กลุ่มเตชะอุบลผู้บริหารใหม่"บล.แอ๊ดคินซัน"ร่อนหนังสือเวียนไป 18 สาขาที่ถูกปิดหรือถูกนำไปควบรวมกับสาขาที่ใกล้เคียง เริ่มดำเนินการภายใน 15 -31 ส.ค.นี้ในลักษณะทยอยปิด ลอยแพนักงานกว่า 100 ชีวิต ระบุสาขาบางแห่งใช้เงินทุนตกแต่งเกือบ 10 ล้านบาท ขณะบางแห่งเป็นสาขาที่เพิ่งเปิดใหม่ และเป็นสาขาที่ยังขาดทุนทำให้เป็นภาระแก่บริษัท
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า วานนี้(18 ก.ค.)บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน)หรือ ASL ได้มีหนังสือเวียนไปถึง18 สาขาที่จะถูกยุบหรือถูกนำไปควบรวมกิจการกับสาขาที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งประกอบด้วยสาขาบริการค้าหลักทรัพย์ที่รัชดาภิเษก,สาธร,พระราม 4,สิวดล,ฉะเชิงเทรา,แม่สายเชียงราย,จุติอนุสรณ์ หาดใหญ่,เกาะสมุย,กระบี่,ป่าตอง ภูเก็ต,สกลนคร,ยโสธร,นครบาล อุบลราชธานี,ประชาสโมสร ขอนแก่น,อโศก,หล่มสัก เพรชบูรณ์,เจริญเมือง เชียงใหม่และงามวงศ์วาน นนทบุรี
ทั้งนี้บล.แอ๊ดคินซันได้กำหนดว่าจะทยอยปิดสาขาแต่ละแห่ง โดยกำหนดช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 15-31 สิงหาคมนี้ ดังนั้นผู้จัดการสาขาและเจ้าหน้าที่ของสาขาแต่ละแห่งจะต้องดำเนินการแจ้งให้กับลูกค้าได้รับทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาในการเตรียมพร้อมที่จะโอนพอร์ตการซื้อขายไปยังสาขาแห่งอื่น หรือย้ายไปยังสำนักงานงานใหญ่ และบล.แอ๊ดคินซันจะต้องแจ้งให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา 15 วัน
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สาขาบริการค้าหลักทรัพย์ที่ดำเนินการปิดนั้น ส่วนใหญ่เป็นสาขาที่ไม่สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทได้และยังเป็นภาระแก่บริษัทอีก โดยเฉพาะมีบางสาขาที่ใช้เงินตกแต่งเป็นจำนวนมาก อยู่ในระดับประมาณเกือบ 5-10 ล้านบาท รวมถึงบางสาขาก็เป็นสาขาที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นาน ซึ่งสาขาเหล่านี้จะประกอบด้วยสาขาที่พระราม4,ฉะเชิงเทรา,กระบี่,สมุย,ป่าตอง ภูเก็ต,ขอนแก่นและยโสธรเป็นต้น ดังนั้นโอกาสที่จะถึงจุดคุ้มทุนจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นโดยรวมยังไม่เเอื้ออำนวยเช่นในปัจจุบันนี้
สำหรับในส่วนของพนักงานที่อยู่ประจำสาขาทั้ง 18 แห่งซึ่งคาดว่ามีจำนวนรวมทั้งหมดประมาณกว่า 100 คนนั้น บริษัทได้กำหนดว่าสาขาใดที่ถูกนำไปควบรวมก็ให้ย้ายไปรวมกับสาขานั้น แต่ก็เกรงว่าจะมีปัญหาในระดับผู้จัดการสาขาว่าใครจะเป็นผู้มีอำนาจดูแลส่วนสาขาที่ถูกยุบก็จะให้พนักงานย้ายไปอยู่กับสำนักงานใหญ่ ซึ่งก็เกรงว่าจะมีปัญหาเช่นกันถ้าพนักงานรายใดไม่ต้องการย้ายไปอยู่กับสำนักงานใหญ่จะดำเนินการอย่างใด ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าบล.แอ๊ดคินซันจะยอมให้ย้ายไปอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์แห่งอื่นหรือไม่เพราะถ้าไม่ยอมก็จะทำให้ที่ใหม่ไม่สามารถรับเข้าทำงานได้เช่นกัน ดังนั้นจึงยังไม่รู้ว่าพนักงานดังกล่าวจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า การที่บล.แอ๊ดคินซันปิดสาขา เนื่องจากกลุ่มเตชะอุบล ซึ่งเป็นผู้บริหารกลุ่มใหม่ ต้องการที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลง และจะช่วยทำให้บริษัทสามารถมีกำไรได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ภายในไตรมาส 4 นี้ ดังนั้นแนวทางดังกล่าวจึงถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่เชื่อว่าจะยังไม่เห็นผลในทันที คงจะต้องใช้ระยะเวลาบ้าง
นอกจากนี้จะต้องจับตามองต่อไปว่าหลังจากที่บล.แอ๊ดคินซันได้ยุบสาขาทั้ง 18 แห่งแล้วจะส่งผลกระทบต่อมาร์เกตแชร์ของบริษัทมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะจะมีเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งย้ายไปอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์แห่งอื่นหรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้บล.แอ๊ดคินซันมีมาร์เกตแชร์ประมา 2% และได้ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้หวังจะเพิ่มมาร์เกตแชร์ให้อยู่ในระดับ 3% โดยมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันฐานลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายย่อย
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า วานนี้(18 ก.ค.)บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน)หรือ ASL ได้มีหนังสือเวียนไปถึง18 สาขาที่จะถูกยุบหรือถูกนำไปควบรวมกิจการกับสาขาที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งประกอบด้วยสาขาบริการค้าหลักทรัพย์ที่รัชดาภิเษก,สาธร,พระราม 4,สิวดล,ฉะเชิงเทรา,แม่สายเชียงราย,จุติอนุสรณ์ หาดใหญ่,เกาะสมุย,กระบี่,ป่าตอง ภูเก็ต,สกลนคร,ยโสธร,นครบาล อุบลราชธานี,ประชาสโมสร ขอนแก่น,อโศก,หล่มสัก เพรชบูรณ์,เจริญเมือง เชียงใหม่และงามวงศ์วาน นนทบุรี
ทั้งนี้บล.แอ๊ดคินซันได้กำหนดว่าจะทยอยปิดสาขาแต่ละแห่ง โดยกำหนดช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 15-31 สิงหาคมนี้ ดังนั้นผู้จัดการสาขาและเจ้าหน้าที่ของสาขาแต่ละแห่งจะต้องดำเนินการแจ้งให้กับลูกค้าได้รับทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาในการเตรียมพร้อมที่จะโอนพอร์ตการซื้อขายไปยังสาขาแห่งอื่น หรือย้ายไปยังสำนักงานงานใหญ่ และบล.แอ๊ดคินซันจะต้องแจ้งให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา 15 วัน
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สาขาบริการค้าหลักทรัพย์ที่ดำเนินการปิดนั้น ส่วนใหญ่เป็นสาขาที่ไม่สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทได้และยังเป็นภาระแก่บริษัทอีก โดยเฉพาะมีบางสาขาที่ใช้เงินตกแต่งเป็นจำนวนมาก อยู่ในระดับประมาณเกือบ 5-10 ล้านบาท รวมถึงบางสาขาก็เป็นสาขาที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นาน ซึ่งสาขาเหล่านี้จะประกอบด้วยสาขาที่พระราม4,ฉะเชิงเทรา,กระบี่,สมุย,ป่าตอง ภูเก็ต,ขอนแก่นและยโสธรเป็นต้น ดังนั้นโอกาสที่จะถึงจุดคุ้มทุนจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นโดยรวมยังไม่เเอื้ออำนวยเช่นในปัจจุบันนี้
สำหรับในส่วนของพนักงานที่อยู่ประจำสาขาทั้ง 18 แห่งซึ่งคาดว่ามีจำนวนรวมทั้งหมดประมาณกว่า 100 คนนั้น บริษัทได้กำหนดว่าสาขาใดที่ถูกนำไปควบรวมก็ให้ย้ายไปรวมกับสาขานั้น แต่ก็เกรงว่าจะมีปัญหาในระดับผู้จัดการสาขาว่าใครจะเป็นผู้มีอำนาจดูแลส่วนสาขาที่ถูกยุบก็จะให้พนักงานย้ายไปอยู่กับสำนักงานใหญ่ ซึ่งก็เกรงว่าจะมีปัญหาเช่นกันถ้าพนักงานรายใดไม่ต้องการย้ายไปอยู่กับสำนักงานใหญ่จะดำเนินการอย่างใด ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าบล.แอ๊ดคินซันจะยอมให้ย้ายไปอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์แห่งอื่นหรือไม่เพราะถ้าไม่ยอมก็จะทำให้ที่ใหม่ไม่สามารถรับเข้าทำงานได้เช่นกัน ดังนั้นจึงยังไม่รู้ว่าพนักงานดังกล่าวจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า การที่บล.แอ๊ดคินซันปิดสาขา เนื่องจากกลุ่มเตชะอุบล ซึ่งเป็นผู้บริหารกลุ่มใหม่ ต้องการที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลง และจะช่วยทำให้บริษัทสามารถมีกำไรได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ภายในไตรมาส 4 นี้ ดังนั้นแนวทางดังกล่าวจึงถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่เชื่อว่าจะยังไม่เห็นผลในทันที คงจะต้องใช้ระยะเวลาบ้าง
นอกจากนี้จะต้องจับตามองต่อไปว่าหลังจากที่บล.แอ๊ดคินซันได้ยุบสาขาทั้ง 18 แห่งแล้วจะส่งผลกระทบต่อมาร์เกตแชร์ของบริษัทมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะจะมีเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งย้ายไปอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์แห่งอื่นหรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้บล.แอ๊ดคินซันมีมาร์เกตแชร์ประมา 2% และได้ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้หวังจะเพิ่มมาร์เกตแชร์ให้อยู่ในระดับ 3% โดยมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันฐานลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายย่อย