xs
xsm
sm
md
lg

'โสภณพนิช'ซบช่องตลาดสำนักงานโต งัดที่ดินย่านสาทรผุดเอเชียเซ็นเตอร์มูลค่า2พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ซิตี้เรียลตี้" ธุรกิจอสังหาฯในเครือตระกูลโสภณพนิช สบช่องตลาดอาคารสำนักงานในเขตซีบีดีขาดตลาด ผุดสำนักงานให้เช่าเกรดเอภายใต้ชื่อ "เอเชียเซ็นเตอร์" ข้างตึกสาธรซิตี้ สูง 30 ชั้นเนื้อที่ 40,000 ตร.ม. มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท แจงรายได้ยังคงมาจากธุรกิจให้เช่าสูงถึง 70% รายได้จากการขาย 30% ด้านค่ายตระกูลเตชะไกรศรีและกลุ่มนิรันดร์ กรุ๊ป ยึดทำเลสาทรผุดคอนโดฯ

นายชาลี โสภณพนิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซิตี้ เรียลตี้ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลโสภณพนิช เปิดเผยถึงแผนการลงทุนของบริษัทเป็นครั้งแรกในรอบปีว่า ปัจจุบันความต้องการอาคารสำนักงานให้เช่ามีแนวโน้มปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณสินค้าในตลาดมีจำนวนจำกัด หรืออาจจะไม่ตรงกับความต้องการของลูก ดังนั้น ทางบริษัทมีแผนที่จะลงทุนและพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาด ซึ่งแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่การเคลื่อนย้ายของบริษัทข้ามชาติยังมีเพิ่มขึ้นในไทย รวมถึงบริษัทเอกชนในไทยที่เตรียมขยายการลงทุน

โดยรูปแบบของโครงการจะเป็นอาคารสูง 30 ชั้น บนเนื้อที่ 2.5 ไร่ บริเวณข้างอาคารสาธรซิตี้ บนถนนสาทร พื้นที่อาคารรวม 40,000 ตร.ม. จับกลุ่มลูกค้าเกรดเอ ค่าเช่าประมาณ 750 บาทต่อตร.ม. มูลค่าอาคารประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมค่าที่ดิน ขณะนี้ได้ลงมือก่อสร้างฐานรากไปแล้วบางส่วน และจะเปิดประมูลก่อสร้างอาคารได้อีกประมาณ 1-2 เดือนข้างหน้านี้ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 2 ปีครึ่ง ซึ่งในเบื้องต้นได้ใช้ชื่อ "เอเชียเซ็นเตอร์"

"ทำเลสาทรถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก และโครงการของบริษัทยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี จึงเชื่อว่าจะได้รับความนิยม ส่วนคู่แข่งในย่านดังกล่าวถือว่ายังมีไม่มาก แม้ว่าจะมีอาคารเปิดใหม่ไปในช่วงก่อนหน้านี้ แต่พื้นที่อาคารสำนักงานยังเป็นที่ต้องการอีกมาก และแม้ว่าจะมีอาคารใหม่เกิดขึ้นก็เชื่อว่าไม่ได้มาแย่งตลาดอาคารเก่า เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักไม่ย้ายอกง่ายๆ นอกจากอาคารนั้นเก่ามากๆ หรือต้องการขยับขยาย" นายชาลีกล่าว

นอกจากโครงการอาคารสำนักงานแล้ว บริษัทยังคงสัดส่วนรายได้จากค่าเช่าและขายระดับ 70% และ 30% เนื่องจากมองว่า รายได้จากค่าเช่ามีความมั่นคงและต่อเนื่องขึ้นลงไม่มาก แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว ในขณะที่รายได้จากการขายจะผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ

ในส่วนของโครงการริเวอร์ไซด์ การ์เด้น มารีน่า ทางบริษัทได้ปรับรูปแบบของโครงการใหม่ จากเดิมที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมและโรงแรม แต่ปัจจุบันได้กำหนดให้อาคารแรกเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อขาย จำนวน 260 ยูนิต ,อาคารที่ 2 เป็นอพาร์ตเมนต์ให้เช่าราคาเฉลี่ย 60,000 บาท/เดือน/ยูนิต และอาคารสุดท้ายเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เกรดเอ ราคาเฉลี่ย 1.1-1.2 แสนบาท/เดือน/ยูนิต ซึ่งได้ใช้ทีมบริหารจากเอ็มโพเรียมสวีท ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านนี้มาแล้ว

สำหรับโครงการ ริเวอร์ไซด์ การ์เด้น มารีน่า ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยาวถึงริมถนนเจริญกรุงติดกับทางแยกถนนจันทร์ เป็นอาคารสูง 36 ชั้น 3 อาคาร บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ มูลค่าก่อสร้างและตกแต่งรวม 3,100 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างเกือบเสร็จแล้วเหลือเพียงงานตกแต่ง โดยจะทยอยส่งมอบอาคารคอนโดมิเนียมก่อน ส่วนอีก 2 อาคารที่เหลือต้องตกแต่งภายในมากกว่าโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีที่ดินในบริเวณดังกล่าวอีก 1 แปลง ขนาด 14 ไร่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีแผนว่าจะพัฒนาเป็นอะไร โดยจะรอโอกาสทางธุรกิจและภาวะเศรษฐกิจจึงจะนำออกมาพัฒนา

นอกจากโครงการริเวอร์ไซด์ฯแล้ว บริษัทยังมีโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่อีก 2 โครงการได้แก่ โครงการไอเฮ้าส์ พระราม 9 คอนโดมิเนียมจำนวน 470 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายไปแล้ว 60% และโครงการ ไอเฮ้าส์ อาร์ซีเอ ซึ่งปัจจุบันเปิดขายในเฟส แรก 3 อาคาร จากทั้งหมดประมาณ 12 อาคาร มียอดขายไปแล้ว 1 อาคาร

ส่วนโครงการคอนโดฯบนถนนวิทยุตรงข้ามสวนลุมพินี ซึ่งตามแผนทางบริษัทจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดฯเกรดเอ ราคาไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อตร.ม.ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม(สวล.) และเมื่อได้อนุมัติจะลงก่อสร้างทันที

**ชินคาร่า-นิรันดร์ฯปักธงสาทรผุดคอนโดฯ

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชินคาร่า จำกัด กล่าวถึงแผนการพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัทฯว่า ภายในปลายปีหรือต้นปี 2550 อาจจะตัดสินใจลงทุนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมขึ้น 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเลือกซื้อที่ดินในบริเวณสาทรเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เพื่อเปิดโครงการใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อวางเงินซื้อที่ดิน

" เดิมพิจารณา 2 ทำล คือ ต้นๆสุขุมวิทและบริเวณสาทร แต่ขณะนี้จะให้น้ำหนักกับเส้นสาทร ซึ่งรูปแบบโครงการจะเน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้บริหาร หรือชาวต่างชาติ จะมีดีไซน์โครงการที่แตกต่างจากคู่แข่ง ขนาดของห้องอาจจะเริ่มต้นที่ 200 ตร.ม.ถึงกว่า 400 ตร.ม. อีกทั้งการมีบริษัทสถาปนิกซึ่งเป็นคนไทย แต่มีชาวต่างชาติที่มีไอเดียและเชี่ยวชาญในการออกมาช่วยเป็นที่ปรึกษา"นายสรพจน์กล่าว

สำหรับโครงการ Ficus Lane คอนโดมิเนียมที่ได้เปิดโครงการไปช่วง 2ปีที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทสามารถปิดการขายได้ 100% และทยอยโอนเข้าอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่า 880 ล้านบาท

ด้านนายธำรงค์ ปัญญาสกุลวงศ์ ประธาน บริษัท นิรันดร์ กรุ๊ป กล่าวว่า ภายหลังที่ประสบความสำเร็จกับการผลักดันโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ในซอยสุขุมวิท 24 จนเป็นที่ยอมรับของลูกค้า ล่าสุด ทางบริษัทฯได้ตัดสินใจเปิดโครงการคอนโดมิเนียมทำเลสาทร บางรัก ภายใต้ชื่อ "The Station " ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกันพันธมิตรระดับมืออาชีพ ราคาเริ่มต้น 1.25 ล้านบาท สูงประมาณ 17-18 ชั้น ซึ่งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าโรบิน บางรัก กำหนดเปิดขายกลางเดือนก.ย.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น