xs
xsm
sm
md
lg

TVOตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต7% เล็งขยายกำลังการผลิตเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น้ำมันพืชไทย เตรียมแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพิ่มจาก 8.8 เป็น 9.6 แสนตันต่อปี รองรับความต้องการสินค้าอาหารแปรรูปจากถั่วเหลืองที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 7% จากปีก่อน 1.5 หมื่นล้านบาท ผู้บริหารระบุพิษเงินบาทกระทบเตรียมปรับลดสัดส่วนการส่งออกให้ต่ำกว่า 2% แย้มจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอาจมากกว่าปีก่อนที่ 0.25 ต่อหุ้นหลังประชุมบอร์ด ก.ย.นี้

นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทเตรียมแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากที่ปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตประมาณ 8.8 แสนตันต่อปีหรือ 80% โดยในปีนี้บริษัทจะพยายามเพิ่มกำลังการผลิตให้ประมาณ 9.6 แสนตันต่อปีหรือ 90% เพื่อรองรับความต้องการในสินค้าอาหารแปรรูปมาจากถั่วเหลืองที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยยังไม่ได้สรุปว่าจะสร้างโรงงานเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 51 จากที่ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานอยู่จำนวน 4 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยโรงงานในประเทศจำนวน 3 แห่งและต่างประเทศที่ประเทศจีนอีก 1 แห่ง

สำหรับในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 7% จากปีก่อนบริษัทมีรายได้ อยู่ที่ 15,345.67 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 7,778 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการผลิตกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)ในปีนี้คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6% จากปีก่อนอยู่ที่ 4% เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบและมีการปรับราคากากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น 3-4 % และน้ำมันถั่วเหลือ 15% ซึ่งเป็นไปตามราคาตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 25% จากที่ปัจจุบันราคาถั่วเหลืองตลาดโลกอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน

นายเศรษฐสรร กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมแผนที่จะปรับลดสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศ จากที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 2% จากปีก่อนอยู่ที่ 6% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และจะหันมาจำหน่ายสินค้าในประเทศมากขึ้นเป็น 86% จากปีก่อนอยู่ที่ 82% หากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่ามากกว่า 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

“ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าต่างประเทศหลักๆก็จะเป็น มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งหากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก บริษัทคงต้องปรับสัดส่วนการส่งออกลง โดยการไม่หาตลาดใหม่เพิ่มเติม แต่ไม่ถึงกับหยุดหารส่งออก ซึ่งบริษัทก็ยังคงรักษาลูกค้าเดิมไว้” นายเศรษฐสรรกล่าว

สำหรับแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นนั้น นายเศรษฐสรรกล่าวว่าบริษัทคาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณางบการเงินรวมและการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น โดยบริษัท มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 60% ของกำไรสุทธิ และในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทจ่ายปันผลได้ไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีแรกบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นมีแนวโน้มที่บริษัทอาจจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงกว่างวดปีก่อนที่จ่าย 0.25 บาทต่อหุ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น