ผู้บริหาร ธ.กสิกรฯ เต้น! พบชื่อบรรณพจน์ โผล่ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 11 ของธนาคาร หวั่นโยกเงิน 2 หมื่นล้านเข้าซุกในตลาดหุ้น โบรกเกอร์ ชี้ นอมินีของนักการเมืองเต็มตลาด เอาไว้ปั่นหาทุนลงเลือกตั้ง
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏรายชื่อ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารนั้น พบว่า ข้อมูลดังกล่าวมาจากการปิดพักทะเบียนหุ้นของธนาคารเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ปรากฏชื่อ นายบรรณพจน์ เป็นผู้ถือหุ้นในอันดับ 11 ของธนาคารจริง โดยถืออยู่ 28.9 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.21%
นายประสาร เชื่อว่า การถือหุ้นนั้นธนาคาร คงไม่ทราบว่าใครเป็นนอมินีของใคร หรือจะไปซื้อในนามคนอื่นที่เป็นนอมินี ยกเว้นจะมีอาการออกมาให้เห็น ซึ่งเวลานี้ก็ยังไม่เห็นอาการผิดปกติใดๆ และยังไม่มีเหตุให้แบงก์ต้องเข้าไปตรวจสอบ อีกทั้งในการประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา นายบรรณพจน์ ก็มอบสิทธิให้ลงมติตามที่คณะกรรมการเสนอ
สำหรับกรณีคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตรวจสอบพบเงินที่หายไปจากบัญชี 2 หมื่นล้านบาท ก็จะดำเนินการอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว เพิ่มเติมนั้น นายประสาร กล่าวว่า ธนาคารไม่มีทางรู้ว่าเงินที่นายบรรณพจน์ นำมาซื้อหุ้นของธนาคารเป็นเงินจากแหล่งใด เพราะหุ้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ใครจะมาซื้อก็ได้ เหมือนคนจะมาฝากเงิน ใครก็ฝากได้ หาก คตส.จะอายัดหลักทรัพย์ก็ทำได้ เหมือนกับการอายัดบัญชีเงินฝาก
นอกจากนี้ การที่ นายบรรณพจน์ เปิดเผยชื่อของตัวเองในศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ไม่ได้มีการปิดบัง หรือหลบซ่อน จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นว่าจะดอดมาซื้อหุ้นเพื่อหวังอำนาจในการบริหาร
มีการตั้งข้อสังเกตว่า สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นในธนาคารค่อนข้างกระจาย หากจะเข้าข่ายเข้ามามีอำนาจบริหารต้องถือหุ้นในสัดส่วน 5% 10% 15% 20% แต่ตอนนี้นายบรรณพจน์ถือหุ้นเพียง 1% กว่าเท่านั้นเอง ถือว่าคงเป็นการเอาเงินมาซุกเก็งกำไรมากกว่า หรืออาจเอาไว้ปั่นหุ้น หรือหาทุนเลือกตั้งก็ได้
โบรกเกอร์รายหนึ่งซึ่งมีสายสัมพันธ์กับพอร์ตนักการเมือง ไม่เชื่อว่า นายบรรณพจน์จะถือหุ้นในธนาคารกสิกรไทยเพียง 1.21% เพราะในวงการคุยกันว่าน่าจะมีการถือหุ้นในนามนอมินีอีกจำนวนหนึ่ง แต่กระจายออกไป เพื่อไม่ให้มีรายชื่อปรากฏเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จนต้องแจ้งรายชื่อต่อ ตลท.
ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวถึงหุ้นธนาคารกสิกรไทย โดยระบุว่า เป็นหุ้นที่ดูง่ายมาก เพราะมีสภาพคล่องสูง หากมีการไล่ซื้อหุ้นเก็บในพอร์ตก็จะเห็นการไล่ซื้อราคา ซึ่งโดยปกติเมื่อมีผู้ถือหุ้นเกินกว่า 5% นักลงทุนจะต้องรายงานต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เห็นผู้ถือหุ้นหน้าใหม่ที่รายงานการถือหุ้นเกิน 5% ทั้งนี้ จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลต) อยู่ที่ 44,772 คน คิดเป็น 98.72% จากจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด ณ วันที่ 19 เม.ย.2550 จำนวน 45,552 คน