กรุงไทยพร้อมเคาะราคาดอกเบี้ยไฮบริด บอนด์ อีกครั้ง นัดนักลงทุนผู้สนใจเข้ามากำหนดราคา ขณะที่มูดี้ส์ให้อันดับเครดิตไฮบริดบอนด์ ที่ระดับ Ba1 หลังต้องเลื่อนจากเหตุคณะปฏิรูปฯ ยึดอำนาจ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)หรือ KTB กล่าวว่าในวันนี้(5 ต.ค.)ธนาคารจะเปิดให้นักลงทุนที่สนใจซื้อตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์กึ่งทุน (ไฮบริด บอนด์) วงเงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท นำเสนออัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะใกล้เคียงกับการเสนอขายในครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรัฐบาลสหรัฐได้ปรับตัวลง เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว
ทั้งนี้แม้ว่าส่วนต่างในการออกพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.80-2.85% จากเดิมอยู่ที่ 2.65% แต่ต้นทุนของแบงก์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทำให้ธนาคารตัดสินใจที่จะออกไฮบริดจ์ บอนด์ วงเงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐได้ในช่วงนี้
“คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของการออกไฮบริดจ์ บอนด์ ในครั้งนี้ จะใกล้เคียงกับการเสนอขายในครั้งที่ผ่านมา และแม้ว่าส่วนต่างการออกพันธบัตรจะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนของแบงก์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง”
อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ธนาคารต้องออกไฮบริดจ์ บอนด์ ในช่วงนี้แม้ว่าที่ผ่านมาสถานการณ์ในประเทศจะมีการปฏิรูปการปกครองก็ตาม แต่หากมีการเลื่อนการออกไฮบริด บอนด์ออกไปก็จะต้องรอไปอีก 2-3 เดือน เพราะต้องรอให้มีการปิดงบในไตรมาสที่ 3 จะทำให้ตัวเลขทางการเงินของธนาคารเปลี่ยนแปลง และจะต้องเดินทางไปโรดโชว์ข้อมูลให้กับนักลงทุนใหม่ ซึ่งหลังจากการขายไฮบริดบอนด์ เงินจะไหลเข้ามาภายในเวลา 4-5 วัน และบีไอเอสของธนาคารจะปรับเพิ่มขึ้น 0.8%
ขณะที่รายงานข่าวจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์อินเวสเตอร์สเซอร์วิส หรือ มูดี้ส์ ระบุวานนี้(4 ต.ค.)ว่า มูดี้ส์ให้อันดับความน่าเชื่อถือไฮบริดบอนด์ (Hybrid Tier 1 securities) ของธนาคารกรุงไทย หรือ ที่จำหน่ายผ่านธนาคารสาขาในสิงคโปร์ที่ระดับ Ba1 มุมมองมีเสถียรภาพ หลัง KTB เตรียมจะออกตราสารดังกล่าวอีกครั้งจากที่ระงับไปในช่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในไทย
'อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ Ba1 ดังกล่าวสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งในระดับปานกลางของ KTB และสะท้อนถึงกฎเกณฑ์การออกตราสารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธนาคารของไทย' นาย ลีโอ วาห์ รองประธานและนักวิเคราะห์อันดับความน่าเชื่อถือของมูดี้ส์กล่าว
ทั้งนี้ เงื่อนไขภายใต้การออกตราสารดังกล่าวกำหนดให้ผู้ออกตราสารสามารถไถ่ถอนได้นับหลังตราสารมีอายุ 10 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังระบุด้วยว่าอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวที่ให้กับไฮบริดบอนด์ของ KTB จะมาจากเงื่อนไขทั่วไปของไฮบริดบอนด์และจะไม่มีการ เปลี่ยนแปลงจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2006 KTB ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 2 ของไทยมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1,188 พันล้านบาท (32 พันล้านดอลลาร์)
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)หรือ KTB กล่าวว่าในวันนี้(5 ต.ค.)ธนาคารจะเปิดให้นักลงทุนที่สนใจซื้อตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์กึ่งทุน (ไฮบริด บอนด์) วงเงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท นำเสนออัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะใกล้เคียงกับการเสนอขายในครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรัฐบาลสหรัฐได้ปรับตัวลง เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว
ทั้งนี้แม้ว่าส่วนต่างในการออกพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.80-2.85% จากเดิมอยู่ที่ 2.65% แต่ต้นทุนของแบงก์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทำให้ธนาคารตัดสินใจที่จะออกไฮบริดจ์ บอนด์ วงเงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐได้ในช่วงนี้
“คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของการออกไฮบริดจ์ บอนด์ ในครั้งนี้ จะใกล้เคียงกับการเสนอขายในครั้งที่ผ่านมา และแม้ว่าส่วนต่างการออกพันธบัตรจะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนของแบงก์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง”
อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ธนาคารต้องออกไฮบริดจ์ บอนด์ ในช่วงนี้แม้ว่าที่ผ่านมาสถานการณ์ในประเทศจะมีการปฏิรูปการปกครองก็ตาม แต่หากมีการเลื่อนการออกไฮบริด บอนด์ออกไปก็จะต้องรอไปอีก 2-3 เดือน เพราะต้องรอให้มีการปิดงบในไตรมาสที่ 3 จะทำให้ตัวเลขทางการเงินของธนาคารเปลี่ยนแปลง และจะต้องเดินทางไปโรดโชว์ข้อมูลให้กับนักลงทุนใหม่ ซึ่งหลังจากการขายไฮบริดบอนด์ เงินจะไหลเข้ามาภายในเวลา 4-5 วัน และบีไอเอสของธนาคารจะปรับเพิ่มขึ้น 0.8%
ขณะที่รายงานข่าวจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์อินเวสเตอร์สเซอร์วิส หรือ มูดี้ส์ ระบุวานนี้(4 ต.ค.)ว่า มูดี้ส์ให้อันดับความน่าเชื่อถือไฮบริดบอนด์ (Hybrid Tier 1 securities) ของธนาคารกรุงไทย หรือ ที่จำหน่ายผ่านธนาคารสาขาในสิงคโปร์ที่ระดับ Ba1 มุมมองมีเสถียรภาพ หลัง KTB เตรียมจะออกตราสารดังกล่าวอีกครั้งจากที่ระงับไปในช่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในไทย
'อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ Ba1 ดังกล่าวสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งในระดับปานกลางของ KTB และสะท้อนถึงกฎเกณฑ์การออกตราสารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธนาคารของไทย' นาย ลีโอ วาห์ รองประธานและนักวิเคราะห์อันดับความน่าเชื่อถือของมูดี้ส์กล่าว
ทั้งนี้ เงื่อนไขภายใต้การออกตราสารดังกล่าวกำหนดให้ผู้ออกตราสารสามารถไถ่ถอนได้นับหลังตราสารมีอายุ 10 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังระบุด้วยว่าอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวที่ให้กับไฮบริดบอนด์ของ KTB จะมาจากเงื่อนไขทั่วไปของไฮบริดบอนด์และจะไม่มีการ เปลี่ยนแปลงจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2006 KTB ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 2 ของไทยมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1,188 พันล้านบาท (32 พันล้านดอลลาร์)


