xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดRPCให้ซื้อหุ้นVTN-Pเพิ่มเป็น100% เพิ่มคล่องตัวการบริหารสร้างพันธมิตรใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

RPC เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น VTN-P จาก 60% เป็น 100% ด้วยการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม 3 ราย คิดเป็นมูลค่า 1,400,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 48,650,000 บาท และจ่ายชำระเป็นเงินสด หวังเพิ่มความคล่องตัวในการบริหาร และการหาพันธมิตรรายใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับบริษัทฯ ในอนาคต

นางศิรพร กฤษณกาญจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) (RPC) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2550 ซึ่งจัดประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2550 ว่าบอร์ดได้มีมติให้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน VTN-P Petrochemical Joint Venture Co., Ltd. (VTN-P) ซึ่งเป็นบริษัทร่วม ที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในอัตรา 60% เป็น 100 %

โดยวิธีการเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นอื่นทั้งหมดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ VTN-P เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศเวียตนาม มีทุนจดทะเบียน 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ดำเนินธุรกิจโรงงานปิโตรเคมีด้วยกำลังการผลิต 2,500 บาร์เรลต่อวัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเมืองกั่นเธอ (Cantho City) ทางตอนใต้ของประเทศเวียตนาม

โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯ และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โครงการดังกล่าวได้รับสิทธิบัตรการลงทุน (Investment License) จากคณะกรรมการประชาชนเมืองกั่นเธอ (The People' s Committee of Cantho City) ตามกฎหมายประเทศเวียตนาม ซึ่งได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และสิทธิการประกอบธุรกิจที่จูงใจเมื่อดำเนินการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นต่อคณะกรรมการประชาชนเมืองกั่นเธอแล้วเสร็จ VTN-P จะมีฐานะเป็นบริษัทย่อยของ RPC ตั้งแต่วันที่ทางราชการเวียตนามอนุมัติเป็นต้นไป

สำหรับรายการดังกล่าว RPC จะซื้อหุ้นสามัญของ VTN-P จากผู้ถือหุ้นเดิมคือ Machine Automation Joint Stock Company Tada Trading Company และ B.R.N. Enterprise Co., Ltd.

ทั้งนี้ VTN-P Petrochemical Joint Venture Co., Ltd. ดำเนินธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ที่ประเทศเวียตนาม กำลังการผลิต 2,500 บาร์เรลต่อวัน มี ทุนที่เรียกชำระแล้ว 86,589,330 บาท ในส่วนของ RPC มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 52,677,520 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นจาก 60% เป็น 100% และการซื้อหุ้นครั้งนี้จะใช้เงินสดในการชำระค่าหุ้นในปีนี้ ซึ่ง มูลค่าของสินทรัพย์ที่ซื้อ 1,400,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 48,650,000 บาท

โดยบริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหาร และการหาพันธมิตร รายใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับบริษัทฯ มากที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น