xs
xsm
sm
md
lg

เมเจอร์ฯซื้อที่ดินSCB สร้างคอนโดฯรัชโยธิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" ธุรกิจอสังหาฯในเครือตระกูลพูลวรลักษณ์ ทุ่มเปิดโครงการคอนโดฯใหม่ ภายใต้แบรนด์ WIND บน 2 ทำเล มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท โดยเฉพาะที่ดินแปลงงามที่ซื้อจากแบงก์ไทยพาณิชย์ติดกับเมเจอร์ รัชโยธิน ยันเป็นการซื้อตรงกับแบงก์ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเอนเตอร์เทนเม้นท์ฯ พร้อมปรับคอนเซ็ปต์ขนาดของห้องชุดมาอยู่ที่ 50-70 ตร.ม.รองรับกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมือง ส่วนโครงการคอนโดฯส WIND สุขุมวิท 23 ยอดPre-sale ไปแล้ว 20% เปรยยังต้องการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งหาช่องขยายสู่ธุรกิจใหม่

นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาโครงการของบริษัทในระยะนี้ว่า ทางบริษัทได้ปรับแผนการขยายฐานลูกค้าลงมาจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งจะเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ เจ้าของธุรกิจ ครอบครัวขนาดเล็ก คู่สมรสใหม่ หรือลูกค้าที่ต้องการใช้ชีวิตอิสระที่มีไลฟสไตล์ที่ทันสมัย โดยในเบื้องต้นจะเปิดโครงการใหม่พร้อมๆกัน 2 ทำเล มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ใหม่คือ WIND ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มาทำตลาดลูกค้าอีกกลุ่ม (ซัปแบรนด์ของบริษัทฯ) ขนาดของห้องพักเล็กลงมาอยู่ระดับ 50-70 ตารางเมตรเป็นส่วนใหญ่ จากก่อนหน้านี้ ขนาดของพักจะรองรับกลุ่มขนาดครอบครัวหรือระดับพรีเมี่ยม โดย 2 โครงการภายใต้แบรนด์WIND ประกอบด้วย

โครงการคอนโดมิเนียม รัชโยธิน (ใกล้เมเจอร์ซิเนเพล็กซ์ รัชโยธิน) บนเนื้อที่ 3 ไร่ (1,200 ตารางวา) อาคารสูง 37 ชั้น จำนวน 390 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ราคาขายประมาณ 70,000-92,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งประเภทห้องชุดสตูดิโอ ขนาด 36 ตร.ม.และห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน 50-53 ตร.ม.จะมีจำนวนยูนิตรวมกันมากที่สุดประมาณ 324 ยูนิต คาดว่าจะเริ่มขายแบบPre-Sale เร็วๆนี้ และสร้างแล้วเสร็จปี 3-4 ปี (ปี 2009)

สำหรับที่ดินดังกล่าว นายสุริยนกล่าวยืนยันว่าเป็นการซื้อโดยตรงจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB เนื้อที่ 3 ไร่ มิใช่เป็นการซื้อมาจากบริษัท เมเจอร์บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เนื่องจากการทำธุรกิจจะแยกกัน และจะไม่มีการพ่วงการพัฒนาโครงการไปกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ฯ เพราะที่ผ่านมาโครงการของบริษัทที่ปิดการขาย หรือที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและการขายขณะนี้ ล้วนแล้วแต่ไม่ได้อิงกับโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ฯ แต่เนื่องจากโครงการคอนโดฯฯรัชโยธิน อยู่ในทำเลที่ใกล้กับชุมชน อยู่ใกล้ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ รวมทั้งใกล้กับแหล่งคมนาคม ทำให้ทำเลดังกล่าวตรงกันแนวคิดของการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ใหม่

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ทางธนาคารได้มีการขายที่ดินดังกล่าวให้แก่บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ปฯไปแล้ว โดยมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ประมาณ 17 ไร่

" จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่า ตลาดในโซนรัชโยธิน ลาดพร้าวยังมีกำลังซื้ออยู่ และซัปพลายส่วนใหญ่ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวจะเน้นลูกค้าระดับกลาง แต่คอนโดมิเนียมเกรดเอยังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่ จึงคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าได้ และระดับราคาที่ขายแม้จะสูงกว่าคู่แข่งในทำเลเดียวกัน แต่โครงการมีการดีไซน์ให้ทุกๆห้องได้รับลมและแสงแดด แตกต่างกับโครงการอื่นจะเป็นห้องชุดขนาดพื้นที่ 200 ตารางเมตรถึงจะได้รับ "นายสุริยนกล่าว

ในส่วนโครงการที่ 2 จะเป็นทำเลในสุขุมวิท 23เป็นอาคารสูง 22 ชั้น จำนวน 220 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาขายประมาณ 85,000-100,000 บาทต่อตร.ม. ประเภทของห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 48-50 ตร.ม.และห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 75 ตร.ม.จะมีจำนวนรวมยูนิตมากประมาณ 216 ยูนิต ที่เหลือจะเป็นเพนต์เฮาส์ 175-226 ตร.ม. โดยขณะนี้มีลูกค้าเก่าได้เข้ามาจองซื้อจากการขายPre-Sale ไปแล้ว 20% ของมูลค่าโครงการ ทั้งนี้คาดว่า2โครงการใหม่จะปิดการขายได้หมดในปี 2550

นายสุริยนกล่าวว่า สำหรับโครงการที่เปิดไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้การทำยอดขายและก่อสร้างมีความก้าวหน้าไปมาก โดยโครงการฟูลเลอตัน สุขุมวิท ความคืบหน้าการขายห้องชุด 92% มูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท ,โครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยา ริเวอร์ ทาวเวอร์ เอ และส่วนของทาวเวอร์บี การขายห้องชุดมีความคืบหน้าไปแล้ว 46 % และ 13% ตามลำดับ จากมูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาทและ 1,800 ล้านบาทตามลำดับ และโครงการแมนฮัตตัน ชิดลม มียอดขายไปแล้ว 57% ของมูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท

สำหรับฐานะของบริษัทตามที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย. 49 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 2,389.262 ล้านบาท ขณะที่ในงวดครึ่งแรกของปี 49 บริษัทฯมีรายได้จากการขายหน่วยในโครงการอาคารชุด 1,017.275 ล้านบาท (รายได้อื่นประมาณ 5 ล้านบาท) มีค่าใช้จ่าย 741.251 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ 281.06 ล้านบาท กำไรสุทธิเป็นบวก 182.07 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.36 บาท

นายสุริยนกล่าวถึงแผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ทางบริษัทยังคงเดินหน้าที่จะเข้าไประดมทุน โดยรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าไปซื้อขาย และขณะนี้ยังไม่ได้รีบเร่งที่จะเข้าไป เนื่องจากบริษัทฯยังมีแหล่งเงิน กระแสเงิน และรายได้จากการขายห้องชุดมาบริหารจัดการได้ดี อย่างไรก็ตาม ตามแผนของการลงทุนและพัฒนาโครงการจากนี้ไปถึงหลังการเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯยังคงยึดแนวทางของการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อขาย ส่วนแนวทางที่จะเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจไปสู่ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม หรืออย่างอื่นนั้น คงยังไม่เกิดขึ้นในระยะข้างหน้า แต่ถือว่าเป็นช่องทางในการบริหารความเสี่ยงได้ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น