xs
xsm
sm
md
lg

หลักธรรมสำหรับสถานการณ์ในไทย (27) : “ไทยต้องรักไทย” และ “ประชาชนต้องมาก่อน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประชาชนส่วนใหญ่ชอบใจตามหลักการของชื่อพรรค “ไทยรักไทย” และเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ก็จะชอบใจปณิธาน “ประชาชนต้องมากก่อน” เพราะผมเชื่อว่าหลักธรรมทางการเมืองนั้น “ไทยต้องรักไทย” และ “ประชาชนต้องมาก่อน” จริงๆ

แม้ว่า คนอาจจะไม่แน่ใจว่า หลักการสวยหรูต่างๆ จะเป็นเฉพาะช่วงหาเสียงหรือไม่ ? ก็อยากให้เริ่มที่ความเชื่อในทางสว่างไว้ แล้วบ้านเมืองจะกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองสว่างไสวยั่งยืนตลอดไป ผมมีหลักธรรมหลายประการ สำหรับเรื่องหลักธรรมสำหรับการเมืองดังนี้

1.เชื่อแล้วจะเห็น ไม่ใช่เห็นแล้วจะเชื่อ : มีประโยคดีๆด้านบริหารงานอยู่ว่า “Leaders do not see the organization as what it is, … but as what it can become.” หมายความว่า ผู้นำที่ดี ไม่ได้เห็นองค์กรตามที่มันเป็นอยู่ แต่เห็นอย่างที่มันมีศักยภาพจะเป็นไปได้

แม้เราชาวไทย จะผิดหวังกับการสร้างความหวังของนักการเมืองมามาก ก็ขอให้มีกำลังใจกันไว้เสมอ ตั้งความคาดหวัง และรักษาความเชื่อในทางสว่างไว้เสมอ เพราะ แม้เราจะยังไม่เห็นสิ่งดีๆต่างๆที่อยากเห็นนั้น แต่ถ้าเราไม่เชื่อ เราจะไม่มีโอกาสเห็นเลย ถ้าเราเชื่อ และช่วยกันกำกับดูแล สิ่งต่างๆก็จะดีได้ตามความเชื่อที่เรามี

2.เชื่อว่า “ต้นไม้ดีให้ผลดี ต้นไม้เลวให้ผลเลว” : ถ้าเราเชื่อว่า “การเมืองมีแต่โกงกันทั้งนั้น อย่ามาถามเรื่องโกงกันเลย เป็นคนอื่นก็จะโกงเหมือนกัน” จากประสบการณ์ของผม เมื่อใดที่โกง ก็ต้องทักท้วง ตรวจสอบ ประณาม และเอาผิดตามหลักฐานก็ยังเห็นโกงกันเป็นร้อยล้านพันล้านบาท คนที่อยากให้เชื่อว่า “ไม่ต้องมาถามว่าฉันโกง (เพราะฉันปฏิเสธไม่ได้) เพราะคนอื่นมาก็โกงอยู่ดี” คงจะได้โกงกันเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาทเป็นแน่ !! ผมว่าเราก็อดทนในการตรวจสอบ และจดจำพวกคดโกงชาติ และพวกสนับสนุนคนโกงชาติ เพื่อไม่เลือกเข้าไปโกงเราอีก ก็จะดีขึ้นได้สักวันครับ

3.มีความหวังอยู่เสมอ : ผมชอบคำสอนให้อธิษฐานว่า “แผ่นดินสวรรค์เป็นเช่นไร ขอให้เป็นเช่นนั้นในแผ่นดินโลก” หลายครั้งที่เราอยู่ท่ามกลางคนเห็นแก่ตัว ตักตวงผลประโยชน์เข้าหาตัว ไม่คำนึงถึงหัวจิตหัวใจของกันและกัน เรารู้สึกว่าโลกเป็นดังนรก เราก็จะหดหู่ ท้อแท้ แต่มีคำสอนให้เรากล้าคิด กล้าฝัน กล้าเชื่อ กล้าหวังว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นเช่นไร ขอให้เป็นเช่นนั้นในแผ่นดินโลก เราก็มีความหวัง มีความสบายใจ แม้ยอมรับว่า โลกยังไม่ใกล้ความเป็นสวรรค์ แต่ไม่มีอะไรดีกว่าการช่วยกัน ทำให้เป็นดังสวรรค์ ห่างจากความเป็นชาวนรก ผมเชื่อว่า คนส่วนใหญ่จริงๆแล้วอยากรักษาจิตใจไม่ให้เป็นชาวนรกไปด้วย เราจึงต้อง ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ไม่เชื่อว่า “ใครๆก็โกงทั้งนั้น” และช่วยกันต่อต้านคนที่พยายามทำให้เชื่อว่า “อย่าว่าฉันว่าโกงเลย คนอื่นก็โกงเหมือนฉันแหละ” ผมว่าชาติคงจะถูกโกงจนลูกหลานลำบากแน่

4.ไทยต้องรักไทย = ประชาชนต้องมาก่อน : หลักประชาธิปไตย คือการเลือกผู้นำ มีคำสอนอยู่ว่า “ในพวกท่าน หากผู้ใดจะเป็นผู้นำ ให้เป็นผู้รับใช้คนทั้งปวง” และอีกหลักหนึ่งว่า “หลักธรรมข้อใหญ่ คือ จงรักโลก รักส่วนรวม และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” ดังนั้น ด้วยหลักการนี้ ไทยจึงต้องรักไทย และประชาชนจึงต้องมาก่อนจริงๆ

5.บุคคล คือทรัพยากรที่มีค่ายิ่งของโลก : มนุษย์เราถูกสร้างมาอย่างดีเลิศตามพระฉายของพระผู้สร้าง ให้ครอบครองสรรพสิ่ง ผมดีใจที่นักการเมืองเห็นคุณค่าของประชาชน และให้ความสำคัญกับการพัฒนาขีดความสามารถของประชาชน ผมไม่อยากเห็นการช่วยประชาชนง่ายๆ หรือการทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตตกต่ำลงเช่น ชวนให้พักหนี้ ฯลฯ หน้าที่ของผู้นำ คือ ทำให้คนได้พัฒนา และได้ใช้ศักยภาพของตนที่ถูกสร้างมาอย่างดี ไม่ใช่อยากจะสร้างความหวังว่าจะได้อะไรง่ายๆ อย่างครั้งที่แล้วเรื่อง “วัวล้านตัว” ฟังก็อาจจะดูดี คำนวณดูก็อาจจะดีว่า ลงทุนเท่าไร ใช้จ่ายเท่าไร กำไรเหลือเท่าไร แต่ลองคิดดูว่า ถ้าวัวล้านตัวออกมาในตลาดพร้อมๆกัน ราคาวัตถุดิบที่ต้องใช้จะเหมือนที่คาดหรือไม่ ราคาขายจะเหมือนเดิมหรือไม่ “ถ้าพรรคการเมืองรักประชาชนจริง ต้องไม่ใช่ให้ความรู้สึกว่า นักการเมืองพรรคนั้นๆจะเป็นที่พึ่งที่ดีเสมอ แต่ต้องให้ประชาชนพัฒนาได้ ถึงขั้นไม่ต้องพึ่งนักการเมืองมากกว่า”

6.เศรษฐกิจต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเข้มแข็ง : โดยทั่วไป ผมติดตามเศรษฐกิจในวงการหลักทรัพย์มาประมาณ 20 ปี ผมเห็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ทำได้ดีทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยรักไทย

พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำประเทศให้มีเครดิตสูงสุดในประวัติศาสตร์ไทยที่ได้ A หลังจากถูกลดเครดิตเป็น Junk Grade ในช่วงวิกฤต ก็ทำขึ้นกลับมาเป็น Investment Grade ได้อีกครั้ง ในด้านตลาดหุ้น ดัชนีหุ้นสูงสุด 1,770 ก็ช่วงรัฐบาลประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนี้ก็ยังฟื้นตัวไม่ได้ครึ่งหนึ่งด้วย ผมได้เคยเห็นคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นเมื่อ 2 ปีก่อนว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดอกเบี้ยสูง เพราะเศรษฐกิจมีการชะลอตัว ซึ่งเราก็เห็นว่าดอกเบี้ยสูงมีส่วนทำให้ค่าเงินแข็ง และค่าเงินแข็งก็ทำให้เราแข่งขันยาก ซึ่ง ธปท. ขณะนั้นอาจเป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อ คุณอภิสิทธิ์ก็บอกว่า “ที่มีปัญหาเงินเฟ้ออยู่บ้าง เป็นปัญหา cost push ไม่ใช่ demand pull” คือเกิดจากต้นทุนน้ำมันสูง ไม่ใช่ความต้องการมากเกินไป และหากขึ้นดอกเบี้ย จะเป็นการซ้ำเติมต้นทุนด้วยซ้ำ โดยผมได้ยินเรื่องนี้กว่า 2 ปีที่แล้วจากท่านเป็นคนแรกๆ ผมจึงรู้สึกว่าท่านมีความรอบรู้และวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจอย่างหาตัวจับได้ยาก ซึ่งถ้ามองการบริหารบ้านเมืองแล้ว ผมว่าเราต้องการยิ่งกว่าคนทำธุรกิจ และเราต้องการคนนำเศรษฐกิจของชาติซึ่งก็คือกิจการ และความเป็นอยู่ของประชาชนให้ไปได้ดียั่งยืน จึงเชื่อว่า ท่านจะนำเศรษฐกิจบ้านเมืองไปได้ดีแน่ๆ

ด้าน ทรท. เดิม โดยเฉพาะจากการนำของ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ผมว่าคนวงการธุรกิจก็เห็นฝีมือ และสบายใจ

ผมจึงเชื่อว่า หลังการเลือกตั้ง เราต้องมีคนดี ทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน และผมก็ได้เห็นสาระของรัฐธรรมนูญดีมาก ผมอยู่ในกลุ่มที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่ผมเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ดีไม่แพ้กัน และหลายๆข้อก็ดีกว่าด้วย เชื่อว่า หากเราร่วมกันลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การเลือกตั้ง เศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย ก็จะเดินสู่ทางสว่างสดใสยั่งยืนต่อไปครับ

มนตรี ศรไพศาล
(montree4life@yahoo.com)
กำลังโหลดความคิดเห็น