ภาวะตลาดหุ้นไทยร่วงลงในวันนี้ เป็นไปตามดัชนีดาวโจนส์และตลาดในภูมิภาคที่ปรับตัวลง 3-4% ทำให้มีแรงขายในตลาดบ้านเราอันเนื่องมาจาก Fund Flow ไหลออก เหตุจากปัญหาซับไพรม์เพียงอย่างเดียว ส่วนพรุ่งนี้แนะจับตาดาวโจนส์คืนนี้ว่าจะหลุดแนว 13,200 จุดหรือไม่ หากหลุดตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยให้แนวรับ 857 แนวต้าน 880 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(8 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 873.64 จุด ลดลง 6.63 จุด เปลี่ยนแปลง -0.75% มูลค่าการซื้อขาย 16,739.10 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเปิดเทรดช่วงเช้าปรับตัวลงแรงทันที หลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 873.70 จุด และแตะจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 864.66 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 75 หลักทรัพย์ ลดลง 249 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 121 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,580.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 111.25 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,691.30 ล้านบาท
นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงลง ตามดาวโจนส์และตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวลง 3-4% ทำให้มีแรงขายในตลาดหุ้นไทยด้วย อันเนื่องมาจาก Fund Flow ไหลออก โดยรวมเป็นผลจากปัจจัยภายนอกประเทศเพียงปัจจัยเดียวในเรื่องปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(9 ต.ค.)มองว่า ถ้าตลาดสหรัฐฯปรับตัวลงต่อ โดยดัชนีดาวโจนส์หลุดระดับ 13,200 จุด ก็จะทำให้มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลง โดยให้แนวรับ 857 จุด หากหลุดแนวนี้ก็จะมีโอกาสลงลึกไปที่แนวรับถัดไปที่ 840 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 880 จุด พร้อมแนะนำช่วงนี้นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 3/50 ออกมาดีได้
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,293.18 ล้านบาท ปิดที่ 396.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,810.99 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,080.52 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 819.76 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 639.25 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(8 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 873.64 จุด ลดลง 6.63 จุด เปลี่ยนแปลง -0.75% มูลค่าการซื้อขาย 16,739.10 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเปิดเทรดช่วงเช้าปรับตัวลงแรงทันที หลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 873.70 จุด และแตะจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 864.66 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 75 หลักทรัพย์ ลดลง 249 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 121 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,580.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 111.25 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,691.30 ล้านบาท
นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงลง ตามดาวโจนส์และตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวลง 3-4% ทำให้มีแรงขายในตลาดหุ้นไทยด้วย อันเนื่องมาจาก Fund Flow ไหลออก โดยรวมเป็นผลจากปัจจัยภายนอกประเทศเพียงปัจจัยเดียวในเรื่องปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(9 ต.ค.)มองว่า ถ้าตลาดสหรัฐฯปรับตัวลงต่อ โดยดัชนีดาวโจนส์หลุดระดับ 13,200 จุด ก็จะทำให้มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลง โดยให้แนวรับ 857 จุด หากหลุดแนวนี้ก็จะมีโอกาสลงลึกไปที่แนวรับถัดไปที่ 840 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 880 จุด พร้อมแนะนำช่วงนี้นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 3/50 ออกมาดีได้
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,293.18 ล้านบาท ปิดที่ 396.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,810.99 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,080.52 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 819.76 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 639.25 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท ลดลง 8.00 บาท