ออมสินลุยต่อหลังเปิดตัว GSB Life 5 แบบประสบความสำเร็จกวาดลูกค้าซื้อกรมธรรม์กว่า 4 หมื่นราย ดีเดย์ไตรมาส 2 ปีหน้าเปิดขายอีก 2 แบบ พร้อมผนึกทิพยประกันภัย-พรูเด็นเชี่ยลประกันชีวิตพ่วงประกันสุขภาพสนองความต้องการและรักษาฐานลูกค้าหลังโดนเมืองไทยประกันภัยเบียดตกมาอยู่เบอร์ 6
นายสันตริน โกศล ผู้อำนวยการฝ่ายสงเคราะห์ชีวิต ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวเงินฝากสงเคราะห์ชีวิต หรือ GSB Life ที่มีน้องฮ่องเต้เป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยหลังจากเปิดตัวมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อกรมธรรม์ GSB Life จำนวนกว่า 40,000กรมธรรม์ ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเนื่องจากรูปแบบกรมธรรม์ที่หลากหลายและผลตอบแทนที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจ โดยธนาคารตั้งเป้าไว้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2550 จะเปิดตัวกรมธรรม์ GSB Life อีก 2-3 แบบเพื่อให้กรมธรรม์มีความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้นอกจากการออกกรมธรรม์อีก 2 แบบแล้ว ธนาคารยังได้ร่วมมือกับบริษัททิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) TIP และบริษัท พรูเด็นเชี่ยล ทีเอสไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด ออกประกันสุขภาพและประกันเพื่อชดเชยรายได้ควบคู่ไปกับกรมธรรม์ที่ธนาคารเปิดขายอยู่แล้วเพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกค้า
“ปีหน้าเราตั้งใจจะออกกรมธรรม์ในรูปแบบ GSB Life อีกประมาณ 2-3 แบบ ซึ่งในขณะนี้กำลังประเมินสถานการณ์ว่าเหมาะสมที่จะออกได้เมื่อไร แต่เท่าที่ประเมินคร่าวๆ แล้วน่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า เพราะมีระยะห่างที่เหมาะสมกับการออก GSB Life 5 แบบที่เพิ่งออกสู่ตลาด และยังพ่วงประกันสุขภาพกับบริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรกับธนาคารเพื่อให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น”นายสันตรินกล่าว
นายสันตรินกล่าวว่า ที่ผ่านมาส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจประกันชีวิตธนาคารออมสินอยู่ในอันดับที่ 5 แต่หลังจากออกเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตเมื่อ 6 ปีที่แล้วธนาคารไม่ได้ทำการตลาดมากนักทำให้ถูกบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัดเบียดขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 และธนาคารออมสินตกลงไปอยู่ในอันดับ 6 แทน โดยบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 คือ บริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด หรือเอไอเอ อันดับ 2 บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด อันดับ 3 บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด และอันดับ 4 บริษัทอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. จำกัด(มหาชน) AACP
ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจประกันภัยไว้ที่ปีละ 20% จากภาพรวมการเติบโตของระบบอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งหากทางกระทรวงการคลังสามารถแก้ไขกฎหมายให้สามารถลดหย่อนภาษีจาก 40% ของรายได้แต่ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี เป็น 60% ของรายได้แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีได้เร็วเท่าไรน่าจะส่งผลกรมธรรม์ GSB Life ได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้นเพราะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้
โดยกรมธรรม์สงเคราะห์ชีวิตทั้ง 5 แบบที่ธนาคารออมสินเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้แก่ แบบที่ 1 แบบออมสินคู่ขวัญเป็นแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตทั้งพ่อหรือแม่และบุตรในกรมธรรม์เดียวกันเหมาะสำหรับพ่อหรือแม่ที่ต้องการทำประกันให้กับบุตรเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับการศึกษา หรือเป็นของขวัญสำหรับบุตร แบบที่ 2แบบออมสินอุ่นใจซึ่งเป็นแบบประกันสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนทั้งในรูปของเงินปันผลและความคุ้มครองโดยทุก 3 ปี ผู้ฝากจะได้เงินปันผล 10% ของวงเงินสงเคราะห์ (ทุนประกัน)และความคุ้มครองก็เพิ่มขึ้น 30% ด้วย โดยที่ผู้ฝากส่งเบี้ยประกันเพียง 15 ปีหลังจากนั้นจะได้รับความคุ้มครองพร้อมกับได้รับเงินบำนาญต่ออีก 10 ปี
แบบที่ 3 แบบออมสินเพิ่มทรัพย์170 เป็นแบบที่เหมาะสำหรับผู้ฝากที่ต้องการผลประโยชน์ในรูปแบบเงินปันผลคืนเร็วให้ความคุ้มครอง 15 ปีแต่ส่งเบี้ยประกันเพียง 9 ปี พร้อมกับมีโบนัสให้เมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดอีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองสูงขึ้นตลอดระยะเวลา แบบที่ 4 แบบออมสินเพิ่มทรัพย์200 ซึ่งจะคล้ายกับแบบที่ 3 ต่างกันเพียงส่งเบี้ยประกัน 15 ปี เหมาะสำหรับผู้ฝากที่ต้องการผลประโยชน์ในรูปแบบเงินปันผลคืนเร็ว พร้อมกับมีโบนัสให้เมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดและยังได้รับความคุ้มครองสูงขึ้นตลอดระยะเวลา
และแบบที่ 5 คือ แบบออมสินคุ้มนิรันดร์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้มีรายได้สูงที่ต้องการผลประโยชน์ด้านการออมทรัพย์และนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงโดยจะได้รับเงินปันผลทุกปีๆ ละ 15% ของวงเงินสงเคราะห์เป็นเวลา 14 ปี เมื่อส่งเบี้ยประกันครบกำหนดผู้ฝากจะได้รับเงินสงเคราะห์ 100% และเมื่อผู้ฝากมีอายุครบ 70 ปี ก็จะได้รับอีก 50% ของวงเงินสงเคราะห์ด้วย
นายสันตริน โกศล ผู้อำนวยการฝ่ายสงเคราะห์ชีวิต ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวเงินฝากสงเคราะห์ชีวิต หรือ GSB Life ที่มีน้องฮ่องเต้เป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยหลังจากเปิดตัวมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อกรมธรรม์ GSB Life จำนวนกว่า 40,000กรมธรรม์ ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเนื่องจากรูปแบบกรมธรรม์ที่หลากหลายและผลตอบแทนที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจ โดยธนาคารตั้งเป้าไว้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2550 จะเปิดตัวกรมธรรม์ GSB Life อีก 2-3 แบบเพื่อให้กรมธรรม์มีความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้นอกจากการออกกรมธรรม์อีก 2 แบบแล้ว ธนาคารยังได้ร่วมมือกับบริษัททิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) TIP และบริษัท พรูเด็นเชี่ยล ทีเอสไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด ออกประกันสุขภาพและประกันเพื่อชดเชยรายได้ควบคู่ไปกับกรมธรรม์ที่ธนาคารเปิดขายอยู่แล้วเพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกค้า
“ปีหน้าเราตั้งใจจะออกกรมธรรม์ในรูปแบบ GSB Life อีกประมาณ 2-3 แบบ ซึ่งในขณะนี้กำลังประเมินสถานการณ์ว่าเหมาะสมที่จะออกได้เมื่อไร แต่เท่าที่ประเมินคร่าวๆ แล้วน่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า เพราะมีระยะห่างที่เหมาะสมกับการออก GSB Life 5 แบบที่เพิ่งออกสู่ตลาด และยังพ่วงประกันสุขภาพกับบริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรกับธนาคารเพื่อให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น”นายสันตรินกล่าว
นายสันตรินกล่าวว่า ที่ผ่านมาส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจประกันชีวิตธนาคารออมสินอยู่ในอันดับที่ 5 แต่หลังจากออกเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตเมื่อ 6 ปีที่แล้วธนาคารไม่ได้ทำการตลาดมากนักทำให้ถูกบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัดเบียดขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 และธนาคารออมสินตกลงไปอยู่ในอันดับ 6 แทน โดยบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 คือ บริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด หรือเอไอเอ อันดับ 2 บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด อันดับ 3 บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด และอันดับ 4 บริษัทอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. จำกัด(มหาชน) AACP
ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจประกันภัยไว้ที่ปีละ 20% จากภาพรวมการเติบโตของระบบอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งหากทางกระทรวงการคลังสามารถแก้ไขกฎหมายให้สามารถลดหย่อนภาษีจาก 40% ของรายได้แต่ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี เป็น 60% ของรายได้แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีได้เร็วเท่าไรน่าจะส่งผลกรมธรรม์ GSB Life ได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้นเพราะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้
โดยกรมธรรม์สงเคราะห์ชีวิตทั้ง 5 แบบที่ธนาคารออมสินเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้แก่ แบบที่ 1 แบบออมสินคู่ขวัญเป็นแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตทั้งพ่อหรือแม่และบุตรในกรมธรรม์เดียวกันเหมาะสำหรับพ่อหรือแม่ที่ต้องการทำประกันให้กับบุตรเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับการศึกษา หรือเป็นของขวัญสำหรับบุตร แบบที่ 2แบบออมสินอุ่นใจซึ่งเป็นแบบประกันสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนทั้งในรูปของเงินปันผลและความคุ้มครองโดยทุก 3 ปี ผู้ฝากจะได้เงินปันผล 10% ของวงเงินสงเคราะห์ (ทุนประกัน)และความคุ้มครองก็เพิ่มขึ้น 30% ด้วย โดยที่ผู้ฝากส่งเบี้ยประกันเพียง 15 ปีหลังจากนั้นจะได้รับความคุ้มครองพร้อมกับได้รับเงินบำนาญต่ออีก 10 ปี
แบบที่ 3 แบบออมสินเพิ่มทรัพย์170 เป็นแบบที่เหมาะสำหรับผู้ฝากที่ต้องการผลประโยชน์ในรูปแบบเงินปันผลคืนเร็วให้ความคุ้มครอง 15 ปีแต่ส่งเบี้ยประกันเพียง 9 ปี พร้อมกับมีโบนัสให้เมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดอีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองสูงขึ้นตลอดระยะเวลา แบบที่ 4 แบบออมสินเพิ่มทรัพย์200 ซึ่งจะคล้ายกับแบบที่ 3 ต่างกันเพียงส่งเบี้ยประกัน 15 ปี เหมาะสำหรับผู้ฝากที่ต้องการผลประโยชน์ในรูปแบบเงินปันผลคืนเร็ว พร้อมกับมีโบนัสให้เมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดและยังได้รับความคุ้มครองสูงขึ้นตลอดระยะเวลา
และแบบที่ 5 คือ แบบออมสินคุ้มนิรันดร์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้มีรายได้สูงที่ต้องการผลประโยชน์ด้านการออมทรัพย์และนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงโดยจะได้รับเงินปันผลทุกปีๆ ละ 15% ของวงเงินสงเคราะห์เป็นเวลา 14 ปี เมื่อส่งเบี้ยประกันครบกำหนดผู้ฝากจะได้รับเงินสงเคราะห์ 100% และเมื่อผู้ฝากมีอายุครบ 70 ปี ก็จะได้รับอีก 50% ของวงเงินสงเคราะห์ด้วย