xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนในโอกาส “วันรัฐธรรมนูญ” : ร่วมรณรงค์เจตนารมณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ ผมเกิดแรงบันดาลใจระลึกถึงความสำคัญของรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเป็นดังหลักประกันสำหรับประชาชนไทย ว่าเราเป็นอารยประเทศ ปกครองกันภายใต้นิติธรรม ภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

การที่รัฐธรรมนูญไทยได้ถูกละเลย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนช่วงที่มีการปฏิรูปนั้น แม้จะดูเหมือนว่า ได้มีการรักษากติกา และอ้างว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา แต่มองจากมุมของการเมืองภาคประชาชน จะเห็นว่าได้มีการละเลยเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในเรื่องสำคัญหลายๆเรื่อง อันทำให้ประชาธิปไตย ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ผมได้มีโอกาสรับฟังความเห็นของผู้ใหญ่ 2-3 ท่านที่ผมให้ความเคารพอย่างสูง ถึงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญที่ขาดหายไปหลายเรื่อง ดังนี้

1. เสรีภาพของสื่อมวลชน ประชาธิปไตยเป็นผลจริงก็ต่อเมื่อ มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ด้วยผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่รู้ข้อมูลเพียงพอ (informed electra) ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากสื่อมวลชนไม่ทำหน้าที่เป็นกระจกให้ครบด้านให้กับประชาชน

ในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา ได้มีการครอบงำเสรีภาพสื่อมวลชนอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สื่อทีวี วิทยุ ถูกครอบงำโดยสิ้นเชิง แม้มีการตรวจสอบ มีการเปิดโปงมากมาย ยังมีความพยายามใช้สื่อสื่อความเพียงด้านเดียว นำให้ประชาชนจำนวนมากที่บริโภคเฉพาะสื่อทีวี และวิทยุ เข้าใจว่า การเปิดโปงตรวจสอบนั้น เป็นเพียงความพยายามล้มล้างอำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ สื่อได้เบี่ยงเบนสาระจากการเปิดโปงทุจริต และการตรวจสอบ ไปทำให้เข้าใจว่า เป็นเพียงเรื่องของการแย่งอำนาจกันเท่านั้น หากสื่อได้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมาโดยเน้นที่การติดตามความจริงให้ประชาชนรับรู้อย่างเท่าเทียมกัน ผมเชื่อว่า ความแตกแยกในบ้านเมืองจะหมดไป การตรวจสอบจะดีขึ้น บ้านเมืองจะใสสะอาดมากขึ้น

สื่อสิ่งพิมพ์แม้ดูเป็นที่พึ่งเดียวของประชาชน ก็ยังถูกคุกคาม สื่อที่สนับสนุนรัฐบาล ก็ได้รับเงินโฆษณา จากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ หรือกิจการในเครือผู้คุมอำนาจรัฐ สื่อที่ให้ข้อมูลและความเห็นที่เป็นผลร้ายต่อรัฐบาลก็จะถูกตัดงบประมาณโฆษณาต่างๆ นั่นก็ทำให้พลังการตรวจสอบของรัฐโดยสื่อต้องตกต่ำลง การคุกคามสื่อด้วยเงิน ก็ทำให้เสรีภาพสื่อมวลชน ซึ่งก็คือเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต้องเสื่อมสูญไป เท่ากับเป็นการทำลายเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเรื่องเสรีภาพสื่อมวลชนนั่นเอง

2. สิทธิมนุษยชน เป็นหลักพื้นฐานเพื่อคุ้มครองประชาชนที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน เหตุการณ์ปราบปรามยาเสพติดด้วยการฆ่าตัดตอน ผู้คนต้องตายไปประมาณ 2 พันคน มีกรณีที่ดูจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนถึงประมาณ 1,400 คน จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นผู้มีโทษสมควรตาย ? จะแน่ใจได้อย่างไรว่า จะไม่รวมถึงคนบริสุทธิ์ที่เป็นศัตรูทางการเมือง ? ปัญหาการอุ้มฆ่าใน 3 จังหวัดภาคใต้ ก็นำไปสู่การสะสมปัญหาจนบานปลายมากขึ้น การละเลยสิทธิมนุษยชนจึงเป็นการละเลยเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญอีกประการ

3. หลักนิติธรรมที่ประชาชนทุกคนจะอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เฉพาะมุมมองในส่วนที่เกี่ยวข้องการตลาดหุ้น ผมเห็นด้วยที่กำไรจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ยกเว้นภาษีก็ควรจะยกเว้นเท่าเทียมกัน (ดังที่ อดีตนายกฯได้พยายามพูด) แต่การตีความภาระภาษีในการโอนหุ้นราคาต่ำกว่าราคาตลาด การควรจะมีภาระภาษีเท่าเทียมกันด้วย การเปิดเผยข้อมูลการถือหุ้น เช่นกรณีแอมเพิลริช หรือ วินมาร์ค ซึ่งมีความน่าสงสัยทำให้เชื่อได้ว่า มีการปกปิดความเป็นเจ้าของ อันทำให้การปฏิบัติตามระเบียบของ กลต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องบกพร่องไป ก็ควรต้องมีการติดตามตรวจสอบอย่างเต็มที่ เท่าเทียมกับกรณีอื่นๆ การที่ทุกคนควรมีกฎหมายเดียว ตีความอย่างเดียว จึงจะเป็นเจตนารมณ์ในหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง

4. องค์กรอิสระและการตรวจสอบ การทำงานนั้น รัฐธรรมนูญควรกำหนดให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจในการดำเนินการ ควรมีกระบวนการตัดสินใจที่ไวเพียงพอต่อการบริหารงานและการแก้ไขปัญหา และควรมีระยะเวลาในการทำงานเพื่อให้เกิดผล แต่สิ่งที่สำคัญเสมอคือ การทำงานควรเป็นการทำเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตน จึงเป็นบทบาทที่สำคัญของการตรวจสอบ ที่ต้องเข้มแข็ง จริงจัง และเป็นอิสระอย่างแท้จริง การที่องค์กรอิสระ เช่น ปปง. ปปช. ศธน. กกต. วุฒิสภา ได้ถูกอำนาจทางการเมืองครอบงำ จึงทำให้กระบวนการตรวจสอบไม่เป็นอิสระจริง และก็เป็นเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญที่สำคัญยิ่งอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกทำลายไป

มีหลักคำสอนที่สำคัญอยู่ว่า “วิบัติแก่เจ้า คนหน้าซื่อใจคด ด้วยพวกเจ้าถวายสะระแหน่ ลูกผักชี และยี่หร่า (ความหมาย คือทำดีเพียงเล็กน้อยเพื่อสร้างภาพ) ส่วนข้อสำคัญแห่งธรรมบัญญัติคือความยุติธรรมความเมตตา ความเชื่อนั้นได้ละเลยเสีย การถวายพวกเจ้าก็ควรปฏิบัติ แต่ไม่ควรละเลยข้อสำคัญนั้นด้วย”

"วิบัติแก่เจ้า คนหน้าซื่อใจคด ด้วยเจ้าขัดชำระถ้วยชามแต่ภายนอก ส่วนภายในถ้วยชามนั้นเต็มด้วยโจรกรรมและการมัวเมากิเลส โอ พวกตาบอด จงชำระถ้วยชามภายในเสียก่อน เพื่อข้างนอกจะได้สะอาดด้วย”

กฎหมาย จะไร้ความหมาย หากเรามีวัฒนธรรมที่ยึดถือเพียงตัวอักษร แต่ฝืนเจตนารมณ์ของกฎหมาย

ในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น เราคนไทยต้องช่วยกัน ให้ได้กฎกติกาที่ดีขึ้น แต่เท่านั้นยังไม่พอ ให้เรารณรงค์เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญอย่าให้ใครฉีกรัฐธรรมนูญของเรา ด้วยการละเลยเจตนารมณ์อีกต่อไป

มนตรี ศรไพศาลmontree4life@yahoo.com
กำลังโหลดความคิดเห็น