ผมได้ทำวีซีดีชุด “ปาฏิหาริย์แห่งการคืนดี” สำหรับบรรยากาศเทศกาลวาเลนไทน์ ด้วยเรื่อง Notting Hill และ Monster-in-Law เทศกาลอิสเตอร์ ด้วยเรื่อง The Chronicles of Narnia และเทศกาลวันครอบครัว ด้วยเรื่อง Deep Impact
ในภาพยนตร์เรื่อง The Chronicles of Narnia ครอบครัวเพวินซีต้องเผชิญกับสงคราม เครื่องบินบินเต็มท้องฟ้า ถล่มระเบิดเข้าหากัน ชาวบ้านแม้สตรีและเด็ก ๆ ต้องวิ่งหลบระเบิดเข้าหลุมหลบภัย เป็นชีวิตที่ต้องคอยหวาดหวั่น ไม่มั่นคง มีอันตรายถึงชีวิตได้เสมอ
สงครามไม่ได้เป็นเฉพาะภาพใหญ่ที่เป็นความขัดแย้งกันระหว่างประเทศ แม้ในครอบครัว 4 พี่น้องเพวินซีเอง ก็เห็นเค้าลางแห่งสงครามเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้น คล้าย ๆ ครอบครัวทั่วไปโดยไม่รู้ตัว
ใน 4 พี่น้องเพวินซี ปีเตอร์พี่ใหญ่ ชอบออกคำสั่งกับน้อง จนกลายเป็นการข่มน้อง ซูซานนักคิดที่ยึดถือตรรกะของตัวเป็นสำคัญ เอ็ดมันด์เป็นตัวของตัวเอง แต่ถูกกดจนกลายเป็นดื้อ ลูซี่น้องเล็กไร้เดียงสาที่มีแต่ความใสบริสุทธิ์ แม้ทุกคนจะรักกัน แต่ก็มีความแตกต่าง และความเห็นแก่ตัว จนกลายเป็นรากแห่งความขัดแย้งกันต่อมา
เมื่อพี่น้องเล่นซ่อนหากัน ลูซี่แอบเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ได้เห็นแผ่นดินนาร์เนียที่สะอาดขาวโพลนดังสวรรค์ แต่เงียบเหงา เพราะอยู่ภายใต้การปกครองของแม่มดจาดีสผู้ใจร้าย ปกครองประชากรด้วยอำนาจ ไม่ใช่ความรักเมตตา
ประชากรเป็นเพียงสัตว์ต่างๆ เล่าขานกันว่า พี่น้อง 4 คนบุตรหลานอาดัม จะกลับมาครอบครองแผ่นดินนาร์เนีย และนำบรรยากาศคริสตมาสกลับมา
ต่อมา ลูซี่ก็พาพี่น้องเข้าแผ่นดินนาร์เนียได้สำเร็จ เอ็ดมันด์ได้มีโอกาสพบกับแม่มดจาดีสส่วนตัว เสนอเงื่อนไขให้เขาเป็นเจ้าชายครอบครองแผ่นดินคนเดียว โดยพาพี่น้องมาให้พบแม่มด แม้เขาไม่ได้คิดร้ายเป็นเบื้องต้น แต่เขาก็ตื่นเต้นที่จะมีอำนาจเหนือพี่น้องคนอื่น หารู้ไม่ว่า นั่นกลายเป็นการขายพี่น้องให้แก่แม่มดจาดีส แม่มดแห่งความบาป และยังเป็นการ ทรยศต่ออัสลาน เจ้าแผ่นดินนาร์เนีย กลายเป็นคนแห่งแผ่นดินบาป หวังศักดิ์ ฐานะ สมบัติส่วนตัว มากกว่าสิ่งอื่น อยากมีอำนาจเหนือพี่น้องคนอื่น โกหกพี่น้อง และนำพี่น้องไปสู่อันตรายจากการทำร้ายโดยแม่มดจาดีส ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้น
ตั้งแต่อดีตกาลมา โทษของการทรยศต่ออัสลาน คือ ความตาย แต่อัสลานกลับเข้าใจเอ็ดมันด์อย่างมาก ท่านบอกว่า “การที่เอ็ดมันด์ทำผิด คงต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่าง” ท่านช่างเข้าใจมนุษย์ เชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ มีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
อัสลานกลับช่วยเหลือเอ็ดมันด์ออกมาจากเงื้อมมือของแม่มดจาดีส แต่แม่มดจาดีสก็ยังมาทวงชีวิตเอ็ดมันด์ เธออ้างว่า ตามบทบัญญัติในอดีต ใครที่ทรยศต่อแผ่นดินแห่งธรรมนาร์เนีย ก็ต้องถูกนับเป็นคนแห่งแผ่นดินบาป และโทษของความความบาปนั้น คือความตาย แต่อัสลานกลับขอคุยส่วนตัวกับแม่มดจาดีส แล้วแม่มดก็ออกมาบอกว่า “เอ็ดมันด์เป็นอิสระแล้ว” แต่ขออย่าให้อัสลานเปลี่ยนเงื่อนไขที่ตกลงกันใหม่ก็แล้วกัน
ในคืนต่อมา อัสลานเดินเข้าหาแม่มดจาดีสอย่างกล้าหาญ และถ่อม แม้จะถูกเยาะเย้ย ตบตี มัด ลาก ตรึงไว้บนแท่นหินก็ยินดี อัสลานยินดีสละชีวิตของตน เพื่อไถ่เอ็ดมันด์จากบาปที่เอ็ดมันด์ทำ
แม่มดกระซิบเยาะเย้ยที่ข้างหูอัสลานว่า “ช่างเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ แต่ไม่มีความหมายใดๆ” แล้วก็แทงอัสลานจนตายไป ช่างเป็นความน่าเศร้าใจว่า ความบาป ความเห็นแก่ตัว เอาชนะความถ่อม ความสุภาพ แต่แล้วต่อมา อัสลานกลับฟื้นคืนชีวิต นำมาซึ่งความชื่นชมยินดี แก่ผู้ที่เชื่อและศรัทธาในอัสลาน และขับไล่พลรบแห่งแผ่นดินบาปไป
เป็นภาพยนตร์ที่มีความหมายสำหรับเทศกาลวันอิสเตอร์อย่างดี อิสเตอร์วันศุกร์เป็นวันรำลึกถึงการทรงสละชีวิตขององค์พระเยซูคริสต์เพื่อไถ่บาปมนุษย์
เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ เพราะความรักคือการให้ และ การให้ใดจะยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตน
นอกจากนั้น โดยปกติ ไม่ใคร่จะมีใครตายเพื่อคนตรง (คนทั่วๆไป) แต่บางทีจะมีคนอาจตายเพื่อคนดีก็ได้ แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่มนุษย์เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น (เห็นแก่ตัว ขี้กังวล เป็นทุกข์ได้ง่ายๆ ไม่รักกันเพียงพอ ไม่ให้อภัยกันได้ง่ายๆ โทษกัน จับผิดคนอื่น แต่ไม่ทบทวนว่าตนเองก็มีความบาปและควรปรับปรุงตัวได้ดีกว่านี้ ฯลฯ) แต่พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา “การรักได้แม้คนไม่น่ารัก” เป็นหนทางที่ทำให้แผ่นดินโลกเป็นสวรรค์ได้อย่างแท้จริง
เมื่อเรามองแบบอย่างพระเจ้า แม้พระองค์ทรงสร้างมนุษย์มาอย่างดี มอบสรรพสิ่งให้มนุษย์ครอบครอง มนุษย์ทอดทิ้งพระองค์ แต่พระองค์ทรงมาประสูติในรางหญ้า รับสภาพเป็นมนุษย์ และทรงสละชีวิตบนไม้กางเขน
คนยุคนั้นมองกันไม่ดี หน้าซื่อใจคด ทำโทษแม้คนบริสุทธิ์ พวกเขาจับพระองค์เฆี่ยน โบย ตี สวมมงกุฎหนาม ให้พระองค์แบกกางเขน เยาะเย้ยพระองค์ ตอกมือพระองค์ ตรึงพระองค์บนไม้กางเขน แต่พระองค์สำแดงให้เห็นว่า ด้วยความรักและอดทนอย่างพระองค์ ยังรักและให้อภัยได้ พระองค์ไม่แม้แต่กล่าวตำหนิ พระองค์กลับอธิษฐานต่อพระเจ้าว่า “พระบิดา โปรดให้อภัยพวกเขาเถิด เขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” ช่างเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
แม้เป็นเรื่องเศร้า แต่ในวันที่สาม พระองค์ทรงฟื้นพระชนม์ นำมาซึ่งความยินดี และความหวังต่อผู้คนมากมาย อันทำให้มีการเฉลิมฉลองอิสเตอร์วันอาทิตย์สืบมา
สำหรับผู้ที่อยากมองโลกในแง่ดี ด้วยความรัก รักโลก รักชีวิต อยากมีชีวิตนี้นิรันดร สามารถเชื่อว่า พระเยซูคริสต์ได้ทรงสละชีวิตบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปเรา และด้วยความเชื่อนั้น จะนำไปสู่ความรอดได้รับชีวิตนิรันดร์ ก็ทำให้ผู้เชื่อมีความหวัง ความสุข และความรักอย่างไม่สิ้นสุดจริงๆ
หลายคนอาจสงสัยว่า การคืนดีกับพระเจ้าจะเป็นประโยชน์อย่างไร ผมว่ามีหลายประการครับ ทำให้เรามีพระผู้ช่วยทรงเป็นที่ปรึกษาประเสริฐเมื่อเผชิญทุกปัญหา ทำให้เราฝากภาระไว้กับพระองค์ได้ ทรงประทานกำลังใจ และสติปัญญาให้ได้เสมอ ทรงปลอบประโลมยามเป็นทุกข์อึดอัด ทรงเป็นแสงสว่างนำชีวิต ทรงเป็นความหวังให้กับเราได้ในทุกสถานการณ์
โดยเฉพาะกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ไม่มีมนุษย์คนใด อยู่เพียงลำพังตัวคนเดียวได้ คนเราถูกสร้างมาเป็นดังอวัยวะของกายเดียวกัน จึงต้องทำงานสัมพันธ์กันอย่างดี พระเจ้าจึงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์จริง “แม้ใครโกรธกัน พระองค์บอกให้ไปคืนดีกันก่อน ก่อนมาหาพระองค์” ถ้าเรารักใครไม่พอ เริ่มมองเขาไม่ดี เริ่มไม่ให้อภัยเขา เมื่อเรามองไปที่พระองค์ และความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์จะเพิ่มเติมความรักในใจเรา ทำให้เราสามารถเอาความรักชนะความโกรธได้ และนำไปสู่ความรัก ความสุข และความสันติ
และที่สุด แผ่นดินก็เป็นสุข และ เจริญอย่างยั่งยืนในที่สุดครับ
มนตรี ศรไพศาล
(montree4life@yahoo.com)