xs
xsm
sm
md
lg

หลักธรรมสำหรับสถานการณ์ในไทย (29) : พระพรวันแม่ (1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ผมเชื่อว่าชาวไทยทุกคนย่อมรู้สึกปลื้มปิติและใคร่อธิษฐานถวายพระพรแด่องค์พระบาทสมเด็จพระราชินีนาถ ขอทรงพระเกษมสำราญ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ และทรงพระเจริญเป็นคู่พระบารมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างยิ่งยืนนาน

วันมหามงคลดังกล่าว จึงได้จัดเป็นเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ผมมีแรงบันดาลใจนึกถึงพระพรยิ่งใหญ่ในชีวิตที่เราได้รับจากคุณแม่ ความเข้าใจในความรักที่ลึกซึ้ง คือ ความเข้าใจใน “ความรักของแม่” เป็นความรักที่เป็นการให้ การอุ้มท้องกว่า 9 เดือน คือการให้ เกินกว่าที่จะคาดว่าหวังอะไร การเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ การดูแลอบรมสั่งสอน เป็นสิ่งที่แม่ต้องเสียสละ ทุ่มเท เพื่อลูกมาโดยตลอด และทำให้ผมนึกถึงกลอนที่ผมและพี่น้องได้แต่งให้กับคุณแม่ วรรณภา ศรไพศาล ในโอกาสที่คุณแม่มีอายุครอบ 60 ปี ดังนี้

แม่คือหญิง นักสู้ ผู้ยิ่งใหญ่
แม่สู้ภัย อุปสรรค ตั้งแต่เด็ก
แม่เลี้ยงดู อุ้มชู 5 ลูกเล็ก
แม่ผู้นั้น หญิงเหล็ก “วรรณภา”
แม่อบรม สั่งสอน เรื่องถูกผิด
แม่สอนให้ ตั้งจิต คิดก้าวหน้า
แม่สอนให้ คุณธรรม นำชีวา
แม่สอนให้ สู้ปัญหา ฝ่าทุกข์ภัย
แม่คอยให้ ความรัก ความอบอุ่น
แม่เจือจุน คนรอบข้าง มาทุกสมัย
แม่เป็นแบบ ให้ความรัก ให้อภัย
แม่จริงใจ ต่อผู้คน จนรวยเหมือนกัน
ขออธิษฐาน อวยพรแม่ ให้มีแต่สุข
ให้ชื่นใจ ให้ไร้ทุกข์ ให้สนุกสนาน
ให้แข็งแรง สุขภาพดี อายุยืนนาน
ให้ภาคภูมิใจ ในลูกหลาน ผลงานของเธอ


ผมขอนำเสนอข้อคิด บทเรียน และแรงบันดาลใจจากชีวิตของคุณแม่ วรรณภา ศรไพศาล ดังนี้

1.ชีวิตนักสู้แบบ “หญิงเหล็ก”: คุณแม่เกิดมาในครอบครัวคนจีนครอบครัวใหญ่ที่ได้มาอาศัยพระคุณแผ่นดินไทย คุณแม่เสียพ่อ (คุณตาของผม) ตั้งแต่ที่แม่ยังเป็นเด็กน้อย ด้วยความยากจนของครอบครัว มีผู้เสนอให้ขายคุณแม่ที่เป็นเด็กน้อยไปให้ครอบครัวอื่น แต่พี่ชาย (คุณลุงของผมไม่ยอม) คุณแม่จึงยังได้อยู่ในครอบครัวต่อไป คุณแม่เติบโตอย่างเด็กสาวที่สดใส มีความสุข มีพลัง ช่วยที่บ้านขายอาหาร ขายน้ำแข็ง และด้วยความอยากเรียนรู้ ก็ได้เรียนที่โรงเรียน เรียนพิเศษ และสอบเทียบข้ามชั้น เพื่อให้ประสบความสำเร็จโดยประหยัดค่าเล่าเรียน

คุณแม่ได้พบรักกับคุณพ่ออย่างน่ารัก (ลูกๆดีใจมากที่พ่อกับแม่ปิ๊งกัน) แต่ก็มีอุปสรรคไม่น้อย เพราะพ่อกับแม่มีแซ่เดียวกัน ซึ่งมีหลายคนที่ถือ ไม่อยากให้คนแซ่เดียวกันแต่งงานกัน ดีที่คุณปู่คุณย่าเข้าใจ ที่เมืองจีน ก็ถือเช่นเดียวกันว่า ถ้าเป็นคนแซ่เดียวกัน แต่ไม่ใช่ครอบครัวใกล้ชิดกันก็แต่งงานกันได้ ส่วนคุณยายก็วางเงื่อนไขตอนที่คุณพ่อไปสู่ขอว่า ขอดู 3 วัน ถ้าไม่มีถ้วยชามแตก ก็อนุญาตให้แต่งงานตามใจได้ คุณพ่อจึงบอกให้คุณแม่ใช้ถ้วยชามที่เป็นเหล็ก (ฮา)

คุณพ่อคุณแม่ทำงานหนักเลี้ยงดูลูกๆ 5 คน คุณแม่ขายของที่ร้าน คุณพ่อขนสินค้าไปขายในต่างจังหวัด ลูกๆทุกคนเห็นความเข้มแข็งในการทำงานของคุณพ่อคุณแม่อย่างประทับใจ คุณแม่ตื่นตีสี่ตีห้า ขายของจนดึกๆดื่นๆ 3-4 ทุ่มมีคนมาเคาะประตู คุณแม่ ก็ยังยินดีขายของ แล้วครอบครัวเราก็เผชิญเรื่องน่าเสียใจ เมื่อผมอายุเพียง 17 ปี พี่ชายคนโตอายุ 19 ปี คุณพ่อก็ป่วยเสียชีวิตจากเราไป และ 3 ปีต่อมา ร้านค้าที่เราเช่าเขาก็ประสบอุบัติเหตุไฟไหม้ไป ในหลายปีช่วงนั้น หลายคนก็แนะคุณแม่ว่า “อย่าให้ลูกเรียนสูง ถ้าเรียนสูงแล้วจะไม่ได้มาช่วยงานที่บ้าน” แต่คุณแม่ก็ยังยืนหยัดต่อสู่เพื่อลูกๆได้เล่าเรียนตลอดมา จนทุกคนจบแพทย์และวิศวฯ กันทุกคน เราพี่น้อง 5 คนมีดังนี้

ดร. สมจินต์ ศรไพศาล วิศวฯ จุฬาฯ MBA ม.ธรรมศาสตร์ JDBA ของจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ และ NIDA ปัจจุบันเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. วรรณ (สอบเทียบ 1 ปี)

มนตรี ศรไพศาล วิศวฯ จุฬาฯ MBA ม.ธรรมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (สอบเทียบ 1 ปี)

ชูเสกก์ ศรไพศาล แพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปัจจุบันเป็นนายแพทย์ 8 กองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดคลีนิคแพทย์จุฬาฯ ที่บ้าน (สอบเทียบ 3 ปี)

บัณฑิต ศรไพศาล แพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สอบเทียบ 2 ปี)

เกรียงศักดิ์ ศรไพศาล วิศวฯ จุฬาฯ MBA ม.ธรรมศาสตร์ ปัจจุบัน เป็นกรรมการบริษัท 55 กิฟท์ จำกัด

ความสำเร็จของลูกๆ เกิดจากความทุ่มเทเสียสละของคุณแม่อย่างแท้จริง หลายครั้งที่เราเผชิญปัญหาในชีวิต เราอาจรู้สึกกังวล สิ้นหวังรู้สึกปัญหาใหญ่เหลือเกิน แต่หากมองถอยไปถึงสมัยที่รุ่นพ่อแม่เราเผชิญปัญหา หนักหนากว่ารุ่นเราเท่าใด ยิ่งสมัยที่มีสงคราม การต่อสู้ปัญหาตั้งแต่ที่ฐานะยากจน คุณแม่เป็นแบบอย่างการต่อสู้ที่ไม่ได้หวังสะสมสมบัติของตัว ความสำเร็จในชีวิต คือการทุ่มเทให้การศึกษาแก่ลูกๆ และเราก็เห็นความรักและความสุขใจของแม่ ที่ได้เป็น “ผู้ให้” แก่ลูกๆตลอดมา

2.แม่เป็น “ผู้สอน” : แม่เป็นนักสอนที่เราประทับใจ ให้รักษาชีวิตในทางชอบธรรม มีคุณธรรมนำชีวิต มีจิตใจที่รักความก้าวหน้า ไม่ว่าเผชิญปัญหาทุกยากลำบากเพียงไร ก็ให้ “สู้” กับปัญหาเสมอ ซึ่งคุณแม่ก็ได้สอนอย่างเข้าใจได้ง่ายและชัดเจน เพราะแบบอย่างชีวิตนักสู้แบบหญิงเหล็กของแม่ ทำให้เราเรียนรู้และเป็นกำลังใจให้เรา “สู้” ปัญหา อย่างหนักแน่น เข้มแข็ง และสุขใจอย่างคุณแม่ได้มาโดยตลอด

3.แม่เป็นแบบอย่าง “ความรัก” : คุณแม่รักลูกอย่างดี เสียสละให้ลูกๆมาโดยตลอด แม้เราโตแล้ว คุณแม่ก็ยังคอยช่วยเหลือเสมอ ตอนที่ผมจบใหม่ๆ ใช้รถเก่าๆ บางช่วงมีปัญหา แม่ยังคอยช่วยเข็นรถให้สตาร์ท ทั้งที่เข่าของคุณแม่ก็ไม่แข็งแรง เป็นความรักที่เราไม่มีวันลืมได้จริงๆ และแม่ก็รักทุกๆคนรอบข้าง มองคนในด้านดี ดีต่อทุกคนไม่ว่าจะจนจะรวย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต พนักงานขายของที่ร้าน คนขอขายของหน้าร้าน ฯลฯ ทำให้เรามีแต่มิตร และความสุขสงบใจในครอบครัวเสมอ

4.ขออวยพรแม่ : ลูกๆก็ขอพระพรให้คุณแม่มีแต่ความชื่นใจ ไร้ทุกข์ สุขภาพแข็งแรง อายุยืนนาน และขอให้ได้สุขใจและภาคภูมิใจในผลงานที่ที่ได้สร้างลูกหลาน (5 ลูกชาย 5 ลูกสะใภ้ และหลานๆ 11 คน) มาได้เป็นอย่างดี

ชีวิตรุ่นพ่อแม่ เป็นกำลังใจให้เราเผชิญปัญหาอย่างมีพลัง และมีความหวัง ตั้งมั่นในคุณธรรมและนำให้เศรษฐกิจเจริญยั่งยืน

ความรักต้องแสดงออก สำหรับ “แม่” ผู้รักเราอย่างยิ่งใหญ่ ทุ่มเทชีวิตสร้างเรามา การแสดง “ความรัก” ก็แทบจะพอเพียง ในเทศการวันแม่นี้ เราได้เตรียมอะไรให้หรือบอกรักต่อ “คุณแม่” ที่รักยิ่งของเราแล้วหรือยังครับ ? สุขสันต์วันแม่ครับ

มนตรี ศรไพศาล
(montee4life@yahoo.com)
กำลังโหลดความคิดเห็น