ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปรับลดเป้าหมายบริษัทจดทะเบียนใหม่ปีนี้ลงจากเดิม 40 บริษัท เหลือ 30 บริษัท หลังสภาพตลาดหุ้นและสถานการณ์การเมืองในประเทศไม่เอื้ออำนวย ส่งผลบริษัทหลายแห่งชะลอแผนการยื่นจดทะเบียน ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้ตลาดหุ้นไทยทรุดลงมาก เพราะความกังวลของนักลงทุนต่อทิศทางตลาดในเอเชีย
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลท. และประธานที่ปรึกษา ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปรับลดเป้าหมายบริษัทที่จะยื่นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปีนี้ลงเหลือ 30 บริษัท จากเดิมตั้งไว้ที่ 40 บริษัท เนื่องจากบรรยากาศการลงทุน และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไม่เอื้ออำนวย ทำให้บริษัทหลายแห่งชะลอแผนการยื่นจดทะเบียน หรือการขายหุ้นออกไป เพื่อรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม
“ที่ผ่านมา ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เดินสายพูดคุยกับบริษัททุกแห่งที่มีแนวโน้มจะเข้าจดทะเบียนในปีนี้ ว่าจะยังเข้าจดทะเบียนหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น คงต้องปรับลดเป้าหมายลงประมาณร้อยละ 30 จากเดิม 40 บริษัท เหลือ 30 บริษัท ที่จะสามารถยื่นเรื่องขอเข้าจดทะเบียนได้ ส่วนจะเข้าจดทะเบียนได้ทันในปีนี้ทั้งหมดหรือไม่ ต้องรอดูต่อไป” นายวิเชฐ กล่าว
นายวิเชฐ กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยและราคาน้ำมัน ถือเป็นปัจจัยที่ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ คาดการณ์ไว้อยู่แล้วก่อนที่จะกำหนดเป้าหมาย 40 บริษัท ออกมา แต่ปัจจัยที่ไม่ได้คาดไว้คือ เรื่องการเมือง ซึ่งยืดเยื้อออกไปมาก ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้าจดทะเบียนของบริษัทบางแห่ง เพราะหากการเมืองมีเสถียรภาพ
รัฐบาลอาจมีโครงการใหม่ ๆ ออกมาที่เป็นประโยชน์ และเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทบางแห่งได้ นอกจากนี้ ภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้การกำหนดราคาขายหุ้นทำได้ไม่สูงนัก บริษัทบางแห่งจึงเลื่อนแผนออกไปก่อน
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง รองผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า เกิดจากแรงขายด้วยความตื่นตระหนกของนักลงทุนที่มีต่อทิศทางของตลาดหุ้นเอเชีย ไม่ได้เกิดจากมูลค่าหรือปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้น และบริษัทจดทะเบียนของไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยหากติดตามบทวิเคราะห์ต่าง ๆ แล้ว จะพบว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ได้กระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนมากนัก ซึ่งผลจากเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนรอบ ๆ เอเชีย รวมทั้งมีปัจจัยด้านการเมืองในประเทศเข้ามากระทบ ทำให้ตลาดหุ้นของไทยปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่น แต่เชื่อว่าจะปรับลงอีกไม่มากนัก เพราะที่ผ่านมา ได้ลดลงมามากแล้ว
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลท. และประธานที่ปรึกษา ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปรับลดเป้าหมายบริษัทที่จะยื่นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปีนี้ลงเหลือ 30 บริษัท จากเดิมตั้งไว้ที่ 40 บริษัท เนื่องจากบรรยากาศการลงทุน และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไม่เอื้ออำนวย ทำให้บริษัทหลายแห่งชะลอแผนการยื่นจดทะเบียน หรือการขายหุ้นออกไป เพื่อรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม
“ที่ผ่านมา ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เดินสายพูดคุยกับบริษัททุกแห่งที่มีแนวโน้มจะเข้าจดทะเบียนในปีนี้ ว่าจะยังเข้าจดทะเบียนหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น คงต้องปรับลดเป้าหมายลงประมาณร้อยละ 30 จากเดิม 40 บริษัท เหลือ 30 บริษัท ที่จะสามารถยื่นเรื่องขอเข้าจดทะเบียนได้ ส่วนจะเข้าจดทะเบียนได้ทันในปีนี้ทั้งหมดหรือไม่ ต้องรอดูต่อไป” นายวิเชฐ กล่าว
นายวิเชฐ กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยและราคาน้ำมัน ถือเป็นปัจจัยที่ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ คาดการณ์ไว้อยู่แล้วก่อนที่จะกำหนดเป้าหมาย 40 บริษัท ออกมา แต่ปัจจัยที่ไม่ได้คาดไว้คือ เรื่องการเมือง ซึ่งยืดเยื้อออกไปมาก ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้าจดทะเบียนของบริษัทบางแห่ง เพราะหากการเมืองมีเสถียรภาพ
รัฐบาลอาจมีโครงการใหม่ ๆ ออกมาที่เป็นประโยชน์ และเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทบางแห่งได้ นอกจากนี้ ภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้การกำหนดราคาขายหุ้นทำได้ไม่สูงนัก บริษัทบางแห่งจึงเลื่อนแผนออกไปก่อน
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง รองผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า เกิดจากแรงขายด้วยความตื่นตระหนกของนักลงทุนที่มีต่อทิศทางของตลาดหุ้นเอเชีย ไม่ได้เกิดจากมูลค่าหรือปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้น และบริษัทจดทะเบียนของไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยหากติดตามบทวิเคราะห์ต่าง ๆ แล้ว จะพบว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ได้กระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนมากนัก ซึ่งผลจากเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนรอบ ๆ เอเชีย รวมทั้งมีปัจจัยด้านการเมืองในประเทศเข้ามากระทบ ทำให้ตลาดหุ้นของไทยปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่น แต่เชื่อว่าจะปรับลงอีกไม่มากนัก เพราะที่ผ่านมา ได้ลดลงมามากแล้ว


