นขาขึ้นได้ในระยะสั้นๆ พรุ่งนี้ดัชนีน่าจะทรงตัวเพื่อที่จะบวกต่อ แนวรับที่สำคัญ 837 และ 830 จุด แนวต้าน 850 จุดเป็นต้านแรก
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 4% ในนิวยอร์ก หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ท่อส่งน้ำมันจากแคนาดามายังสหรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องอุปทาน
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,338.58 ล้านบาท ปิดที่ 374.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 1,586.30 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,549.02 ล้านบาท ปิดที่ 436.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,464.82 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,000.73 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(29 พ.ย.) ดัชนีภาคบ่ายปิดที่ระดับ 844.80 จุด เพิ่มขึ้น 24.28 จุด เปลี่ยนแปลง +2.96% มูลค่าการซื้อขาย 22,309 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 844.80 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 832.01 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 281 หลักทรัพย์ ลดลง 65 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 100 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 92.18 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,048.40 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,956.23 ล้านบาท
นางสิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ค่อนข้างดีบวกขึ้นทั้งภูมิภาค หุ้นใหญ่ปรับขึ้น คิดว่าวันนี้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอลงแล้วเพราะดูจากค่าเงินเยนไม่ได้มีสัญญาณแข็งค่าไปในทางลบ วันนี้ทางเทคนิคดัชนีขึ้นมายืนเหนือ 830 จุดได้ก็เป็นมุมมองในเชิงบวก และมองว่าดัชนีน่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะของการรีบาวน์ได้
ในส่วนของปัจจัยพื้นฐานที่จะมาสนับสนุนคือแรงขายของต่างประเทศคิดว่าน่าจะชะลอลง และวันที่ 11 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมเฟดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยและน่าจะให้ความเชื่อมั่นว่าเฟดจะดูแลเรื่องนโยบายดอกเบี้ยและสภาพคล่องเพื่อที่จะดูแลวิกฤตสินเชื่อของสหรัฐ ตรงนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุน ภายในประเทศเดือน ธ.ค. ก็จะมีเรื่องของการเลือกตั้ง
"ขณะที่ราคาน้ำมันวันนี้เริ่มกลับเข้ามาเพราะมีเรื่องท่อน้ำมันในสหรัฐระเบิด โดยรวมหุ้นน้ำมันยังมองดีเพราะความต้องการของเอเชียและจีนก็ยังสูงอยู่น่าจะทรงตัวในระดับสูงได้ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอ"
ทิศทางพรุ่งนี้โดยรวมแนวโน้มน่าจะเริ่มเป็นขาขึ้นได้ในระยะสั้นๆ พรุ่งนี้ดัชนีน่าจะทรงตัวเพื่อที่จะบวกต่อ แนวรับที่สำคัญ 837 และ 830 จุด แนวต้าน 850 จุดเป็นต้านแรก
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 4% ในนิวยอร์ก หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ท่อส่งน้ำมันจากแคนาดามายังสหรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องอุปทาน
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,338.58 ล้านบาท ปิดที่ 374.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 1,586.30 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,549.02 ล้านบาท ปิดที่ 436.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,464.82 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,000.73 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท