xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเบต” เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ เพื่อสร้างความโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดยทั่วไปสำหรับบริษัทมหาชน การสื่อข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้น การเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นซักถาม การให้ความสำคัญต่อการตอบคำถามผู้ถือหุ้นอย่างสัตย์ซื่อ โปร่งใส ตรงไปตรงมา มีความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ในบ้านเรา ขณะที่มีผู้ตั้งคำถามในฐานะ “ประชาชนไทย” ต่อผู้นำ ด้วยเจตนาขอรับฟังคำชี้แจง กลับมีกระบวนการทำให้เกิดความเข้าใจผิด ว่าเป็น “พวกผิดหวัง เพราะอยากได้ประโยชน์” “พวกต้องการมีเสียงมากกว่าคนอื่น” “พวกดูถูกเพื่อนพี่น้องชาวไทยอีกบางส่วน”

หลายครั้ง มีการตอบคำถาม ในมาตรฐานใหม่ เช่น กรณีขายหุ้นชินคอร์ป มีคำถามว่า “ในการโอนหุ้นราคาต่ำกว่าราคาตลาด” เคยมีมาตรฐานว่าต้องประเมินภาษีของผู้รับโอนที่ราคาถูก กลับตอบเรื่องนี้ว่า “การขายหุ้นในตลาดฯ” ได้รับการยกเว้นภาษี ถามว่า “มีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มครอบครัวหรือไม่ ?” กลับตอบว่า หุ้นธนาคารก็ขึ้น (ทั้งที่เป็นเพราะลูกหนี้ด้อยคุณภาพได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง) หุ้น ปตท. ก็ขึ้น (ทั้งที่เป็นเรื่องราคาน้ำมันและราคาปิโตรเคมีขึ้น) หุ้นปูนซิเมนต์ไทยก็ขึ้น (ทั้งที่เป็นเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างและปิโตรเคมีขึ้น) แต่ประชาชนยังรอคำตอบด้วยความเคารพว่า มีการลดค่าส่วนแบ่งสัมปทานมือถือ และทีวีหรือไม่ ? มีการเพิ่มประโยชน์กิจการทีวีหรือไม่ ? มีการลดธุรกิจการบินไทยเอื้อธุรกิจสายการบินของครอบครัวหรือไม่ ? มีการให้ประโยชน์ภาษีบีโอไอกิจการซึ่งแทบไม่ได้จ้างงานในประเทศและแทบไม่ได้ใช้ของในประเทศหรือไม่ ?

สรุปปัญหาคือ มีความตั้งใจและมีการปฏิบัติมาโดยตลอดในการ “ขอพูดคนเดียว” ทำให้เกิดปัญหา การกล่าวหาใส่ร้ายผู้ซักถาม โดยไม่ให้โอกาสชี้แจง และมีการบิดเบือนคำถาม ตอบในสิ่งที่ไม่ได้ถาม และสิ่งที่ถามก็ไม่ได้ตอบ นอกจากนั้น เพื่อความเป็นธรรมกับท่าน ประชาชนก็อยากให้โอกาสท่านผู้นำชี้แจงคำถาม และข้อกล่าวหาเพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชนที่รอคอยได้อย่างตรงประเด็นเช่นกัน

ผมเห็นในประเทศที่มีประชาธิปไตยก้าวหน้า ผู้นำย่อมพร้อมที่จะตอบข้อซักถามโดยสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เกิดความสบายใจ และความวางใจ และจำได้ว่า เวลามีรายการดีเบต ประชาชนจะเฝ้าติดตามอย่างกว้างขวาง ถือเป็นสิทธิของประชาชนที่จะได้เห็นผู้อาสาจะมาเป็นผู้นำ มาถกกันในประเด็นต่างๆ ด้วยสติปัญญา ด้วยความสัตย์ซื่อเปิดเผย พร้อมตอบคำโต้แย้งอย่างโปร่งใส ผมเองเชื่ออย่างที่ท่านผู้นำว่า “เดี๋ยวจะหลงความเก่งโวหาร” “การมีโวหารดี ก็ไม่ได้แปลว่าทำงานดี”

แต่การจะพิสูจน์ว่า “เก่งแต่โวหาร” หรือไม่ การดีเบตจะช่วยพิสูจน์ เพราะ ผมเชื่อว่า “โวหาร” จะเก่งเพียงไร จะพ่ายแพ้ต่อ “สัจจะ” และ “ความจริง” คนที่กลัวดีเบต ไม่น่าจะเป็นคนกลัว “โวหาร” แต่กลัว “ความจริง” มากกว่า

ผมชอบหลักการขององค์กรแห่งการเรียนรู้ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาประชาธิปไตย ทำได้ดีโดยการให้ปัญญาและความรู้แก่ประชาชน ด้วยการสื่อความกันอย่างโปร่งใส มิใช่การที่นักเลือกตั้งจะใช้กติกาภายนอกของประชาธิปไตย หวังแต่เอาชนะเพื่อให้ได้อำนาจ โดยไม่ใส่ใจต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของประชาชน เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

คงจะดีไม่น้อยที่เราจะมีการดีเบตในหลายๆยก เช่น

(1)ด้านเศรษฐกิจ มีโครงการสำคัญอะไรบ้าง จะนำประเทศให้แข่งขันได้อย่างไร ? การใช้เงิน การสร้างหนี้ครัวเรือน หนี้ซ่อนเร้น เป็นอย่างไร ? เห็นท่านผู้นำแสดงความพร้อมในการหาเงิน การขายรัฐวิสาหกิจสภาพผูกขาดอย่าง ปตท. ได้เงิน 28,000 ล้านบาท เพียงครั้งเดียวเมื่อหลายปีก่อน ทำให้รัฐสูญเสียส่วนแบ่งรายได้ 24,000-30,000 ล้านบาท “ต่อปี” ในช่วงนี้และต่อๆ ไป หรือการซ่อนหนี้วายุภักษ์ หนี้กองทุนศูนย์ข้าราชการ กองทุนน้ำมัน รวมประมาณ 2 แสนล้านบาท ตลอดจนการก่อหนี้ตั๋วเงินคลังประมาณ 2 แสนล้านบาทในช่วงรัฐบาลท่าน ถือเป็นการหาเงิน หรือการสร้างภาระสำหรับคนรุ่นหลัง? แล้วเมื่อมาเป็นรัฐบาล จะหาเงินกันอย่างนี้อีกไหม ? จะปลดภาระอย่างไร ?

(2)ด้านสังคม จะดูแลแก้ปัญหาความยากจนอย่างไร ? ปัญหาความแตกแยกอย่างไร ? ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้อย่างไร ? การปราบยาเสพติดทำอย่างไร ? กำจัดคน หรือกำจัดขบวนการค้ายาเสพติด ? หนี้ภาคประชาชนจะให้เพิ่มหรือลดอย่างไร ?

(3)ด้านการเมืองและตัวบุคคล นโยบายในการกำจัดทุจริตทำอย่างไร ? เสรีภาพสื่อมวลชนจะเป็นอย่างไร ? ทำอย่างไรจึงจะมีการเคารพเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญและกฎหมาย ? ปฏิรูปการเมืองอย่างไรไม่ให้คนมาใช้อำนาจหาประโยชน์ส่วนตน ? มีปัญหาสงสัยความซื่อสัตย์ของผู้สมัครอย่างไร ? เปิดเผยหรือซุกซ่อนสินทรัพย์อย่างไร ? มีปัญหาเรื่องความสามารถอย่างไร ? มาร์ค ม. 7 จริงหรือไม่ ?

คงจะมีสาระน่าสนใจอย่างยิ่ง เพียงแต่ผมเชื่อว่า คนที่กลัว “ดีเบต” น่าจะไม่ใช่เพราะกลัว “โวหาร” แต่เพราะกลัว “ความจริง” มากกว่าครับ เมื่อโปร่งใสกันมากขึ้น ประเทศไทยก็จะเจริญรุ่งเรืองยั่งยืนครับ

มนตรี ศรไพศาล (montree4life@yahoo.com)
ฝ่ายวิชาการ ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย

กำลังโหลดความคิดเห็น