ลูกบ้าน “ร็อกการ์เด้น เหม่งจ๋าย” เดือดหลังโครงการไม่ยอมโอนถนนหลักเข้าหมู่บ้านให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร รวมตัวยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ สคบ. แจงถูกบริษัท ร็อกการ์เด้นฯ แหกตาว่าถนนเข้าโครงการกว้าง12 เมตรอยู่บนที่ดินของโครงการกว่า 2 ปี ล่าสุดเจ้าของที่ดินด้านข้างร้องขอให้โครงการเปิดถนนเมนหลักให้เป็นทางภาระจำยอม ต้องเปิดเส้นทางให้ผู้อื่นใช้ร่วม แจงต้องการให้เจ้าของโครงการปลอดถนนเมนหลักโครงการ จากการตกเป็นถนนภาระจำยอม จี้ผู้ประกอบการหากไม่สามารถทำได้ต้องคืนเงินส่วนของราคาที่แพงเกินจริงแก่ลูกบ้าน
วานนี้( 7 ก.ย.) นายศิริชัย ปิยะพิเชษฐกุล ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย และลูกบ้านโครงการ บ้านร็อคการ์เด้น (เหม่งจ๋าย) เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค( สคบ.)ด้านสัญญา กรณีที่ บริษัท ร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการบ้านร็อคการ์เด้น เหม่งจ๋าย ซึ่งตั้งอยู่แยกเหม่งจ๋ายมา บนถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง ทำผิดสัญญากับลูกบ้าน จากการโฆษณาชวนเชื่อเกินความจริง และหลอกลวงลูกบ้าน เพื่อปั่นราคาขายบ้านสูงเกินความน่าจะเป็น
นายศีริชัย กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มลูกบ้านบ้านร็อคการ์เด้นได้เข้าร้องเรียนต่อ สคบ. เพื่อเรียกร้องให้บริษัท ร็อคการ์เด้นฯ คืนสภาพหมู่บ้าน ซึ่งมีถนนเมนหลักในโครงการ กว้าง12 เมตร และให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรมีความเอกสิทธิ์ส่วนตัวเฉพาะกลุ่มลูกบ้าน ตามที่บริษัทดังกล่าวได้มีการโฆษณาไว้ หรือหากไม่สามารถดำเนินการได้ ลูกบ้านก็ข้อเรียกร้องให้บริษัทค่าเสียหาย โดยให้คืนเงินในส่วนที่มีราคาบ้านที่สูงเกินจริงหรือเกินราคาประเมินเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายโครงการของผู้ประกอบการหมูบ้านจัดสรรในพื้นที่
“เราซื้อบ้านพร้อมถนนส่วนตัวกว้าง12 เมตร แต่ปัจจุบันถนนดังกล่าว กำลังจะถูกร้องของจากผู้ประกอบการโรงเรียน นานาชาติรีเจนท์ ขอให้ถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนที่ติดภาระจำยอม ซึ่งจะส่งผลให้โครงการขาดความเป็นส่วนตัว เนื่องจากจะต้องเปิดให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่ลูกบ้านเข้ามาใช้ถนนในโครงการร่วมด้วย ซึ่งการที่ลูกค้าในโครงการตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการนี้เพราะ เห็นว่าโครงการมีความเป็นส่วนตัวบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าออกโครงการได้ ซึ่งยอมซื้อบ้านในราคาสูงถึงหลังละ 5 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินและราคาขายของโครงการในระแวกดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 2-2.5ล้านบาทเท่านั้น”
อย่างไรก็ตามในช่วงเปิดขายโครงการ บริษัท ร็อคการ์เด้นฯ ได้โฆษณาชวนเชื่อว่า ต่อลูกค้าในโครงการว่าทางเข้าหมู่บ้านมีความกว้าง12 เมตร โดยได้มีการก่อสร้างกำแพง ล้ำเข้าไปในที่ดินของบุคคลอื่นถึง 6 เมตรซึ่งในความเป็นจริงที่ดินซึ่งใช้ก่อสร้างเป็นทางเข้าโครงการมีความกว้างเพียง6 เมตร แต่บริษัทดังกล่าวได้หลอกลวงลูกบ้านด้วยการก่อสร้างกำแพงกันถนนและก่อสร้างถนนกว้างถึง 12 เมตร โดยก่อสร้างลุกล้ำเข้ามาในที่ดินของผู้อื่นอีก6 เมตร ทำให้ลูกบ้านเชื่อว่าถนนดังกล่าวเป็นที่ดินของโครงการทั้งหมดและตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการเพราะเชื่อว่าโครงการจะมีความเป็นส่วนตัว
สำหรับโครงการ บ้านร็อกการ์เด้น เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์2 ชั้นเปิดขายในช่วงปลายปี2547-2548 โดยโครงการดังกล่าวมีจำนวนบ้านทั้งหมดมี 63 หน่วย ราคาขายเริ่มต้นที่ 5-6.9ล้านบาท ซึ่งมีราคาขายสูงกว่าโครงการในพื้นที่เดียวกันซึ่งเปิดขายอยู่ที่ราคา 2-2.5 ล้านบาท
ทั้งนี้หลังจากที่ยื่นเรื่องแล้วทางสคบ.จะดำเนินการเรียกเจ้าของโครงการเข้ามาเจรจากับลูกบ้านภายใน1 สัปดาห์ แต่หาก สคบ. ส่งหนังสือเรียกให้ผู้ประกอบการเข้ามาเจรจาแล้วผู้เป็นเจ้าโครงการของยังเพิกเฉย ก็จะมีการออกหมายเรียกเจ้าของโครงการและหากยังมีการเพิกเฉยเจ้าของโครงการจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ อย่างก็ตามหลังจากที่ยื่นหนังสือที่ สคบ.แล้ว ลูกบ้านจะรวมตัวเดินทางเข้ายื่นเรื่องต้องสำนักงานตำรวจพื้นที่ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม อีกครั้งหนึ่ง
วานนี้( 7 ก.ย.) นายศิริชัย ปิยะพิเชษฐกุล ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย และลูกบ้านโครงการ บ้านร็อคการ์เด้น (เหม่งจ๋าย) เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค( สคบ.)ด้านสัญญา กรณีที่ บริษัท ร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการบ้านร็อคการ์เด้น เหม่งจ๋าย ซึ่งตั้งอยู่แยกเหม่งจ๋ายมา บนถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง ทำผิดสัญญากับลูกบ้าน จากการโฆษณาชวนเชื่อเกินความจริง และหลอกลวงลูกบ้าน เพื่อปั่นราคาขายบ้านสูงเกินความน่าจะเป็น
นายศีริชัย กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มลูกบ้านบ้านร็อคการ์เด้นได้เข้าร้องเรียนต่อ สคบ. เพื่อเรียกร้องให้บริษัท ร็อคการ์เด้นฯ คืนสภาพหมู่บ้าน ซึ่งมีถนนเมนหลักในโครงการ กว้าง12 เมตร และให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรมีความเอกสิทธิ์ส่วนตัวเฉพาะกลุ่มลูกบ้าน ตามที่บริษัทดังกล่าวได้มีการโฆษณาไว้ หรือหากไม่สามารถดำเนินการได้ ลูกบ้านก็ข้อเรียกร้องให้บริษัทค่าเสียหาย โดยให้คืนเงินในส่วนที่มีราคาบ้านที่สูงเกินจริงหรือเกินราคาประเมินเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายโครงการของผู้ประกอบการหมูบ้านจัดสรรในพื้นที่
“เราซื้อบ้านพร้อมถนนส่วนตัวกว้าง12 เมตร แต่ปัจจุบันถนนดังกล่าว กำลังจะถูกร้องของจากผู้ประกอบการโรงเรียน นานาชาติรีเจนท์ ขอให้ถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนที่ติดภาระจำยอม ซึ่งจะส่งผลให้โครงการขาดความเป็นส่วนตัว เนื่องจากจะต้องเปิดให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่ลูกบ้านเข้ามาใช้ถนนในโครงการร่วมด้วย ซึ่งการที่ลูกค้าในโครงการตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการนี้เพราะ เห็นว่าโครงการมีความเป็นส่วนตัวบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าออกโครงการได้ ซึ่งยอมซื้อบ้านในราคาสูงถึงหลังละ 5 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินและราคาขายของโครงการในระแวกดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 2-2.5ล้านบาทเท่านั้น”
อย่างไรก็ตามในช่วงเปิดขายโครงการ บริษัท ร็อคการ์เด้นฯ ได้โฆษณาชวนเชื่อว่า ต่อลูกค้าในโครงการว่าทางเข้าหมู่บ้านมีความกว้าง12 เมตร โดยได้มีการก่อสร้างกำแพง ล้ำเข้าไปในที่ดินของบุคคลอื่นถึง 6 เมตรซึ่งในความเป็นจริงที่ดินซึ่งใช้ก่อสร้างเป็นทางเข้าโครงการมีความกว้างเพียง6 เมตร แต่บริษัทดังกล่าวได้หลอกลวงลูกบ้านด้วยการก่อสร้างกำแพงกันถนนและก่อสร้างถนนกว้างถึง 12 เมตร โดยก่อสร้างลุกล้ำเข้ามาในที่ดินของผู้อื่นอีก6 เมตร ทำให้ลูกบ้านเชื่อว่าถนนดังกล่าวเป็นที่ดินของโครงการทั้งหมดและตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการเพราะเชื่อว่าโครงการจะมีความเป็นส่วนตัว
สำหรับโครงการ บ้านร็อกการ์เด้น เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์2 ชั้นเปิดขายในช่วงปลายปี2547-2548 โดยโครงการดังกล่าวมีจำนวนบ้านทั้งหมดมี 63 หน่วย ราคาขายเริ่มต้นที่ 5-6.9ล้านบาท ซึ่งมีราคาขายสูงกว่าโครงการในพื้นที่เดียวกันซึ่งเปิดขายอยู่ที่ราคา 2-2.5 ล้านบาท
ทั้งนี้หลังจากที่ยื่นเรื่องแล้วทางสคบ.จะดำเนินการเรียกเจ้าของโครงการเข้ามาเจรจากับลูกบ้านภายใน1 สัปดาห์ แต่หาก สคบ. ส่งหนังสือเรียกให้ผู้ประกอบการเข้ามาเจรจาแล้วผู้เป็นเจ้าโครงการของยังเพิกเฉย ก็จะมีการออกหมายเรียกเจ้าของโครงการและหากยังมีการเพิกเฉยเจ้าของโครงการจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ อย่างก็ตามหลังจากที่ยื่นหนังสือที่ สคบ.แล้ว ลูกบ้านจะรวมตัวเดินทางเข้ายื่นเรื่องต้องสำนักงานตำรวจพื้นที่ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม อีกครั้งหนึ่ง