4 หุ้นน้องใหม่"เดวา-รอยัลปอร์ซเลน-สหไทยสตีลไพพ์-แจแปนเร้นท์" หมดระยะผ่อนผันขายหุ้นจากก.ล.ต.ปลายปีนี้ ด้านผู้บริหารแจงหากปัจจัยการเมือง ภาวะตลาดไม่เอื้อ ยอมชะลอแผนออกไป เมินไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีถ้าเข้าเทรดไม่ทันปีนี้ เหตุหวั่นนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนได้รับผลตอบแทนไม่ดี ถ้าเข้ามาซื้อขายแล้วราคาต่ำกว่าจองพร้อมยื่นแบบไฟลิ่งรอบใหม่
จากการรวบรวมบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ให้สามารถเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO)ที่จะหมดระยะเวลาผ่อนผันให้เสนอขายหุ้นในปีนี้มีจำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เดวา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)ซึ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึงวันที่ 15 กันยายน 2549 บริษัท รอยัล ปอร์ซเลน จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2549
บริษัท สหไทยสตีลไพพ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 และบริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งสำนักงานก.ล.ต.ผ่อนผันระยะเวลาอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึง 25 ธันวาคม 2549 ทั้งนี้หากบริษัทดังกล่าวยังไม่ดำเนินการขายหุ้นทันภายในกำหนดบริษัทดังกล่าวจะต้องมีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ใหม่ ต่อสำนักงานก.ล.ต.
นายนที วรรธนะโกวินท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) แต่จากการที่ปัจจัยทางเมืองยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นทำให้มีความผันผวน ดังนั้นบริษัทจึงยังไม่ดำเนินการเข้าจดทะเบียน เพราะเกรงว่าราคาหุ้นของบริษัทจะต่ำกว่าราคาจอง ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี
ทั้งนี้บริษัทจะพยายามเข้าให้ทันในปีนี้ เพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเป็นเวลา 3 ปี แต่หากเมื่อเทียบกับการที่การเมืองไม่ชัดเจนภาวะตลาดผันผวนอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท ดังนั้นบริษัทก็ยังไม่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ ถึงแม้อายุแบบไฟลิ่งของบริษัทจะหมดระยะเวลาผ่อนผันในวันที่ 25 ธันวาคมก็ตาม บริษัทก็สามารถที่จะมีการยื่นไฟลิ่งใหม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่ลำบาก
“บริษัทพยามที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ทันในปีนี้เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่หากปัจจัยทางเมืองยังไม่ชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย บริษัทก็ยังไม่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เพราะหากเข้าจดทะเบียนแล้วจะส่งผลต่อการกำหนดราคาหุ้นที่ได้ราคาไม่ดี ราคาหุ้นต่ำจองทำให้กระทบต่อนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนไม่ดี ซึ่งหากเข้าไม่ทันปีนี้ อายุแบบไฟลิ่งหมดระยะผ่อนผัน บริษัทก็จะยื่นแบบไฟลิ่งใหม่ เพื่อเข้าเทรดปีหน้า”นายนทีกล่าว
นายทวีศักดิ์ ครุจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทสหไทยสตีลไพพ์ จำกัด(มหาชน)หรือ STS เปิดกล่าวว่า บริษัทชะลอแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออกไปก่อน เนื่องจากรอภาวะตลาดการเมือง ภาวะตลาดให้มีความชัดเจนและปรับตัวดีขึ้นก่อน ซึ่งหากปีนี้ภาวะดังกล่าวยังไม่ดีขึ้นบริษัทก็จะยังไม่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ แม้บริษัทไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็ตาม ส่วนในเรื่องแบบไฟลิ่งที่จะหมดระยะเวลาผ่อนผันการเสนอขายหุ้นนั้น บริษัทก็จะมีการปรับปรุงข้อมูลและยื่นไฟลิ่งใหม่อีกรอบ
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท เดวา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการหารือกับผู้บริหาร บริษัท เดวา พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงยืนยันการที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่จากภาวะตลาดที่ยังไม่เอื้อจึงต้องมีการเลื่อนออกไปก่อน ซึ่งยังไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาในการเข้าจดทะเบียน ทั้งนี้การที่อายุแบบไฟลิ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันนั้นบริษัทก็พร้อมที่จะมีการยื่นแบบไฟลิ่งใหม่
จากการรวบรวมบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ให้สามารถเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO)ที่จะหมดระยะเวลาผ่อนผันให้เสนอขายหุ้นในปีนี้มีจำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เดวา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)ซึ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึงวันที่ 15 กันยายน 2549 บริษัท รอยัล ปอร์ซเลน จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2549
บริษัท สหไทยสตีลไพพ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2549 และบริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งสำนักงานก.ล.ต.ผ่อนผันระยะเวลาอนุญาตให้เสนอขายออกไปถึง 25 ธันวาคม 2549 ทั้งนี้หากบริษัทดังกล่าวยังไม่ดำเนินการขายหุ้นทันภายในกำหนดบริษัทดังกล่าวจะต้องมีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ใหม่ ต่อสำนักงานก.ล.ต.
นายนที วรรธนะโกวินท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) แต่จากการที่ปัจจัยทางเมืองยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นทำให้มีความผันผวน ดังนั้นบริษัทจึงยังไม่ดำเนินการเข้าจดทะเบียน เพราะเกรงว่าราคาหุ้นของบริษัทจะต่ำกว่าราคาจอง ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี
ทั้งนี้บริษัทจะพยายามเข้าให้ทันในปีนี้ เพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเป็นเวลา 3 ปี แต่หากเมื่อเทียบกับการที่การเมืองไม่ชัดเจนภาวะตลาดผันผวนอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท ดังนั้นบริษัทก็ยังไม่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ ถึงแม้อายุแบบไฟลิ่งของบริษัทจะหมดระยะเวลาผ่อนผันในวันที่ 25 ธันวาคมก็ตาม บริษัทก็สามารถที่จะมีการยื่นไฟลิ่งใหม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่ลำบาก
“บริษัทพยามที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ทันในปีนี้เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่หากปัจจัยทางเมืองยังไม่ชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย บริษัทก็ยังไม่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เพราะหากเข้าจดทะเบียนแล้วจะส่งผลต่อการกำหนดราคาหุ้นที่ได้ราคาไม่ดี ราคาหุ้นต่ำจองทำให้กระทบต่อนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนไม่ดี ซึ่งหากเข้าไม่ทันปีนี้ อายุแบบไฟลิ่งหมดระยะผ่อนผัน บริษัทก็จะยื่นแบบไฟลิ่งใหม่ เพื่อเข้าเทรดปีหน้า”นายนทีกล่าว
นายทวีศักดิ์ ครุจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทสหไทยสตีลไพพ์ จำกัด(มหาชน)หรือ STS เปิดกล่าวว่า บริษัทชะลอแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออกไปก่อน เนื่องจากรอภาวะตลาดการเมือง ภาวะตลาดให้มีความชัดเจนและปรับตัวดีขึ้นก่อน ซึ่งหากปีนี้ภาวะดังกล่าวยังไม่ดีขึ้นบริษัทก็จะยังไม่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ แม้บริษัทไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็ตาม ส่วนในเรื่องแบบไฟลิ่งที่จะหมดระยะเวลาผ่อนผันการเสนอขายหุ้นนั้น บริษัทก็จะมีการปรับปรุงข้อมูลและยื่นไฟลิ่งใหม่อีกรอบ
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท เดวา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการหารือกับผู้บริหาร บริษัท เดวา พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงยืนยันการที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่จากภาวะตลาดที่ยังไม่เอื้อจึงต้องมีการเลื่อนออกไปก่อน ซึ่งยังไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาในการเข้าจดทะเบียน ทั้งนี้การที่อายุแบบไฟลิ่งจะหมดระยะเวลาผ่อนผันนั้นบริษัทก็พร้อมที่จะมีการยื่นแบบไฟลิ่งใหม่