xs
xsm
sm
md
lg

"กลุ่มนิรันดร์"ไม่หวั่นบ้านหรูซบเซา งัดที่สวนหลวงร.9พัฒนาหลังละ20ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มนิรันดร์ไม่หยุดขยายโครงการ งัดที่ดินบริเวณ สวนหลวงร.9 ผุดบ้านแพงราคา 10-20 ล้านบาท บนเนื้อที่ 8-9 ไร่ มั่นใจความต้องการซื้อยังมี เน้นกลุ่มผู้บริหารในภาคธุรกิจ ระบุอาจจะใช้แบรนด์ใหม่ เพื่อลดความสับสนของลูกค้าที่ยึดติดแบรนด์นิรันดร์ทำบ้านราคาถูก เปรยเป้ายอดขายปีนี้ หากทำได้ 1,500 ล้านบาทก็พอใจ ส่วนโครงการที่สุวรรณภูมิปิดการขายแล้ว ลั่นยังไม่คิดจะซื้อที่ดินเพิ่ม ระบุโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ สเตชั่น ยอดขายกว่า 75% ตั้งเป้าไม่เกิน 4 เดือนปิดการขายทั้งโครงการได้

นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ ประธานกรรมการบริษัท นิรันดร์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าพ่อคอนโดมิเนียมระดับล่างภายใต้แบรนด์ "นิรันดร์คอนโด"เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนของกลุ่มนิรันดร์ว่า ยังคงเดินหน้าขยายโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่เป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากต้องการประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเป็นอย่างไรต่อ โดยบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน บริเวณสวนหลวง ร.9 บนเนื้อที่ประมาณ 8-9 ไร่ ระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาท ถึงสูงสุด 20 ล้านบาท ขนาดตั้งแต่ 200 ตารางวาขึ้นไป ซึ่งจะใช้บริษัท นิรันดร์ วิลล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของนิรันดร์ดำเนินการพัฒนา

"โครงการดังกล่าวทางบริษัทไม่ได้รีบเร่ง เพราะต้องการดูตลาดให้ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการและแบบบ้านที่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า ทำเลดังกล่าวความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าเป้าหมายหลักคือ ผู้บริหารบริษัทเอกชน อย่างไรก็ดี ในเรื่องของชื่อโครงการนั้น อาจจะมีการตั้งชื่อแบรนด์ใหม่ เนื่องจากหากใช้คำว่านิรันดร์แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จะซึมซับว่าเป็นบริษัทที่พัฒนาโครงการระดับล่าง "นายธำรงกล่าว

นอกจากนี้แล้ว บริษัทยังมีที่ดินรอพัฒนาอีก 60 ไร่บริเวณสวนหลวงร.9 ซึ่งในแผนจะพัฒนาเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ จำนวน 400 ยูนิต ขนาด 20-22 ตารางวา ราคาประมาณ 1.5-1.6 ล้านบาท โดยใจะใช้บริษัท นิรันดร์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด ดำเนินการพัฒนา

นายธำรง กล่าวถึงเป้าการขายของบริษัทในปีนี้คาดว่า หากสามารถทำรายได้จากการขายและรายได้จากค่าเช่าและบริการได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ก็ถือว่าน่าพอใจ เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ ยังไม่ได้เอื้ออำนวยต่อการขายมากนัก แต่ด้วยแบรนด์ของบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายในระดับราคากลางลงล่าง ทำให้บริษัทยังสามารถสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง เช่น โครงการบ้านเดี่ยวในซอยวัดศรีวารีน้อย ถนนบางนา-ตราด กม.18 ที่สามารถขายได้กว่า 100 ยูนิต อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่มีนโยบายที่จะจัดซื้อที่ดินเพิ่มในบริเวณสุวรรณภูมิ เนื่องจากสภาพตลาดไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับมีกระแสข่าวในเชิงลบมากระทบตลอด

อนึ่ง บริษัท นิรันดร์ กรุ๊ป จำกัด ยังมีโครงการประเภทให้เช่าและบริการหลายโครงการ เช่น เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ "โฮปแลนด์ "สุขุมวิท 24 มีจำนวนกว่า 100 ยูนิต อัตราค่าเช่าประมาณ 40,000จนไปถึงกว่าแสนบาท โครงการโรงแรมนิรันดร์แกรนด์ สุขุมวิท 103 และซิเวอร์ บีช แม่พิมพ์ จังหวัดระยอง เป็นต้น

ประธานกรรมการบริษัท กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ สเตชั่น สาทร-บางรัก ว่า ล่าสุดบริษัทได้ทำการเซ็นสัญญาว่าจ้างบริษัท รุ่งฟ้าเสริม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ทำการก่อสร้างโครงการคอนโดฯ คาดว่าในเฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค. 2551 ส่วนอาคารที่ 2 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.2552 โดยโครงการเดอะ สเตชั่น มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,356 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 เฟส อาคารสูง 17 ชั้น จำนวน 676 ยูนิต ขณะนี้มียอดขายไปแล้วกว่า 75% และคงเหลือประมาณ 158 ยูนิต คาดว่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 4 -5 เดือน จะปิดการขายได้อย่างแน่นอน โดยภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า ทางโครงการจะปรับราคาขายขึ้นอีก 5-10% จากปัจจุบันประมาณ 42,000-60,000 บาทต่อตารางเมตร

นายธำรงกล่าวถึงแนวโน้มการพัฒนาคอนโดมิเนียมราคาถูกว่า คิดว่าเป็นเรื่องที่ยากในการลงทุนเพื่อทำโครงการระดับราคา 2-3 แสนบาทต่อยูนิต เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ทำให้บริษัทไม่พร้อมจะลงทุน เช่น เรื่องของกฎหมายผังเมือง ที่ระบุว่าภายในโครงการต้องมีที่จอดรถ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ลูกค้าที่เข้ามาซื้อคอนโดฯราคาถูก อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องมีที่จอดรถก็ได้ กฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงสถาบันการเงินจะเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะพิจารณาเห็นว่าค่อนข้างมีความเสี่ยง
กำลังโหลดความคิดเห็น