ผู้อยู่อาศัยในโครงการคอนโดฯ “บ้านสาธร-เจ้าพระยา” รวมพลเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังประสบปัญหาในการอยู่อาศัยในโครงการ วัสดุก่อสร้างภายในห้องชุดไม่ตรงกับสเปกที่กำหนดไว้ในโบรชัวร์ มีการนำพื้นที่ส่วนกลางไปออกโฉนด แถมทางโครงการยังค้างเงินกองทุนให้แก่นิติบุคคลกว่า 15 ล้านบาท จับตามเกมพลิกล็อก!! เจ้าของโครงการล็อบบี้ผู้อยู่อาศัยบางส่วนและกลุ่มพันธมิตรเพื่อให้มีคะแนนเสียงในมือเกินกึ่งหนึ่ง จัดประชุมวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย.นี้ เพื่อปลดผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดของผู้อยู่อาศัย หวังปลดล็อกให้เซ็นปลอดหนี้ของห้องชุด 25% ที่ขายไม่หมด เพื่อเร่งขายดึงเงินเข้ากระเป๋า ขณะที่ สคบ.ยังเมินเฉย
เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้อยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียม บ้านสาธร-เจ้าพระยา ที่เป็นคนไทยและชาวต่างประเทศประมาณ 30 คน ได้รวมพลบนทางเดินสะพานสาทร ในเวลา 08.30-10.00 น. พร้อมทั้งชูแผ่นป้ายเพื่อเรียกร้องของความเป็นธรรม หลังจากเข้าอยู่อาศัยในโครงการและประสบปัญหามากมายจากโครงการ โดยไม่ได้รับการเหลียวแลจากบริษัท สาทร เจ้าพระยา อาเคเดีย จำกัด เจ้าของโครงการดังกล่าว (และยังเป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมบ้านราชประสงค์)
หนึ่งในผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนและผู้อยู่อาศัยรายอื่นๆ ตัดสินใจซื้อห้องชุดจากโครงการ เนื่องจากเห็นว่าจะสามารถเห็นบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยา ราคาที่โครงการเสนอขายประมาณ 60,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเมื่อเทียบกับโครงการบริเวณใกล้เคียง ราคาขายต่อตร.ม.ประมาณ 80,000 บาท ถึง 1 แสนบาทก็มี แต่เมื่อตัดสินใจซื้อและเข้าอยู่อาศัย ก็เริ่มพบปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ ไม่ว่า วัสดุก่อสร้างและที่ตกแต่งภายในห้องชุดไม่ได้ตรงกับสเปกที่ทางโครงการประกาศไว้ในโบรชัวร์ ประตูจากเดิมจะเป็นไม้เนื้อแข็ง กับกลายเป็นประตูไม้อัด ผนังห้องน้ำห้องน้ำตามรูปแบบที่ได้จากกทม.เป็นผนังคอนกรีตสำเร็จรูป แต่สั่งเปลี่ยนแปลงเป็นผนังคอนกรีตบล๊อคปิดทับด้วยแผ่นยิปซั่ม การรั่วซึมของน้ำไหลเข้าห้องพัก และที่สำคัญมีการนำพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับทางบันไดหนีไฟ มากันเป็นพื้นที่เพื่อเป็นพื้นที่ขาย
ขณะเดียวกัน ทางเจ้าของโครงการยังได้นำพื้นที่ส่วนกลางที่ไว้สำหรับเจ้าของร่วมได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น พื้นที่ฟิตเนส ที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลอาคารชุด ห้องประชุมและอื่นๆ ไปทำการออกเอกสารสิทธิต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ สาขาธนบุรี และทางสำนักงานฯได้นำพื้นที่ส่วนกลางของนิติบุคคลอาคารชุดบ้านสาธร เจ้าพระยา ไปออกเอกสารสิทธิให้แก่บริษัท สาธร เจ้าพระยา อาเคเดีย จำกัด
“ตอนนี้การดูแลภายในอาคารค่อนข้างมีปัญหา เนื่องจากนิติบุคคลอาคารชุดประสบปัญหาเรื่องเงินของเงินกองทุน เพราะทางเจ้าของโครงการค้างค่าส่วนกลางกว่า 15 ล้านบาท จากที่มีห้องชุดประมาณ 25% ที่ยังไม่มีการจำหน่ายออกไป ซึ่งตัวเลขค้างค่าส่วนกลางยังไม่นับรวมค่าปรับล่าช้าประมาณ 3% ต่อเดือน ประกอบกับมีความเคลื่อนไหวของเจ้าของโครงการที่จะเรียกประชุมเจ้าของร่วมในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย.นี้ เพื่อขอมติที่ประชุม ปลดผู้จัดการนิติบุคคลซึ่งทางผู้อยู่อาศัยได้ว่าจ้างมาบริหาร โดยทางเจ้าของโครงการมีคะแนนเสียงประมาณ 25% และกำลังส่งหนังสือเชิญประชุมไปยังผู้อยู่อาศัยรายอื่น ที่ไม่ทราบปัญหาให้ยินยอม รวมถึงมีพันธมิตรของเจ้าของโครงการ จะสนับสนุน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ทางเจ้าของโครงการจะมีคะแนนเสียงในมือประมาณ 50% หลังจากนั้น ทางเจ้าของโครงการจะเสนอที่ประชุมให้แต่งตั้งผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดคนใหม่ ซึ่งเป็นคนของโครงการ และจะได้ดำเนินการเซ็นหนังสือปลอดหนี้ของห้องชุดที่ไม่สามารถขายได้ คิดดูว่าประโยชน์จะไปตกอยู่ที่ใคร”
อนึ่งในมาตรา 48 แห่ง พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 บัญญัติคะแนนเสียงในการแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้จัดการนิติบุคคล จำเป็นต้องมีไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคะแนนเสียงของเจ้าของร่วมทั้งหมด
ผู้สันทัดในเรื่องการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด กล่าวว่า ทางออกของการแก้ไขปัญหามีอยู่บ้าง เช่น ต้องดูว่าทางโครงการจะหาเงินมาซ่อมแซมตัวอาคารที่มีปัญหาหรือไม่ หนี้ส่วนกลางที่ค้างอยู่ทางโครงการจะหาเงินมาจากไหน และเมื่อไม่มีทางออกแล้วก็เชื่อว่า ทางเจ้าของโครงการคงต้อง"ทุบ" อาจจะมีการจัดประชุมเจ้าของร่วมเพื่อปรับเปลี่ยนผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด และประเด็นนี้มีความเป็นไปได้มาก เพื่อลดปัญหาและขายห้องชุดที่ยังค้างอยู่ได้
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ทางผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดได้มีการทำหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมไปยังประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลังจากถูกเอารัดเอาเปรียบจากโครงการ โดยได้ยื่นเรื่องหลายครั้ง เช่น วันที่ 25 ม.ค. 2550, วันที่ 29 ม.ค., วันที่ 15 มี.ค. 2550, วันที่ 10 เม.ย. และวันที่ 9 ก.ย.2550 แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับหรือเข้ามาดูแลผู้อยู่อาศัยแต่อย่างใด
