บล.กสิกรไทย เดินหน้าขยายงานครั้งใหญ่ สวนกระแสตลาดหุ้นซบเซา เร่งขยายงานธุรกิจค้าหลักทรัพย์ พร้อมดึงมือดี “สุเชษฐ์-สิทธิเดช” ร่วมทีมชุดใหม่ เน้นประสบการณ์สูง ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 1.5% เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
วันนี้ (23 เม.ย.) นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บล.กสิกรไทย มีเป้าหมายเพิ่มทีมงานมาร์เก็ตติ้งในปี 2550 อีกจำนวน 80 คน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 50 คน โดยจะเพิ่มมาร์เก็ตติ้งใหม่ 50 คน และมาร์เก็ตติ้งที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว 30 คน
ล่าสุด บริษัทติดต่อ นายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าบุคคล บล.กรุงศรีอยุธยา (AYS) มาร่วมงานแล้ว ส่วนจะเริ่มงานได้เมื่อใดคงจะต้องรอให้จัดการสะสางงานที่ AYS ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
พร้อมกันนั้น นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ซีมิโก้(ZMICO) ขณะนี้ก็ได้เข้ามาเริ่มทำงานที่ บล.กสิกรไทย แล้ว โดยทำงานอยู่ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุน
ก่อนหน้านี้ นายกวี ชูกิจเกษม ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัยหลักทรัพย์ของ บล.พัฒนสิน ได้ลาออกจาก บล.พัฒนสิน ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.2550 พร้อมทีมงานวิจัย 2-3 คน โดยย้ายมารับตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสังกัด บล.กสิกรไทย
นายรพี กล่าวว่า ในส่วนงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัท ขณะนี้มีพนักงานทั้งสิ้น 15 คน ซึ่งก็จะมีส่วนของวิเคราะห์พื้นฐาน, ส่วนกลยุทธ์การลงทุน และส่วนของเทคนิเคิล ซึ่งเป้าหมายของบริษัทในส่วนงานนี้จะต้องทำบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ 2 ภาษา ให้ได้ 100 หลักทรัพย์ภายในครึ่งแรกปีนี้ (2550) และจะขยายเป็น 120 หลักทรัพย์ภายในปีนี้
“บริษัทไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปซื้อทีมงานจากใคร การได้พนักงานที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเข้ามาเป็นการติดต่อเป็นรายบุคคล เพราะเราไม่ต้องการจะเอาเข้ามาเป็นทีม ส่วนกรณีของ คุณกวี ก็ไม่ได้ยกมาทั้งทีม มาแค่คุณกวีกับอีก 2-3 คนเท่านั้นเอง”
ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้ 1.5% จากปัจจุบันที่มี 0.6-0.7%
ประธานกรรมการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ปี 2550 ได้ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์)ไว้ที่ 1.5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.6-0.7% โดยขณะนี้บริษัทมีบัญชีลูกค้าอยู่ 3,000 กว่าบัญชี และในจำนวนนี้เป็นบัญชี Active ประมาณ 60% ส่วนใหญ่บริษัทจะได้ลูกค้าที่มาจากธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
บริษัทยังมีแผนขยายฐานลูกค้าในส่วนอินเทอร์เน็ต เทรดดิ้ง ด้วย โดยได้มีการหันไปจับ cyber branch ด้วยการโปรโมตผ่านสื่อหลายทาง อาทิ โปรโมตผ่านสาขาของ KBANK ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ขณะนี้ บล.กสิกรไทย มีฐานลูกค้าในส่วนอินเทอร์เน็ต เทรดดิ้ง ประมาณ 10% ของบัญชีลูกค้าทั้งหมดของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนทำธุรกิจในตลาด TFEX โดยขณะนี้รอให้ตลาดเปิดให้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจได้ ซึ่งทางบริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งการฝึกอบรมมาร์เก็ตติ้ง การทำระบบจัดการระบบภายใน รวมถึงระบบการซื้อขายด้วย
เล็งจับลูกค้าจาก KBANK ราว 1 แสนบัญชี
นายรพี กล่าวอีกว่า นโยบายของธนาคารกสิกรไทย ต้องการจะเป็น Universal Banking ในการให้บริการด้านการเงินอย่างครบวงจร ดังนั้น จึงให้การสนับสนุนธุรกิจของบริษัทอย่างเต็มที่ โดยสามารถชักชวนลูกค้าจากแบงก์ให้มาใช้บริการคาหลักทรัพย์กับทางบริษัท ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 1 แสนบัญชีที่มีการเทรดหุ้น หรือสนใจจะเข้ามาซื้อขายหุ้น
“เท่าที่ดูมีลูกค้าแบงก์อยู่ราว 100,000 บัญชี ที่มีการเล่นหุ้นอยู่ และ/หรือสนใจจะเล่นหุ้น ดังนั้น เราจะต้องพยายามเข้าไปจับลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้ ซึ่งการเพิ่มจำนวนมาร์เก็ตติ้งก็เพื่อที่จะมารองรับการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย” นายรพี กล่าว
ประธานกรรมการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการขยายงาน เพราะเป็นบริษัทที่พึ่งจะเริ่มดำเนินการมาได้ไม่นาน แต่บริษัทก็คาดว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานเป็นผลกำไรได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงของการลงทุนอยู่
“สุเชษฐ์” ยอมรับ-พร้อมเริ่มงาน 2 พ.ค.
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าบุคคล AYS กล่าวยอมรับกับ “อินโฟเควสท์” ว่า จะย้ายไปทำงานที่ บล.กสิกรไทย โดยจะเข้าไปเริ่มทำงานในวันที่ 2 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยจะเข้าไปทำงานในการเป็นผู้ฝึกหัดให้กับมาร์เก็ตติ้งใหม่ของ บล.กสิกรไทย ทั้งนี้ ได้ยื่นใบลาออกจาก AYS เรียบร้อยแล้ว และจะมีผลในวันที่ 30 เมษายน 2550