N-PARK เผนสภาพคล่องดีขึ้น หลังขายสินทรัพย์บางส่วนใช้หนี้แบงก์ เตรียมผุดโรงแรมหรูอีก 2 แห่ง หลังขายบริษัทย่อย
ผู้บริหารระดับสูง บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) เผยสภาพคล่องบริษัทดีขึ้นหลังขายสินทรัพย์ออกบางส่วนเพื่อลดหนี้แบงก์ พร้อมเตรียมทุนรองรับการลงทุนโครงการโรงแรมหรู 2 แห่ง ล่าสุดตัดขายหุ้น บมจ. ซินเท็คคอนสตรัคชั่น(SYNTEC)ไป 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.88%ได้เงิน 134 ล้านบาท มีกำไรกว่า 20% นำไปชำระหนี้
"เราขายสินทรัพย์ออกไปพยายามเคลียร์หนี้ พร้อมทุนไว้ลงทุนต่อ ความคล่องตัวดีขึ้นหลังจากที่เราชำระหนี้ออกไปบางส่วน ความจริงอัตราหนี้สินต่อทุนเราก็ไม่สูง ผมว่าประเด็นเรื่อง credit ของบริษัทที่ผู้บริหารชุดเดิมมีปัญหา"แหล่งข่าวจาก N-PARK กล่าว
สำหรับโครงการที่บริษัทจะลงทุนมี 2 โครงการจะก่อสร้างเป็นโรงแรมหรู ได้แก่ โรงแรมอามันรีสอร์ท กรุงเทพ (โครงการโรงภาษีร้อยชักสาม) มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท โครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่มีพื้นที่ติดกับสยามพารากอน มูลค่าโครงการ 3.2 พันล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินกับธนาคารนครหลวงไทย และ ธนาคารกรุงไทย ระหว่าง 29-30 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทขายหุ้น SYNTEC ออกไป 110 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.88% จากเดิมถืออยู่ 429,14 ล้านหุ้น หรือเท่ากับ 26.82% โดยขายในราคาสูงกว่าทุนที่ 1 บาท ทำให้ N-PARK เหลือสัดส่วนถือหุ้น SYNTEC 19.94%
"เราเห็นเป็นจังหวะดี ราคาเห็นว่าขายแล้วมีกำไร เพราะเรามีราคาทุนที่ 1 บาท ซึ่งเราขายได้หุ้นละ 1.20 กว่าบาท ก็ซื้อขายในตลาดในช่วงที่มีการซื้อขายวอลุ่มเยอะๆ เราไม่ได้เทขาย" แหล่งข่าว กล่าว
ฉะนั้น ในไตรมาส 4 คาดว่าบริษัทจะบันทึกรายได้จากการขายสินทรัพย์ประมาณ 2,094 ล้านบาท จากการขายหุ้น SYNTEC , รร.โซฟิเทล สุขุมวิท,หุ้นบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สยาม จำกัด (บริษัทย่อย N-PARK) ให้กับพันธมิตรรายใหม่ ไม่นับรวม การขายหุ้น บมจ. แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) ทึ่คาดว่าจะบันทึกเป็นรายได้ในไตรมาสนี้ไม่ทัน แต่ก็คาดว่างบการเงินในไตรมาส 4/49 จะพลิกมีกำไรได้จากไตรมาส 3/49 ที่มีผลขาดทุน 266.99 ล้านบาท
อนึ่ง ในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา N-PARK ขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สุขุมวิท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย(ถือหุ้น 69.22 % )ดำเนินโครงการโรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท ให้บริษัท เดลมอนสยาม จำกัด มูลค่าขาย 1,480 ล้านบาท และขายหุ้นบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สยาม จำกัด ให้กับพันธมิตรรายใหม่ คือ Al Manar Limited ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักลงทุนชาวบาห์เรนที่มีสถานะทางการเงินมั่นคงจำนวน 4.8 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40 % ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 100 บาท มูลค่าขายรวม 480 ล้านบาท ซึ่งหลังการขายหุ้นดังกล่าวทำให้ N-PARK ถือหุ้นในบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สยามฯ 35 % จากเดิมที่ถือในสัดส่วน 75 %
สำหรับการขายหุ้น PA เบื้องต้นบริษัทขายให้กับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศเช่นไต้หวัน ฮ่องกง นำโดยนายชนน ประเสริฐวิชชากร จำนวน 15 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.49% ในราคาหุ้นละ 8 บาท และจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ออฟเฟอร์)ทั้งหมดโดยสมัครใจ ในราคาหุ้นละ 8 บาท หลังวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่กำหนดวันที่ 5 ม.ค.50
แหล่งข่าว คาดว่า ขั้นตอนจะเปิดทำเทนเดอร์ฯได้ประมาณปลายเดือนม.ค. 50
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศถือหุ้นใน PA ได้ตามสัดส่วนของต่างชาติคือ 49% เท่านั้น ขณะที่มีผู้ถือหุ้นและรายย่อยที่มีอยู่ 36.6% หากผู้ถือหุ้นเสนอขายได้เท่าไร ทาง N-PARK ก็จะเสนอขายเพิ่มให้ได้เต็มสัดส่วน 49% จึงต้องรอหลังปิดทำเทนเดอร์ฯก่อนจึงจะรู้ว่า N-PARK จะขายหุ้น PA เพิ่มขึ้นอีกเท่าไร
อนึ่ง ก่อนจะขาย PA ให้กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ N-PARK ถือหุ้นอยู่ 63.4% โดยแผนเดิมมีแผนจะขายหุ้น PA ออกหมด แต่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ดีลกันได้ ก็ปรับเปลี่ยนแผนได้ เพราะก่อนหน้านี้ทางดุสิตธานีสนใจจะซื้อแต่ตกลงกันไม่ได้
"กลุ่มที่เข้ามาซื้อ PA เขาเป็นกลุ่มผู้บริหาร PA เดิม ทำธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว คิดว่าเขาคงเห็น potential ในตัว PA เพราะมีสินทรัพย์ดี ๆ เยอะ ที่เห็น ๆ ก็มีโรงแรมเจดี ในเชียงใหม่ , ที่ดินรอพัฒนาที่สมุย และก็มี cash เยอะ N-PARK เบื้องต้นเป็นพันธมิตรร่วมกัน แต่สัดส่วนจะอยู่ที่เท่าไหร่ขึ้นกับว่าจะมีคนขายให้เขาเท่าไร ตอนนี้เท่าที่ได้ยินมายังไม่มีแผนเอา PA ออกจากตลาด" แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้ บอร์ดได้อนุมัติขายที่ดินในต่างประเทศ 2 แห่งคือที่ประเทศโครเอเชีย และ ในญี่ปุ่น เพราะบริษัทมีต้นทุนของที่ดินทั้งสองแห่งต่ำมาก
"เราจะขายสินทรัพย์ออกมา เพื่อต้องการลดหนี้ให้เร็วที่สุด และเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน" แหล่งข่าว กล่าว
ผู้บริหารระดับสูง บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) เผยสภาพคล่องบริษัทดีขึ้นหลังขายสินทรัพย์ออกบางส่วนเพื่อลดหนี้แบงก์ พร้อมเตรียมทุนรองรับการลงทุนโครงการโรงแรมหรู 2 แห่ง ล่าสุดตัดขายหุ้น บมจ. ซินเท็คคอนสตรัคชั่น(SYNTEC)ไป 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.88%ได้เงิน 134 ล้านบาท มีกำไรกว่า 20% นำไปชำระหนี้
"เราขายสินทรัพย์ออกไปพยายามเคลียร์หนี้ พร้อมทุนไว้ลงทุนต่อ ความคล่องตัวดีขึ้นหลังจากที่เราชำระหนี้ออกไปบางส่วน ความจริงอัตราหนี้สินต่อทุนเราก็ไม่สูง ผมว่าประเด็นเรื่อง credit ของบริษัทที่ผู้บริหารชุดเดิมมีปัญหา"แหล่งข่าวจาก N-PARK กล่าว
สำหรับโครงการที่บริษัทจะลงทุนมี 2 โครงการจะก่อสร้างเป็นโรงแรมหรู ได้แก่ โรงแรมอามันรีสอร์ท กรุงเทพ (โครงการโรงภาษีร้อยชักสาม) มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท โครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่มีพื้นที่ติดกับสยามพารากอน มูลค่าโครงการ 3.2 พันล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินกับธนาคารนครหลวงไทย และ ธนาคารกรุงไทย ระหว่าง 29-30 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทขายหุ้น SYNTEC ออกไป 110 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.88% จากเดิมถืออยู่ 429,14 ล้านหุ้น หรือเท่ากับ 26.82% โดยขายในราคาสูงกว่าทุนที่ 1 บาท ทำให้ N-PARK เหลือสัดส่วนถือหุ้น SYNTEC 19.94%
"เราเห็นเป็นจังหวะดี ราคาเห็นว่าขายแล้วมีกำไร เพราะเรามีราคาทุนที่ 1 บาท ซึ่งเราขายได้หุ้นละ 1.20 กว่าบาท ก็ซื้อขายในตลาดในช่วงที่มีการซื้อขายวอลุ่มเยอะๆ เราไม่ได้เทขาย" แหล่งข่าว กล่าว
ฉะนั้น ในไตรมาส 4 คาดว่าบริษัทจะบันทึกรายได้จากการขายสินทรัพย์ประมาณ 2,094 ล้านบาท จากการขายหุ้น SYNTEC , รร.โซฟิเทล สุขุมวิท,หุ้นบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สยาม จำกัด (บริษัทย่อย N-PARK) ให้กับพันธมิตรรายใหม่ ไม่นับรวม การขายหุ้น บมจ. แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) ทึ่คาดว่าจะบันทึกเป็นรายได้ในไตรมาสนี้ไม่ทัน แต่ก็คาดว่างบการเงินในไตรมาส 4/49 จะพลิกมีกำไรได้จากไตรมาส 3/49 ที่มีผลขาดทุน 266.99 ล้านบาท
อนึ่ง ในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา N-PARK ขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สุขุมวิท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย(ถือหุ้น 69.22 % )ดำเนินโครงการโรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท ให้บริษัท เดลมอนสยาม จำกัด มูลค่าขาย 1,480 ล้านบาท และขายหุ้นบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สยาม จำกัด ให้กับพันธมิตรรายใหม่ คือ Al Manar Limited ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักลงทุนชาวบาห์เรนที่มีสถานะทางการเงินมั่นคงจำนวน 4.8 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40 % ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 100 บาท มูลค่าขายรวม 480 ล้านบาท ซึ่งหลังการขายหุ้นดังกล่าวทำให้ N-PARK ถือหุ้นในบริษัท แนเชอรัล โฮเต็ล สยามฯ 35 % จากเดิมที่ถือในสัดส่วน 75 %
สำหรับการขายหุ้น PA เบื้องต้นบริษัทขายให้กับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศเช่นไต้หวัน ฮ่องกง นำโดยนายชนน ประเสริฐวิชชากร จำนวน 15 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.49% ในราคาหุ้นละ 8 บาท และจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ออฟเฟอร์)ทั้งหมดโดยสมัครใจ ในราคาหุ้นละ 8 บาท หลังวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่กำหนดวันที่ 5 ม.ค.50
แหล่งข่าว คาดว่า ขั้นตอนจะเปิดทำเทนเดอร์ฯได้ประมาณปลายเดือนม.ค. 50
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศถือหุ้นใน PA ได้ตามสัดส่วนของต่างชาติคือ 49% เท่านั้น ขณะที่มีผู้ถือหุ้นและรายย่อยที่มีอยู่ 36.6% หากผู้ถือหุ้นเสนอขายได้เท่าไร ทาง N-PARK ก็จะเสนอขายเพิ่มให้ได้เต็มสัดส่วน 49% จึงต้องรอหลังปิดทำเทนเดอร์ฯก่อนจึงจะรู้ว่า N-PARK จะขายหุ้น PA เพิ่มขึ้นอีกเท่าไร
อนึ่ง ก่อนจะขาย PA ให้กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ N-PARK ถือหุ้นอยู่ 63.4% โดยแผนเดิมมีแผนจะขายหุ้น PA ออกหมด แต่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ดีลกันได้ ก็ปรับเปลี่ยนแผนได้ เพราะก่อนหน้านี้ทางดุสิตธานีสนใจจะซื้อแต่ตกลงกันไม่ได้
"กลุ่มที่เข้ามาซื้อ PA เขาเป็นกลุ่มผู้บริหาร PA เดิม ทำธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว คิดว่าเขาคงเห็น potential ในตัว PA เพราะมีสินทรัพย์ดี ๆ เยอะ ที่เห็น ๆ ก็มีโรงแรมเจดี ในเชียงใหม่ , ที่ดินรอพัฒนาที่สมุย และก็มี cash เยอะ N-PARK เบื้องต้นเป็นพันธมิตรร่วมกัน แต่สัดส่วนจะอยู่ที่เท่าไหร่ขึ้นกับว่าจะมีคนขายให้เขาเท่าไร ตอนนี้เท่าที่ได้ยินมายังไม่มีแผนเอา PA ออกจากตลาด" แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้ บอร์ดได้อนุมัติขายที่ดินในต่างประเทศ 2 แห่งคือที่ประเทศโครเอเชีย และ ในญี่ปุ่น เพราะบริษัทมีต้นทุนของที่ดินทั้งสองแห่งต่ำมาก
"เราจะขายสินทรัพย์ออกมา เพื่อต้องการลดหนี้ให้เร็วที่สุด และเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน" แหล่งข่าว กล่าว