xs
xsm
sm
md
lg

3 ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ กับเวที..สร้างความต่างของสินค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในภาวะที่ตลาดอสังหาริมรัพย์ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจต้นน้ำของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเรา ชะลอตัวอย่างเช่นในปัจจุบันนี้ กลายเป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัวสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ แต่ในมุมกลับกันกลายเป็นเรื่องดีของผู้บริโภค ที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับตัวของผู้ประกอบการ ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์มีสีสันเพิ่มขึ้นมากกว่าในช่วงภาวะตลาดปกติ

ยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2550 นี้ ซึ่งไม่ใช่อยู่ในภาวะที่ปกติมากนัก จะได้เห็นการพลิกกลยุทธ์ใหม่ๆของผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ขึ้นมา เพื่อผลทางด้านยอดขาย และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ ที่ค่าเงินบาทแข็งตัวอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลต่อการส่งออกของผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ต้องหันกลับมาสร้างรายได้จากการขายในประเทศให้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ "สมรภูมิ" การแข่งขันในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในประเทศรุนแรงยิ่งขึ้น ในภาวะที่ตลาดไม่ขยายตัวเหมือนในช่วงที่ผ่านมา

ปัจจุบัน จะพบเห็นได้ว่า ผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ได้แก่ บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เฟิร์น จำกัด มียอดขายต่อปีประมาณ 6,800 ล้านบาท ,บริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มียอดขายประมาณ 3,200ล้านบาทต่อปี และบริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด มียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ ในส่วนของ อินเด็กซ์ฯนั้น ในปีนี้ ได้เปิดฉากโหมการตลาดต่อเนื่องตลอดปี ในช่วงต้นปี ประสบความสำเร็จจากแคมเปญ " Joy Price" โดยการตั้งราคาขายสินค้าราคาเดียว โดยไม่มีการตั้งราคาเผื่อไว้ให้ลูกค้าต่อรองราคา หรือตั้งราคาไว้สูงๆเพื่อจัดรายการโปรโมชันลดราคาในเทศกาลต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการลูกค้า ที่กำลังซื้อลดลงจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากแคมเปญ Joy Price แล้ว บริษัทอินเด็กซ์ฯได้สร้างความต่อเนื่องทางการตลาด ด้วยแคมเปญ Joy Design ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าโครงการอาคารชุดคอนโดมิเนียม ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการดีไซน์ สินค้าให้มีขนาดเหมาะสมกับการตกแต่งห้องชุด

ล่าสุดได้นำ ดีไซน์เนอร์ ซึ่งเดิมจะออกแบบเฟอร์นิเจอร์เพื่อส่งออกโดยเฉพาะ เข้ามาดูรับผิดชอบการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ขายในประเทศโดยเฉพาะ พร้อมส่งโฆษณาสินค้าตัวใหม่ออกอากาศ กระตุ้นการรับรู้ในแบรนด์อินเด็กซ์ฯ และจากนี้ไปอินเด็กซ์ฯยังเตรียมที่จะส่งแคมเปญพิเศษ อีก 2 ตัว คือ Joy Quality และ Joy Service ออกมา เพื่อตอกย้ำถึงความคุ้มค่าจากมาตรฐานการใช้งาน ด้วยการการันตีอายุการใช้งานของสินค้า และบริการหลังการขายที่ครอบคลุมเพิ่มขึ้น
ในขณะเดียวกัน ตลอดปีที่ผ่านมา ได้มีการขยายสาขาอินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสาขาแล้ว 14 สาขา และจะทยอยเปิดเพิ่มอีกให้ครบ19สาขาในปี 51 ซึ่งต้องใช้งบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยในปีนี้จะมีการเปิดสาขาใหม่อีก 2 สาขาคือ อุบลราชธานี และชลบุรี ส่วนในปี51จะเปิดอีก3สาขาคือขอนแก่น ส่วนอีก 2 สาขานั้นอยู่ระหว่างรอดูความชัดเจนของพระราชบัญญัติค้าปลีกค้าส่งก่อน

**เอส.บี.ชูความโดดเด่นของสินค้า

ในด้านของบริษัท เอส.บี.ฯ นับจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ขยายสาขา "เอส.บี.ดีไซน์สแควร์" เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยจะเกาะติดไปกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในย่านศูนย์กลางเมือง ล่าสุดได้ขยายสาขาไปที่จังหวัดภูเก็ต ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้มีความครอบคลุมลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

ส่วนในด้านการสร้างแบรนด์ ได้ทุ่มงบโฆษณากว่า100 ล้านบาทในการผลิตภาพยนตร์โฆษณา ในสินค้าแบรนด์ เอส.บีฯ และเป็นคอนเซ็ปต์ โดยได้ดึง "เคน" ธีระเดช วงศ์พัวพัน ดารานักแสดงชื่อดัง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโฆษณาภาพยนตร์ ที่มุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าตลาดระดับกลาง-ล่าง

ส่วน แบรนด์สินค้า เอส.บี.ฯนั้น ได้ดึงเอา ดารานักแสดงคู่สามีและภรรยา "วิลลี่-เยลหลี แมทอินทอต" เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ในโฆษณา น้นเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง-บน ล่าสุดได้ฉีกแนวคิดการตกแต่งบ้าน ด้วยการเจาะลึกถึงพฤติกรรมความต้องการของลูกค้า ที่โดยปกติแล้วในการซื้อเฟอร์นิเจอร์จะตกแต่งบ้านนั้นลูกค้าต้องตกแต่งและออกแบบเอง เพราะไม่มีงบประมาณในการจ้างอินทีเรียดีไซน์ หรือมัณฑนากรออกแบบให้

นางธัญรักษ์ ชวาลดิฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด กล่าวว่า ในช่วงสิ้นปีจะเน้นทำการตลาดมากกว่าปีก่อนๆ โดยทุ่มงบฯกว่า 100 ล้านบาท จัดแคมเปญ 'เอส.บี.เฟอร์นิเจอร์ ดิ เอ็กซ์เพิร์ท (S.B.Furniture The Expert)' เพื่อตอกย้ำแบรนด์ ชูจุดแข็งความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ จุดเด่นของแคมเปญนี้ ต้องการนำเสนอจุดขายของ เอส.บี.ให้โดดเด่นและแตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ทั่วไป โดยเน้นให้ลูกค้าสัมผัสได้จริงถึงความเป็นผู้นำแนวคิดใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ และผลิตสินค้าที่ทันสมัย ใส่ใจกับลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย

โดยการนำทีมมัณฑนากรมาประจำศูนย์ เอส.บ.ดีไซน์สแควร์ เพื่อให้คำปรึกษาและออกแบบตกแต่งให้กับลูกค้าฟรี โดยจะลงโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ คิดเป็นสัดส่วน80% ซึ่งเอส.บ.ฯ ได้ดึง "สัญญา คุณากร" พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังและครอบครัวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์

**โมเดิร์นฟอร์นฯเงียบแต่น่ากลัว!!

ด้านบริษัทโมเดิร์นฟอร์มฯ แม้ว่าจะไม่มีการทำการตลาดผ่านสื่อโฆษณาที่ชัดเจนมากนัก แต่ก็หันไปเจาะตลาดใหม่ คือกลุ่มลูกค้าสำนักงานที่ในช่วงปีก่อนมีอัตราการขยายตัวที่ต่อเนื่องอย่างชัดเจนมากกว่าตลาดที่อยู่อาศัย โดยในปีนี้ ได้กำหนดสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าของบริษัทใหม่ โดยหันไปเน้นตลาดออฟฟิศเช่า และตลาดเฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้มียอดขายการเติบโตถึง 20% โดยได้ประมาณการว่าสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของโมเดิร์นฟอร์มฯจะมาจากเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ 40% และเฟอร์นิเจอร์บ้าน 60%

ในขณะที่ อินเด็กซ์ฯ และ เอส.บี.ฯ ทุ่มงบทางการตลาดอย่างมหาศาล แต่การขยับตัวของ โมเดิร์น ฟอร์มฯ นั้น ดูจะเงียบ ทำให้ต้องจับตาว่า ในช่วงปลายปี บริษัทโมเดิร์นฟอร์มฯจะมีการปรับตัวและกลยุทธ์ทางการตลาดอะไรออกมากระตุ้นยอดขาย และสร้างสีสันในตลาดในช่วงปลายปีกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น