ก.ล.ต.สั่ง บล.ทีเอสอีซีแก้ไขบริหารความเสี่ยงที่อยู่ในระดับสูง พบมาตรการในการป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลภายในบริษัทไม่รัดกุมเพียงพอ-ไม่ได้บันทึกและจักเก็บหลักฐานการให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ที่ให้คำแนะนำลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ สั่งปรับเงิน 149,400 บาท เหตุไม่สามารถดำรง NCR ได้ตามเกณฑ์
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งถึงผลการตรวจสอบการบริหารความเสี่ยงของบริษัทหลักทรัพย์ทีเอสอีซีนั้นอยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงสูง และได้สั่งการให้แก้ไขแล้วและบริษัทได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพบว่าบริษัทคำนวณเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ(NC)ที่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจประเภทการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในส่วนที่ค้างชำระไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้บริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีจากเดิมที่เคยบันทึกรายการดังกล่าวเป็นหนี้สินเป็นการไม่รับรู้รายการดังกล่าวมีผลให้การบันทึกบัญชีและการคำนวณ NC ในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้สินรวมไม่ถูกต้อง และจากการที่บริษัทคำนวณ NC ไม่ถูกต้องเป็นผลให้บริษัทไม่สามารถดำรง NCR ได้ตามเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนดไว้ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยมาตรา 97
สำนักงานก.ล.ต.ได้สั่งการให้บริษัทตระหนักถึงความสำคัญกับการบันทึกบัญชีและการคำนวณ NC อย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทจะต้องปรับปรุงระบบงานรวมทั้งหารือผู้สอบบัญชีหากมีข้อสังสัยหรือมีการเปลี่ยนแปลงการบันทึกบัญชีอย่างมีสาระสำคัญ และคณะกรรมการเปรียบเทียบได้ทำการปรับเงินบริษัทเนื่องจากบริษัทไม่สามารถดำรง NCR ได้ตามเกณฑ์เป็นจำนวนเงิน 149,400 บาท
อย่างไรก็ตามบริษัทได้แจ้งว่าได้ดำเนินการแก้ไขทันที โดยได้คำนวณและบันทึก NCR ให้ถูกต้อง,ปรับปรุงปฏิบัติงาน โดยในกรณีที่บริษัทมีข้อสงสัยจะจัดตั้งคณะทำงานในการพิจารณาทันที และเพิ่มมาตรการในการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับ NC และกำหนดเป็นระเบียบในการติดตามและรายการ NCR เป็นประจำวันบล.ทีเอสอีซีได้พิจารณาวงเงินเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าใหม่ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงสั่งการให้บริษัทพิจารณาอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจะต้องบันทึกเหตุผลของการอนุมัติวงเงินให้ลูกค้าด้วย
นอกจากนี้จะต้องทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาวงเงินของบริษัทเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงาน ซึ่งบริษัทได้แก้ไข โดยกำชับและสั่งการให้หน่วยงานบริหารความเสี่ยงปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทอย่างเคร่งครัด และได้มีการทบทวนวเงินของลูกค้ารายดังกล่าวและเสนอรายงานให้ผู้บริหารทราบแล้ว
นอกจากนี้บริษัทมิได้บันทึกและจัดเก็บหลักฐานการให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ที่ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งบริษัทได้กำชับและสั่งการให้นักวิเคราะห์ทุกคนปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทอย่างเคร่งครัด และห้ามมิให้นักวิเคราะห์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทให้คำแนะนำแก่ลูกค้าทางโทรศัพท์มาตรการในการป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลภายในของบริษัทไม่รัดกุมเพียงพอ โดยพบว่าหลักเกณฑ์การห้ามพนักงานที่เกี่ยวข้องซื้อขายที่อยู่ใน watch list และrestricled list ไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้บริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการวาณิชธนกิจที่ทำหน้าที่อนุมัติการทำธุรกรรมดังกล่าว รวมทั้งการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและรับจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
ดังนั้นสำนักงานก.ล.ต.จึงได้สั่งการให้บริษัทกำหนดมาตรการในการป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลภายในของบริษัทให้มีความรัดกุม ซึ่งบริษัทได้แจ้งว่าได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวโดยกำหนดให้ครอบคลุมถึงบุคคลใดๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออาจได้ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับทำธุรกรรมของฝ่ายวาณิชธนกิจด้วยบล.ทีเอสอีซีมีระบบการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ายังไม่รัดกุมเพียงพอ โดยพบว่าฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ของบริษัททการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของลูกค้าโดยที่ลูกค้ามิได้ลงนามในใบคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล
รวมทั้งมิได้ทำการสอบยันรายการดังกล่าวกับลูกค้าตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการปฏิบัติงานของบริษัท โดยบริษัทได้ดำเนินการแก้ไข โดยกำชับเจ้าหน้าที่การตลาดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานทะเบียนปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการรับฝากถอนทรัพย์สินของลูกค้า โดยห้ามมิให้เจ้าหน้าที่การตลาดดำเนินการแทนลูกค้า และเจ้าหน้าที่การตลาดต้องแนะนำให้ลูกค้าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานทะเบียนด้วยตนเอง รวมทั้งกำชับให้ดำเนินการให้ลูกค้าลงนามในใบคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลทุกครั้ง
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งถึงผลการตรวจสอบการบริหารความเสี่ยงของบริษัทหลักทรัพย์ทีเอสอีซีนั้นอยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงสูง และได้สั่งการให้แก้ไขแล้วและบริษัทได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพบว่าบริษัทคำนวณเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ(NC)ที่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจประเภทการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในส่วนที่ค้างชำระไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้บริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีจากเดิมที่เคยบันทึกรายการดังกล่าวเป็นหนี้สินเป็นการไม่รับรู้รายการดังกล่าวมีผลให้การบันทึกบัญชีและการคำนวณ NC ในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้สินรวมไม่ถูกต้อง และจากการที่บริษัทคำนวณ NC ไม่ถูกต้องเป็นผลให้บริษัทไม่สามารถดำรง NCR ได้ตามเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนดไว้ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยมาตรา 97
สำนักงานก.ล.ต.ได้สั่งการให้บริษัทตระหนักถึงความสำคัญกับการบันทึกบัญชีและการคำนวณ NC อย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทจะต้องปรับปรุงระบบงานรวมทั้งหารือผู้สอบบัญชีหากมีข้อสังสัยหรือมีการเปลี่ยนแปลงการบันทึกบัญชีอย่างมีสาระสำคัญ และคณะกรรมการเปรียบเทียบได้ทำการปรับเงินบริษัทเนื่องจากบริษัทไม่สามารถดำรง NCR ได้ตามเกณฑ์เป็นจำนวนเงิน 149,400 บาท
อย่างไรก็ตามบริษัทได้แจ้งว่าได้ดำเนินการแก้ไขทันที โดยได้คำนวณและบันทึก NCR ให้ถูกต้อง,ปรับปรุงปฏิบัติงาน โดยในกรณีที่บริษัทมีข้อสงสัยจะจัดตั้งคณะทำงานในการพิจารณาทันที และเพิ่มมาตรการในการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับ NC และกำหนดเป็นระเบียบในการติดตามและรายการ NCR เป็นประจำวันบล.ทีเอสอีซีได้พิจารณาวงเงินเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าใหม่ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงสั่งการให้บริษัทพิจารณาอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจะต้องบันทึกเหตุผลของการอนุมัติวงเงินให้ลูกค้าด้วย
นอกจากนี้จะต้องทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาวงเงินของบริษัทเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงาน ซึ่งบริษัทได้แก้ไข โดยกำชับและสั่งการให้หน่วยงานบริหารความเสี่ยงปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทอย่างเคร่งครัด และได้มีการทบทวนวเงินของลูกค้ารายดังกล่าวและเสนอรายงานให้ผู้บริหารทราบแล้ว
นอกจากนี้บริษัทมิได้บันทึกและจัดเก็บหลักฐานการให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ที่ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งบริษัทได้กำชับและสั่งการให้นักวิเคราะห์ทุกคนปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทอย่างเคร่งครัด และห้ามมิให้นักวิเคราะห์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทให้คำแนะนำแก่ลูกค้าทางโทรศัพท์มาตรการในการป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลภายในของบริษัทไม่รัดกุมเพียงพอ โดยพบว่าหลักเกณฑ์การห้ามพนักงานที่เกี่ยวข้องซื้อขายที่อยู่ใน watch list และrestricled list ไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้บริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการวาณิชธนกิจที่ทำหน้าที่อนุมัติการทำธุรกรรมดังกล่าว รวมทั้งการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและรับจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
ดังนั้นสำนักงานก.ล.ต.จึงได้สั่งการให้บริษัทกำหนดมาตรการในการป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลภายในของบริษัทให้มีความรัดกุม ซึ่งบริษัทได้แจ้งว่าได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวโดยกำหนดให้ครอบคลุมถึงบุคคลใดๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออาจได้ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับทำธุรกรรมของฝ่ายวาณิชธนกิจด้วยบล.ทีเอสอีซีมีระบบการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ายังไม่รัดกุมเพียงพอ โดยพบว่าฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ของบริษัททการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของลูกค้าโดยที่ลูกค้ามิได้ลงนามในใบคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล
รวมทั้งมิได้ทำการสอบยันรายการดังกล่าวกับลูกค้าตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการปฏิบัติงานของบริษัท โดยบริษัทได้ดำเนินการแก้ไข โดยกำชับเจ้าหน้าที่การตลาดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานทะเบียนปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการรับฝากถอนทรัพย์สินของลูกค้า โดยห้ามมิให้เจ้าหน้าที่การตลาดดำเนินการแทนลูกค้า และเจ้าหน้าที่การตลาดต้องแนะนำให้ลูกค้าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานทะเบียนด้วยตนเอง รวมทั้งกำชับให้ดำเนินการให้ลูกค้าลงนามในใบคำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลทุกครั้ง