ภาวะตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบ ไม่มีปัจจัยอ้างอิงเพราะตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า หุ้นไทยพยายามมีเทคนิคัลรีบาวน์ตั้งแต่วานนี้รวมถึงวันนี้แต่ยังคงมีแรงขายจากต่างชาติอยู่ต่อเนื่อง ตั้งแต่ต.ค.ถึงขณะนี้ต่างชาติขายมากกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ขายค่อนข้างหนัก ซึ่งการปรับพอร์ตของต่างชาติยังคงมีอยู่ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ แนวรับ 790 จุด น่าจะเป็นจุดกลับตัวของตลาดรอบนี้
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(23 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 810.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด เปลี่ยนแปลง +0.19% มูลค่าการซื้อขาย 7,109 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดตลาดขึ้นแดนบวกช่วงสั้น โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 814.90 จุด แต่ดัชนีก็ค่อยๆอ่อนตัวลง และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 807.38 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังคงแกว่งตัวเคลื่อนไหวแคบๆ เนื่องจากตลาดไม่มีปัจจัยอ้างอิงเพราะตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า นิกเคอิวันนี้ก็ปิดทำการ เพราะฉะนั้นตลาดหลักไม่มีการซื้อขายก็ไม่มีไดเรคชั่นจากตลาดหุ้นต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบ้านเราถึงแม้จะพยายามมีเทคนิคัลรีบาวน์ตั้งแต่เมื่อวานนี้แต่ยังคงมีแรงขายจากต่างชาติอยู่ต่อเนื่องรวมถึงวันนี้ด้วย โดยต่างชาติจากสิ้นเดือนต.ค.ถึงขณะนี้ขายสุทธิออกมามากกว่า 3.7 หมื่นล้านบาทแล้ว ขายออกมาค่อนข้างหนัก การปรับพอร์ตของต่างชาติในระยะสั้นยังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ดี แรงขายตรงนี้น่าจะเริ่มเบาลงในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนหนึ่งราคาหุ้นลงมามากพอสมควรจนกระทั่งหลายตัวอยู่ในข่ายที่เริ่มดึงดูดใจสำหรับการเข้าลงทุนระยะตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จากจุดนี้ถึงแม้จะยังคงมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงได้อีกแต่แนวรับบริเวณ 790 บวก ลบเล็กน้อยน่าจะเป็นจุดที่ดึงดูด เป็นจุดกลับตัวของตลาดรอบนี้
"การปรับพอร์ตยังอาจจะดำเนินต่อไปในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าแต่เป็นจังหวะของการเลือกซื้อ ทยอยซื้อสะสมสำหรับหุ้นที่มี upside potential เกิน 30% ขึ้นไป"นายพิชัยกล่าว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,241.74 ล้านบาท ปิดที่ 352.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 681.38 ล้านบาท ปิดที่ 380.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 648.15 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
IEC มูลค่าการซื้อขาย 523.70 ล้านบาท ปิดที่ 1.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 370.86 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(23 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 810.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.52 จุด เปลี่ยนแปลง +0.19% มูลค่าการซื้อขาย 7,109 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดตลาดขึ้นแดนบวกช่วงสั้น โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 814.90 จุด แต่ดัชนีก็ค่อยๆอ่อนตัวลง และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 807.38 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังคงแกว่งตัวเคลื่อนไหวแคบๆ เนื่องจากตลาดไม่มีปัจจัยอ้างอิงเพราะตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า นิกเคอิวันนี้ก็ปิดทำการ เพราะฉะนั้นตลาดหลักไม่มีการซื้อขายก็ไม่มีไดเรคชั่นจากตลาดหุ้นต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบ้านเราถึงแม้จะพยายามมีเทคนิคัลรีบาวน์ตั้งแต่เมื่อวานนี้แต่ยังคงมีแรงขายจากต่างชาติอยู่ต่อเนื่องรวมถึงวันนี้ด้วย โดยต่างชาติจากสิ้นเดือนต.ค.ถึงขณะนี้ขายสุทธิออกมามากกว่า 3.7 หมื่นล้านบาทแล้ว ขายออกมาค่อนข้างหนัก การปรับพอร์ตของต่างชาติในระยะสั้นยังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ดี แรงขายตรงนี้น่าจะเริ่มเบาลงในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนหนึ่งราคาหุ้นลงมามากพอสมควรจนกระทั่งหลายตัวอยู่ในข่ายที่เริ่มดึงดูดใจสำหรับการเข้าลงทุนระยะตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จากจุดนี้ถึงแม้จะยังคงมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงได้อีกแต่แนวรับบริเวณ 790 บวก ลบเล็กน้อยน่าจะเป็นจุดที่ดึงดูด เป็นจุดกลับตัวของตลาดรอบนี้
"การปรับพอร์ตยังอาจจะดำเนินต่อไปในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าแต่เป็นจังหวะของการเลือกซื้อ ทยอยซื้อสะสมสำหรับหุ้นที่มี upside potential เกิน 30% ขึ้นไป"นายพิชัยกล่าว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,241.74 ล้านบาท ปิดที่ 352.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 681.38 ล้านบาท ปิดที่ 380.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 648.15 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
IEC มูลค่าการซื้อขาย 523.70 ล้านบาท ปิดที่ 1.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
TTA มูลค่าการซื้อขาย 370.86 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง 0.75 บาท