xs
xsm
sm
md
lg

UNIQฮึดปิดเหนือจอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง หุ้นน้องใหม่บริษัทแรกในตลท.เหนือจองอย่างหวุดหวิด กลังมีแรงซื้อเข้ามาช่วงท้ายตลาด ด้านที่ปรึกษาชี้ เหตุราคาหุ้นไม่วิ่งจากภาวะการซื้อขายซบเซา ยันหากลงทุนระยาวได้รับผลตอบแทนสูง ด้านภัทรียา ไม่หวั่น เอ็มเอสซีไอ ถอนหุ้นไทยฯ

ความเคลื่อนไหวการเข้าซื้อขายเป็นวันแรกของหุ้นบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)โดยเปิดตลาดที่ 1.80 บาท ซึ่งเท่ากับราคาจอง โดยระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 184 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.72 บาท โดยในช่วงก่อนปิดการซื้อขายมีแรงกลับมาปิดที่ 1.83 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.66% มูลค่าการซื้อขาย 198.98 ล้านบาท

นายอัสวานี อะฮูจา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ UNIQ เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของ UNIQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนักและระหว่างวันได้มีการปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจาก ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นค่อนข้างซบเซา แต่ถ้านักลงทุนพิจารณาพื้นฐานของบริษัทและลงทุนในระยะยาวเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เนื่องจากบริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ทั้งในปีนี้และปีหน้าจำนวนมากซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เติบโตจากปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

“ทั้งนี้การที่บริษัท UNIQ เข้าซื้อขายในช่วงที่ภาวะตลาดไม่ค่อยเอื้อต่อการลงทุนนั้น เพราะต้องการมีฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนเพื่อเตรียมตัวเพื่อร่วมประมูลงานภาครัฐที่จะเปิดประมูลในช่วงไตรมาส2/2550 โดยปัจจุบันงานของบริษัทมีรายได้มาจากภาครัฐมากกว่า 90%”อัสวานี กล่าว

นางสาวกรภัทร์ สุวิวัวัฒน์ธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนเปิดตัวบ้านจัดสรรโครงการเรสซิเดนท์ ยูนิค พาร์ค โครงการใหม่ถนนพุทธมลธนสาย 3,4,5 เป็นโครงการบ้านจัดสรรมีมูลค่างบลงทุน 2,000 ล้านบาท ในปีนี้และแบ่งการพัฒนา 6 – 8 เฟส และใช้เวลาในการก่อสร้าง 2 – 3 ปี โดยเฟสแรกจะแบ่งขาย 70 ยูนิค ซึ่งน่าจะเปิดตัวโครงการภายในปีนี้

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า บรรยายการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจากนี้น่าจะเข้ามาสู่ช่วงขาขึ้นเนื่องจากมีความชัดเจนในหลายเรื่องโดยเฉพาะการกำหนดวันเลือกตั้งของรัฐบาลซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถวางแผนในการลงทุนได้ ขณะที่นักลงทุนสถาบันที่ยังขาดว่าเชื่อมั่นต่อการลงทุนน่าจะเริ่มมีการปรับการลงทุนได้จากควมชัดเจนที่เกิดขึ้นรวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการคลังที่ส่งผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงการใช้จ่ายของภาคประชาชนน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นอีกทาง

ส่วนการที่ Morgan Stanley Capital International หรือ MSCI จะมีการถอดหุ้นของบริษัทไทยออกจากการคำนวณดัชนีนั้น เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนักเพราะดัชนีดังกล่าวเป็นการสะท้อนตลาดหุ้นไทยเพียงมุมมองเดียวเท่านั้น ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออีกหลายแห่งยังมีการปรับเพิ่มน้ำหนักในการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวนักลงทุนควรมองถึงภาพรวมของตลาดหุ้นมากกว่าการปรับน้ำหนักการลงทุนเพราะการปรับขึ้นลงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น