บลจ.แอสเซทพลัสฟันธงแนวโน้มดอกเบี้ยปี"50 อยู่ในช่วงขาลง คาดในช่วงครึ่งปีแรกดอกเบี้ยอาร์/พี มีโอกาสปรับตัวลดลง 0.25-0.50% เผย "ผู้จัดการกองทุน"ปรับกลยุทธ์การลงทุนด้วยการเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นกู้เอกชนที่มีเรตติ้งสูงกว่า A ในช่วงอายุ 5 ปี หวังดันผลตอบแทนการลงทุนขยับ
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทว่า บริษัทยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 0.25-0.50% ภายในครึ่งปีแรกของปี 2550 โดยผลประมูลล่าสุดของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 1-2 ปี ได้ปรับลดลงต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) 14 วัน ที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5% แล้ว
นอกจากนี้ THB SWAP CURVE ก็เริ่ม Inverted แล้ว โดย Swap 2-3 ปี ต่ำกวา Swap 6 เดือน ดังนั้น บริษัทจึงคงน้ำหนักการลงทุนในตราสารอายุ 2-3 ปี และจะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่มีเรตติ้งสูงกว่า A ในช่วงอายุ 5 ปี เพื่อเพิ่มผลตอบแทน
รายงานข่าวกล่าวว่า ในส่วนของภาพรวมตลาดหุ้นในเดือนตุลาคม การปฏิรูปทางการเมืองทำให้ปัจจัยทางการเมืองซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาวะการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาคลี่คลายลงและผลักดันให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นในการลงทุนอีกครั้ง โดยคาดว่า SET จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและเคลื่อนไหวในกรอบ 680-710 นอกจากนั้นปัจจัยภายนอกประเทศอันได้แก่ การยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา น่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อภาวะดอกเบี้ยในประเทศตลอดจนภาวะเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดและอ่อนไหวต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาครวมถึงตลาดหุ้นไทย
ในส่วนของพอร์ตการลงทุนั้น บริษัทยังดำรงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงทีผ่านมาคือ มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 80-90% โดยคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
นอกจากนี้ กองทุนได้ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหมวดพลังงานลงเล็กน้อย แต่ในระยะกลางยังเชื่อว่าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ และรอจังหวะในการลดสัดส่วนในกลุ่มพลังงานลงอีก นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนได้พยายามหาจังหวะในการขายหุ้นบางตัวเพื่อทำกำไร
รายงานข่าวจากบลจ.แอสเซท พลัส ยังได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลบอล อัลโลเคชั่น (ASP-GAF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ UBS (Lux) Key Selection Sicav-Global Allocation (EUR) B โดยมีลักษณะการลงทุนแบบผสมผสานที่มีการกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ทุกภูมิภาคทั่วโลก จะพบว่า กองทุน ASP-GAF มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 6 เดือน นับตั้งแต่ 31 มีนาคม 2549 ถึง 29 กันยายน 2549 อยู่ที่ประมาณ 2.40% แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงนัก แต่เมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเดียวกันซึ่งมีการปรับตัวลดลงสูงถึง -6.43% จะเห็นว่า การกระจายเงินบางส่วนมาลงทุนในกองทุน ASP-GAF จะช่วยให้ผลตอบแทนรวมจากพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนดีขึ้นได้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทว่า บริษัทยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 0.25-0.50% ภายในครึ่งปีแรกของปี 2550 โดยผลประมูลล่าสุดของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 1-2 ปี ได้ปรับลดลงต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) 14 วัน ที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5% แล้ว
นอกจากนี้ THB SWAP CURVE ก็เริ่ม Inverted แล้ว โดย Swap 2-3 ปี ต่ำกวา Swap 6 เดือน ดังนั้น บริษัทจึงคงน้ำหนักการลงทุนในตราสารอายุ 2-3 ปี และจะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่มีเรตติ้งสูงกว่า A ในช่วงอายุ 5 ปี เพื่อเพิ่มผลตอบแทน
รายงานข่าวกล่าวว่า ในส่วนของภาพรวมตลาดหุ้นในเดือนตุลาคม การปฏิรูปทางการเมืองทำให้ปัจจัยทางการเมืองซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาวะการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาคลี่คลายลงและผลักดันให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นในการลงทุนอีกครั้ง โดยคาดว่า SET จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและเคลื่อนไหวในกรอบ 680-710 นอกจากนั้นปัจจัยภายนอกประเทศอันได้แก่ การยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา น่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อภาวะดอกเบี้ยในประเทศตลอดจนภาวะเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดและอ่อนไหวต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาครวมถึงตลาดหุ้นไทย
ในส่วนของพอร์ตการลงทุนั้น บริษัทยังดำรงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงทีผ่านมาคือ มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 80-90% โดยคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
นอกจากนี้ กองทุนได้ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหมวดพลังงานลงเล็กน้อย แต่ในระยะกลางยังเชื่อว่าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ และรอจังหวะในการลดสัดส่วนในกลุ่มพลังงานลงอีก นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนได้พยายามหาจังหวะในการขายหุ้นบางตัวเพื่อทำกำไร
รายงานข่าวจากบลจ.แอสเซท พลัส ยังได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลบอล อัลโลเคชั่น (ASP-GAF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ UBS (Lux) Key Selection Sicav-Global Allocation (EUR) B โดยมีลักษณะการลงทุนแบบผสมผสานที่มีการกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ทุกภูมิภาคทั่วโลก จะพบว่า กองทุน ASP-GAF มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 6 เดือน นับตั้งแต่ 31 มีนาคม 2549 ถึง 29 กันยายน 2549 อยู่ที่ประมาณ 2.40% แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงนัก แต่เมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเดียวกันซึ่งมีการปรับตัวลดลงสูงถึง -6.43% จะเห็นว่า การกระจายเงินบางส่วนมาลงทุนในกองทุน ASP-GAF จะช่วยให้ผลตอบแทนรวมจากพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนดีขึ้นได้