ผมปลื้มใจเสมอที่เห็นปวงชนชาวไทยได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ขอให้เราได้ร่วมแรงร่วมใจตั้งอธิษฐานจิตให้พระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญให้ปวงชนชาวไทยไปอีกนานแสนนาน
พระองค์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย ในพระราชกฤษฎีกาให้มีการจัดการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว เนื่องจาก การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นการเลือกตั้งที่ไม่เที่ยงธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยได้มีระบุเหตุผลเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ประเทศชาติกลับสู่ความสงบเรียบร้อยโดยเร็ว และให้มีการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม อย่างแท้จริง
เป็นพระมหากรุณาเป็นล้นพ้น และได้นำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่หลายๆคนอาจมีความรู้สึกต่างๆกันไป ผมมีหลักว่า หากมีสิ่งใดที่เรายังไม่เข้าใจ ให้คิดและให้มองไปทางสูงและทางสว่างอยู่เสมอ ผมได้รับแรงบันดาลใจกับเรื่องนี้ ดังต่อไปนี้
(1)เป็นชัยชนะของความรักเมตตา หลังจากที่ผู้นำของเราได้กล่าวพาดพิงว่า “บุคคลซึ่งดูเหมือนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เข้ามาวุ่นวายองค์กรที่มีในระบบรัฐธรรมนูญมากไป มีการไม่เคารพกติกา” ในขณะที่ท่านไม่ได้พูดให้ชัดว่าท่านหมายถึงใคร หลายๆคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และหลายคนที่มีความศรัทธาต่อประธานองคมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เกิดความอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง บ้างเจ็บปวดใจ โกรธ และรู้สึกไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง บ้างก็กังวลว่าความแตกแยกจะบานปลาย ไม่สบายใจที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อผู้มีบารมี
แต่เรากลับได้เห็นความรักความเมตตา การให้อโหสิ ความรักที่อดทนนาน ความถ่อม ไม่ถือพระองค์ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงยึดความสงบ และสันติสุขของพสกนิกรของพระองค์เป็นที่ตั้งจริงๆ พระองค์ทรงธรรมสูงส่งจริงๆ สมควรที่คนไทยทุกหมู่เหล่า ทุกระดับพึงยึดถือเป็นแบบอย่างชีวิตอย่างแท้จริง
และท่านประธานองคมนตรี ก็ยังรักษาความใจเย็น ไม่ตอบโต้ เพียงแต่ให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในหลักการที่ข้าราชการเป็นดังม้าของประชาชน ของแผ่นดิน ของพระเจ้าอยู่หัว ให้ทุกคนต้องทำหน้าที่ด้วยความชอบธรรม เพื่อส่วนรวม
(2)พระองค์ทรงยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย คนไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรมเป็นพระประมุข เมื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทรงสละราชสมบัติมอบให้แก่ประชาชนแล้ว พระองค์ก็ทรงมอบให้จริงๆ ประชาชนพึงยึดมั่นไว้ให้ดี ดูแลกันเองให้ได้ เพื่อให้ได้ผู้นำที่ดีเป็นผู้ปกครองบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยไม่มุ่งประโยชน์ส่วนตน
(3)ความสงบเรียบร้อยของชาติเป็นหัวใจสำคัญ การเลือกตั้งจึงต้องเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม อย่างแท้จริง ประชาธิปไตยเคารพความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย จึงควรมีกติกาที่ดี และในยุคที่หลักศรีธนญชัยครองเมือง ก็ต้องบอกด้วยว่า และควรรักษากติกาด้วยความชอบธรรม คือเจตนาของกติกาด้วย
สังคมที่มีความเสมอภาค ไม่เบียดเบียนกัน ไม่เอาเปรียบกัน จึงจะมีความสงบเรียบร้อยอย่างแท้จริง ประชาธิปไตยไม่ใช่การแบ่งพวก และกลุ่มที่มีพวกมากชนะ แล้วจะใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบรัฐหรือประชาชนบางส่วน หรือทั้งหมดเพื่อประโยชน์ส่วนตนอย่างไรก็ได้ แต่ประชาธิปไตยคือการให้เสียงส่วนใหญ่เลือกผู้นำ โดยเชื่อว่าจะเป็นผู้นำที่ชอบธรรมต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง จึงต้องมีการเลือกตั้งที่เป็นธรรม และมีระบบการตรวจสอบที่เที่ยงธรรม
(4)ผมอยากจะเชื่อในส่วนดีของคนเสมอ ประชาธิปไตยเคารพความเห็นที่หลากหลาย เข้าใจว่าคนอาจได้รับข้อมูลไม่เท่ากัน คนไทยเราต้อง “กล้า” คุยแลกเปลี่ยนกัน และรับฟังกันทุกฝ่าย เราต้องไม่เชื่อว่า การพูดข้อมูลที่ต่างกันแปลว่าคนละพวกกัน รักใครแล้วต้องไม่รับฟังความเห็นอื่นเลย หรือฟังแล้วจะโกรธ ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุดเมื่อรับฟังข้อมูลให้รอบด้าน แล้วจำแนกความถูกผิด ตามความจริง เหตุผล และความชอบธรรม
ผมอยากจะเชื่อว่า ผู้บริหารบ้านเมืองดีพอที่จะเห็นผู้ที่ความเห็นต่าง ก็มีเจตนาดี เมื่อมีคำถามที่สงสัยผู้นำ แทนที่จะคิดแง่ร้าย กล่าวหาว่าเป็นพวกหาประโยชน์ แต่ผู้นำจะหนักแน่นในคุณธรรม ตอบคำถามให้กระจ่าง เมื่อผู้บริหารบ้านเมืองมุ่งความบริสุทธิ์ยุติธรรม บ้านเมืองจะเจริญยั่งยืนครับ