บริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยชื่อดัง ‘มาร์ชพีบี’ ของตระกลู ‘ภิรมย์ภักดี’ ฉาว วงการประกันแฉพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดกฎหมาย หลังดอดเจรจากับลูกค้าของอีกบริษัทนายหน้าอีกบริษัท แล้วทำสัญญาประกันภัยกับผู้ประกอบการธุรกิจต่างชาติ
แหล่งข่าวจากวงการประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า บริษัทมาร์ช พีบี จำกัด(Marsh PB CO.Ltd) ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างมาร์ช แอนด์ แมคเลนแนน (Marsh & Mclennan) บริษัทประกันภัยชั้นนำของโลกกับตระกูลภิรมย์ภักดี กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงการอย่างหนัก ถึงพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจที่เข้าข่ายละเมิดพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย
ทั้งนี้ มาร์ช พีบี ได้ดำเนินการให้ลูกค้าของตนทำสัญญาประกันภัยกับผู้ประกอบการธุรกิจประกันวินาศภัยในต่างประเทศ ซึ่งในพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย มาตรา 78 ได้ระบุห้ามไว้ว่า นายหน้าประกันภัย ห้ามกระทำการใดๆเพื่อให้บุคคลทำสัญญาประกันภัยกับผู้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในต่างประเทศ
แหล่งข่าวกล่าวว่า เรื่องนี้มีที่มาจากการที่มาร์ช พีบี ได้ติดต่อบริษัท เอซีส คอมพิวเตอร์ บริษัทซึ่ง ดำเนิน ธุรกรรม เกี่ยวกับการซื้อขาย, จัดจำหน่าย ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในเครือเอสวีโอเอ เพื่อเข้าทำสัญญาประกันภัยประเภท ประกันภัยการค้า (Trade Credit Insurance) ซึ่งตามกฎหมายแล้ว มาร์ช พีบีต้องจัดหาบริษัทหรือผู้ประกอบการธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศเป็นผู้ออกกรมธรรม์ให้แก่เอซิส ปรากฏว่ามาร์ช พีบี กลับจัดให้มีการเอาประกันภัยกับบริษัท Atradius Credit Insurance N.V.ของฮ่องกง จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตราดังกล่าว
นอกจากนี้ การเข้าไปติดต่อบริษัทเอซิส ของมาร์ช พีบี ยังถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเอซิส เดิมนั้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปีนี้ ได้เข้าทำสัญญาเอาประกันภัยประเภท Trade Credit Insurance กับ บริษัท อลิอันซ์ ซี.พี. โดยมีบริษัท ชาร์เตอร์ด ( Chartered Insurance Solution CO.Ltd ) บริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยอีกแห่ง เป็นนายหน้าจัดการชี้ช่องทางเอาประกันระยะเวลา 1 มกราคม-31ธันวาคม2550
ต่อมาประมาณเดือนสิงหาคม มาร์ช พีบี ได้เข้าติดต่อกับ เอซิส นำเสนอเงื่อนไขการประกันภัยแบบเดียวกันนี้โดยออกใบเสนอความคุ้มครองโดยมี บริษัทกรุงเทพประกันภัย เป็นบริษัทออกกรมธรรม์และ Atradius เป็นผู้รับประกันภัย
“วันที่ 14 สิงหาคม เอซิส ได้ตกลงยกเลิกกรมธรรม์กับอลิอันซ์ ซี.พี.และได้ให้ มาร์ช พีบี จัดการเอาประกันภัยตามข้อเสนอ” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เอซีสบอกเลิกสัญญากับอลิอันซ์ ซี.พี. ปรากฏว่า บริษัทกรุงเทพประกันภัย ไม่เคยตกลงและได้รับการติดต่อให้ออกกรมธรรม์แต่อย่างใดจนถึงขณะนี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า ต่อมาภายหลังบริษัท เมืองไทยประกันภัย ได้รับการติดต่อจาก มาร์ช พีบีให้ดำเนินการแทน บริษัทกรุงเทพประกันภัย ซึ่งเมืองไทยประกันภัยก็กำลังดำเนินการขออนุญาตจาก คปภ. สำนัก งานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อให้อนุมัติแบบการเอาประกันภัย Trade Credit Insurance และ ไม่มีการออกกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองในวันที่ 14 สิงหาคมแต่อย่างใด
“มาถึงตรงนี้มาร์ช พีบี จึงวิ่งหา Atradius ฮ่องกง โดยปรากฏหลักฐานจากการที่มาร์ช พีบีได้นำเอา ตัวอย่าง ของกรมธรรม์ประกันภัย (Specimen) ออกโดย Atradius ฮ่องกงดังกล่าว และระบุอย่างชัดแจ้งว่า มาร์ช พีบี เป็นหน้าหน้าประกันวินาศภัย เสนอให้ เอซิส ” แหล่งข่าวกล่าว
บริษัทมาร์ช พีบี มีนายปิยะ ภิรมย์ภักดี เป็นผู้ถือหุ้นและมีรายชื่อเป็นกรรมการ โดยมีทุนจดทะเบียน14 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับ สายการบิน พีบีแอร์ บริษัทนี้จดทะเบียนครั้งแรก ชื่อ บริษัท เลสลี่ฮอลส์พีบี จำกัด ต่อมาเปลี่ยนชื่อครั้งที่สองเป็น บริษัทจอนห์สันแอนด์ฮิกกินส์ พีบี จัดกัด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 ครั้งที่ 3 เปลี่ยนเป็น บริษัทเจแอนด์เอชมาร์ชแอนแมคเลนแนนพีบี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2540 ครั้งสุดท้ายจึงเปลี่ยนมาเป็นบรษัท มาร์ช พีบี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2542
แหล่งข่าวจากวงการประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า บริษัทมาร์ช พีบี จำกัด(Marsh PB CO.Ltd) ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างมาร์ช แอนด์ แมคเลนแนน (Marsh & Mclennan) บริษัทประกันภัยชั้นนำของโลกกับตระกูลภิรมย์ภักดี กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงการอย่างหนัก ถึงพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจที่เข้าข่ายละเมิดพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย
ทั้งนี้ มาร์ช พีบี ได้ดำเนินการให้ลูกค้าของตนทำสัญญาประกันภัยกับผู้ประกอบการธุรกิจประกันวินาศภัยในต่างประเทศ ซึ่งในพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย มาตรา 78 ได้ระบุห้ามไว้ว่า นายหน้าประกันภัย ห้ามกระทำการใดๆเพื่อให้บุคคลทำสัญญาประกันภัยกับผู้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในต่างประเทศ
แหล่งข่าวกล่าวว่า เรื่องนี้มีที่มาจากการที่มาร์ช พีบี ได้ติดต่อบริษัท เอซีส คอมพิวเตอร์ บริษัทซึ่ง ดำเนิน ธุรกรรม เกี่ยวกับการซื้อขาย, จัดจำหน่าย ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในเครือเอสวีโอเอ เพื่อเข้าทำสัญญาประกันภัยประเภท ประกันภัยการค้า (Trade Credit Insurance) ซึ่งตามกฎหมายแล้ว มาร์ช พีบีต้องจัดหาบริษัทหรือผู้ประกอบการธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศเป็นผู้ออกกรมธรรม์ให้แก่เอซิส ปรากฏว่ามาร์ช พีบี กลับจัดให้มีการเอาประกันภัยกับบริษัท Atradius Credit Insurance N.V.ของฮ่องกง จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตราดังกล่าว
นอกจากนี้ การเข้าไปติดต่อบริษัทเอซิส ของมาร์ช พีบี ยังถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเอซิส เดิมนั้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปีนี้ ได้เข้าทำสัญญาเอาประกันภัยประเภท Trade Credit Insurance กับ บริษัท อลิอันซ์ ซี.พี. โดยมีบริษัท ชาร์เตอร์ด ( Chartered Insurance Solution CO.Ltd ) บริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยอีกแห่ง เป็นนายหน้าจัดการชี้ช่องทางเอาประกันระยะเวลา 1 มกราคม-31ธันวาคม2550
ต่อมาประมาณเดือนสิงหาคม มาร์ช พีบี ได้เข้าติดต่อกับ เอซิส นำเสนอเงื่อนไขการประกันภัยแบบเดียวกันนี้โดยออกใบเสนอความคุ้มครองโดยมี บริษัทกรุงเทพประกันภัย เป็นบริษัทออกกรมธรรม์และ Atradius เป็นผู้รับประกันภัย
“วันที่ 14 สิงหาคม เอซิส ได้ตกลงยกเลิกกรมธรรม์กับอลิอันซ์ ซี.พี.และได้ให้ มาร์ช พีบี จัดการเอาประกันภัยตามข้อเสนอ” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เอซีสบอกเลิกสัญญากับอลิอันซ์ ซี.พี. ปรากฏว่า บริษัทกรุงเทพประกันภัย ไม่เคยตกลงและได้รับการติดต่อให้ออกกรมธรรม์แต่อย่างใดจนถึงขณะนี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า ต่อมาภายหลังบริษัท เมืองไทยประกันภัย ได้รับการติดต่อจาก มาร์ช พีบีให้ดำเนินการแทน บริษัทกรุงเทพประกันภัย ซึ่งเมืองไทยประกันภัยก็กำลังดำเนินการขออนุญาตจาก คปภ. สำนัก งานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อให้อนุมัติแบบการเอาประกันภัย Trade Credit Insurance และ ไม่มีการออกกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองในวันที่ 14 สิงหาคมแต่อย่างใด
“มาถึงตรงนี้มาร์ช พีบี จึงวิ่งหา Atradius ฮ่องกง โดยปรากฏหลักฐานจากการที่มาร์ช พีบีได้นำเอา ตัวอย่าง ของกรมธรรม์ประกันภัย (Specimen) ออกโดย Atradius ฮ่องกงดังกล่าว และระบุอย่างชัดแจ้งว่า มาร์ช พีบี เป็นหน้าหน้าประกันวินาศภัย เสนอให้ เอซิส ” แหล่งข่าวกล่าว
บริษัทมาร์ช พีบี มีนายปิยะ ภิรมย์ภักดี เป็นผู้ถือหุ้นและมีรายชื่อเป็นกรรมการ โดยมีทุนจดทะเบียน14 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับ สายการบิน พีบีแอร์ บริษัทนี้จดทะเบียนครั้งแรก ชื่อ บริษัท เลสลี่ฮอลส์พีบี จำกัด ต่อมาเปลี่ยนชื่อครั้งที่สองเป็น บริษัทจอนห์สันแอนด์ฮิกกินส์ พีบี จัดกัด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 ครั้งที่ 3 เปลี่ยนเป็น บริษัทเจแอนด์เอชมาร์ชแอนแมคเลนแนนพีบี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2540 ครั้งสุดท้ายจึงเปลี่ยนมาเป็นบรษัท มาร์ช พีบี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2542