บลจ.กสิกรไทย โชว์ฝีมือบริหารกองทุนผสมมาเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม โดยตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 10.25% เหนือเกณฑ์มาตรฐานที่ให้ผลตอบแทน 6.93% พร้อมการันตีผลงานด้วยรางวัลจากโพสต์-ลิปเปอร์ ล่าสุด เดินหน้าปรับภาพลักษณ์กองทุนภายใต้การบริหารให้มีความทันสมัย เสริมด้วยการพัฒนาระบบคอลเซ็นเตอร์อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2550 ถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2550 บลจ.กสิกรไทย มีผลการดำเนินงานรวมของกองทุนประเภทกองทุนรวมผสม และกองทุนรวมตราสารทุนภายใต้การจัดการ เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมกองทุนรวม โดยกองทุนรวมผสมมีผลการดำเนินงานรวมถึง 10.25% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 6.93% นอกจากนี้ กองทุนประเภทดังกล่าวยังคว้ารางวัลคว้ารางวัลจากงาน เดอะโพสต์-ลิปเปอร์ ไทยแลนด์ ฟันด์ อะวอร์ด 2007 (The Post-Lipper Thailand Fund Awards 2007) ถึง 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลกองทุนผสมที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมภายในระยะเวลา 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ขณะที่กองทุนรวมตราสารทุน มีผลการดำเนินงานรวมถึง 12.56% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน (ดัชนีตลาดทรัพย์) อยู่ที่ 7.20%
“นอกจากการมุ่งสร้างผลการดำเนินงานรวมที่ดีแล้ว ในปีนี้ บลจ. กสิกรไทย ยังมุ่งดำเนินกลยุทธ์เน้นหนักในการบริหารจัดการกองทุนต่างๆ ให้มีผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับปรับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ภายใต้การจัดการของบริษัทให้มีความทันสมัย และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้ผู้ลงทุนได้รับความพึงพอใจยิ่งขึ้นอีกด้วย”นางวิวรรณกล่าว
สำหรับการปรับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ นอกเหนือจากการเปิดตัวกองทุนเปิดเค ไลฟ์สไตล์ ( K-Lifeatyle Fund) ที่เปิดขายเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะจากนักลงทุนรุ่นใหม่ ด้วยยอดขายในช่วง IPO กว่า 1,800 ล้านบาท บลจ. กสิกรไทย ยังได้ดำเนินการจัดกลุ่มกองทุนหลักที่ครอบคลุมความต้องการในการลงทุนของผู้ลงทุนกลุ่มต่างๆ โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ภายใต้ชื่อ K-Tax Saving Mutual Fund, K-Fixed Income Mutual Fund , K-FIF Mutual Fund, K-Equity Mutual Fund และ K-Lifestyle Fund พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนชื่อกองทุนในกลุ่มดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 14 กองทุน ซึ่งเอื้อต่อการจดจำ อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัย ทันต่อสถานการณ์การลงทุน และสไตล์การลงทุนที่เน้นนโยบายเชิงรุกของ บลจ. กสิกรไทย มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการผู้ถือหน่วยลงทุนผ่าน KAsset Call Center ด้วยการเพิ่มคู่สายโทรศัพท์และเพิ่มจำนวนผู้ให้บริการในส่วนบริการผู้ลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับความสะดวกฉับไวในการใช้บริการสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์ยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนเลขหมายของ KAsset Call Center เป็นหมายเลข 0-2673-3888 ซึ่งในขณะนี้ได้เปิดใช้เพื่อทดสอบและพัฒนาระบบให้พร้อมเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2550 ถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2550 บลจ.กสิกรไทย มีผลการดำเนินงานรวมของกองทุนประเภทกองทุนรวมผสม และกองทุนรวมตราสารทุนภายใต้การจัดการ เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมกองทุนรวม โดยกองทุนรวมผสมมีผลการดำเนินงานรวมถึง 10.25% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 6.93% นอกจากนี้ กองทุนประเภทดังกล่าวยังคว้ารางวัลคว้ารางวัลจากงาน เดอะโพสต์-ลิปเปอร์ ไทยแลนด์ ฟันด์ อะวอร์ด 2007 (The Post-Lipper Thailand Fund Awards 2007) ถึง 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลกองทุนผสมที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมภายในระยะเวลา 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ขณะที่กองทุนรวมตราสารทุน มีผลการดำเนินงานรวมถึง 12.56% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน (ดัชนีตลาดทรัพย์) อยู่ที่ 7.20%
“นอกจากการมุ่งสร้างผลการดำเนินงานรวมที่ดีแล้ว ในปีนี้ บลจ. กสิกรไทย ยังมุ่งดำเนินกลยุทธ์เน้นหนักในการบริหารจัดการกองทุนต่างๆ ให้มีผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับปรับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ภายใต้การจัดการของบริษัทให้มีความทันสมัย และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้ผู้ลงทุนได้รับความพึงพอใจยิ่งขึ้นอีกด้วย”นางวิวรรณกล่าว
สำหรับการปรับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ นอกเหนือจากการเปิดตัวกองทุนเปิดเค ไลฟ์สไตล์ ( K-Lifeatyle Fund) ที่เปิดขายเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะจากนักลงทุนรุ่นใหม่ ด้วยยอดขายในช่วง IPO กว่า 1,800 ล้านบาท บลจ. กสิกรไทย ยังได้ดำเนินการจัดกลุ่มกองทุนหลักที่ครอบคลุมความต้องการในการลงทุนของผู้ลงทุนกลุ่มต่างๆ โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ภายใต้ชื่อ K-Tax Saving Mutual Fund, K-Fixed Income Mutual Fund , K-FIF Mutual Fund, K-Equity Mutual Fund และ K-Lifestyle Fund พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนชื่อกองทุนในกลุ่มดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 14 กองทุน ซึ่งเอื้อต่อการจดจำ อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัย ทันต่อสถานการณ์การลงทุน และสไตล์การลงทุนที่เน้นนโยบายเชิงรุกของ บลจ. กสิกรไทย มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการผู้ถือหน่วยลงทุนผ่าน KAsset Call Center ด้วยการเพิ่มคู่สายโทรศัพท์และเพิ่มจำนวนผู้ให้บริการในส่วนบริการผู้ลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับความสะดวกฉับไวในการใช้บริการสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์ยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนเลขหมายของ KAsset Call Center เป็นหมายเลข 0-2673-3888 ซึ่งในขณะนี้ได้เปิดใช้เพื่อทดสอบและพัฒนาระบบให้พร้อมเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้