รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งถึงผลการเสนอขายหุ้นบริษัทเอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสจำกัด(มหาชน)หรือ SECC ที่เสนอขายหุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 3 บาทปรากฏว่าในส่วนที่จัดสรรให้กับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลนั้นปรากฏว่ามีนายยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม นักลงทุนรายใหญ่ได้รับการจัดสรรจำนวน 2.89 ล้านหุ้นหรือ 2.89% คิดเป็นมูลค่า 8.67 ล้านบาทเป็นอันดับที่ 2 และยังมีญาตินายยรรยงที่ได้รับการจัดสรรคือนางวิไล พันธุ์วงศ์กล่อม ได้รับการจัดสรร 5.20 แสนหุ้นหรือ 0.50% มูลค่าเงินลงทุน 1.56 ล้านบาทเป็นอันดับที่ 15
สำหรับผู้ที่ได้รับการจัดสรร 5 อันดับแรกได้แก่นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ได้รับการจัดสรรทั้งในฐานะผู้มีอุการะคุณ และได้รับการจัดสรรจากผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์หลักทรัพย์ จำนวน 5.5 ล้านหุ้นหรือ 5.50% มูลค่าเงินลงทุน 16.50 ล้านบาทเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาได้แก่นายยรรยงเป็นอันดับสอง,นางดรุณี เลิศเสาวภาคย์ และนางชลิกา ไทยเหนือ ได้รับการจัดสรรคนละ 2 ล้านหุ้นหรือ 2% มูลค่าเงินลงทุน 6 ล้านบาท,นายอมร รุ่งเรืองพัฒนา ได้รับการจัดสรร 1.5 ล้านหุ้นหรือ 1.50% มูลค่าเงินลงทุน 4.50 ล้านบาทและนายเมธา รังสิยาวรานนท์ ได้รับการจัดสรรจำนวน 1.45 ล้านบาทหรือ 1.45% มูลค่าเงินลงทุน 4.35 ล้านบาท
ในส่วนของผู้ลงทุนสถาบันที่ได้รับการจัดสรรที่ติดอันดับ 20 อันดับแรกนั้น พบว่า 5 อันดับแรกได้แก่ Eurasia Venture Limited จำนวน 5 ล้านหุ้นหรือ 5%มูลค่าเงินลงทุน 15 ล้านบาท รองลงมาได้แก่บริษัททิพยประกันภัย ได้รับการจัดสรร 3 ล้านหุ้นหรือ 3% มูลค่าเงินลงทุน 9 ล้านบาท,กองทุนส่วนบุคคลของ
นายสุรพันธ์ พัฒนพิฑูรย์ ซึ่งบริหารโดยบลจ.3 แห่งคือ บลจ.จำนวน 8 แสนหุ้นหรือ 0.80% มูลค่าเงินลงทุน 2.40 ล้านบาท,บลจ.ซีมิโก้ ไนท์ ฟันด์ แมเนจเม้นท์จำนวน 5 แสนหุ้นหรือ 0.50% มูลค่าเงินลงทุน 1.50 ล้านบาทและบลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย)จำนวน 69,900 หุ้นหรือ 0.07% มูลค่าเงินลงทุน 2.09 แสนบาท
กองทุนไทยแคปปิตอลฟันด์ ได้รับการจัดสรร 1.36 ล้านหุ้นหรือ 1.36% มูลค่าเงินลงทุน 4.09 ล้านบาทและกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 3 ได้รับการจัดสรรจำนวน 1.18 ล้านหุ้นหรือ 1.19% มูลค่าเงินลงทุน 3.56 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่ได้รับการจัดสรร 5 อันดับแรกได้แก่นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ได้รับการจัดสรรทั้งในฐานะผู้มีอุการะคุณ และได้รับการจัดสรรจากผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์หลักทรัพย์ จำนวน 5.5 ล้านหุ้นหรือ 5.50% มูลค่าเงินลงทุน 16.50 ล้านบาทเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาได้แก่นายยรรยงเป็นอันดับสอง,นางดรุณี เลิศเสาวภาคย์ และนางชลิกา ไทยเหนือ ได้รับการจัดสรรคนละ 2 ล้านหุ้นหรือ 2% มูลค่าเงินลงทุน 6 ล้านบาท,นายอมร รุ่งเรืองพัฒนา ได้รับการจัดสรร 1.5 ล้านหุ้นหรือ 1.50% มูลค่าเงินลงทุน 4.50 ล้านบาทและนายเมธา รังสิยาวรานนท์ ได้รับการจัดสรรจำนวน 1.45 ล้านบาทหรือ 1.45% มูลค่าเงินลงทุน 4.35 ล้านบาท
ในส่วนของผู้ลงทุนสถาบันที่ได้รับการจัดสรรที่ติดอันดับ 20 อันดับแรกนั้น พบว่า 5 อันดับแรกได้แก่ Eurasia Venture Limited จำนวน 5 ล้านหุ้นหรือ 5%มูลค่าเงินลงทุน 15 ล้านบาท รองลงมาได้แก่บริษัททิพยประกันภัย ได้รับการจัดสรร 3 ล้านหุ้นหรือ 3% มูลค่าเงินลงทุน 9 ล้านบาท,กองทุนส่วนบุคคลของ
นายสุรพันธ์ พัฒนพิฑูรย์ ซึ่งบริหารโดยบลจ.3 แห่งคือ บลจ.จำนวน 8 แสนหุ้นหรือ 0.80% มูลค่าเงินลงทุน 2.40 ล้านบาท,บลจ.ซีมิโก้ ไนท์ ฟันด์ แมเนจเม้นท์จำนวน 5 แสนหุ้นหรือ 0.50% มูลค่าเงินลงทุน 1.50 ล้านบาทและบลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย)จำนวน 69,900 หุ้นหรือ 0.07% มูลค่าเงินลงทุน 2.09 แสนบาท
กองทุนไทยแคปปิตอลฟันด์ ได้รับการจัดสรร 1.36 ล้านหุ้นหรือ 1.36% มูลค่าเงินลงทุน 4.09 ล้านบาทและกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทวีทรัพย์ 3 ได้รับการจัดสรรจำนวน 1.18 ล้านหุ้นหรือ 1.19% มูลค่าเงินลงทุน 3.56 ล้านบาท