ในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา นับเป็นวันมหามงคลจริงๆที่คนไทยได้ร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี คนไทยมากมายได้มีโอกาสพิเศษเข้าเฝ้าพระองค์ที่พระที่นั่งอานันตสมาคม และชาวไทยทั้งชาติ ได้มีโอกาสชมพระบารมีของพระองค์ผ่านโทรทัศน์และสื่อต่างๆ
ด้วยพระบารมีของพระองค์ ฟ้าครึ้ม เย็นสบายราวกับฝนจะตก แต่ฝนก็ไม่ตก ทำให้ผู้คนมากมายอยู่ในบรรยากาศที่เย็นสบายชื่นใจ ตกเย็นก็ได้ร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรอย่างสวยงามและฝนก็ไม่ตก ยิงพลุที่บริเวณสนามหลวงและที่สวนเบญจกิตติก็เป็นไปอย่างสวยงาม
กระทั่งฟุตบอลโลก ก็ยังจัดนัดเปิดสนามในวันเดียวกันตอนค่ำ มีตัวแทนฟีฟ่าร่วมถวายพระพรมากมาย นับเป็นพระบารมีจริงๆ คนไทยมีความสุขใจอย่างมาก ในวันมหามงคลนี้ นับเป็นความรู้สึกดีๆในชีวิต ทำให้จิตใจชาววงการหลักทรัพย์ที่อาจจะเบื่อความซบเซาของตลาดหุ้นได้สดใสมีความสุขและกำลังใจอีกวาระหนึ่ง
สิ่งที่ประทับใจที่สุด คือการได้เห็นถึงพระบารมีของพระองค์ เห็นภาพดีๆที่พสกนิกรของพระองค์ได้หลั่งน้ำตาแห่งความปิติยินดี ด้วยความรักเทิดทูนในพระมหาราชาพ่อหลวงของเรา เป็นความปลื้มใจของทุกผู้คนจริงๆ
เราทุกคนคงได้อ่านทบทวนพระบรมราโชวาทที่ได้มีต่อมหาสมาคมกันทั่วไป ผมปลื้มใจในบทเรียนมากมายที่ได้รับจากพระบรมราโชวาท ดังนี้
1.เป็นความยินดีน่าปลาบปลื้มใจมากเป็นอย่างยิ่ง ที่ชาวไทยได้รวมกันเป็นมหาสมาคม ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทุกคน ทุกฝ่าย
2.คุณธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของความรัก ความสามัคคี จะทำให้คนไทยเราสามารถร่วมมือร่วมใจกันรักษาและพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง
- ประการแรก คือ การที่ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน
- ประการที่สอง คือ การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงาน ประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผล ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และกับประเทศชาติ
- ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผน โดยเท่าเทียมเสมอกัน
- ประการที่สี่คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำความคิด ความเห็นของตนให้ถูกต้อง เที่ยงตรง และมั่นคงอยู่ในเหตุในผล หากความคิด จิตใจ และการประพฤติปฏิบัติที่ลงรอยเดียวกันในทางที่ดี ที่เจริญนี้ยังมีพร้อมมูลในกายในใจของคนไทย ก็มั่นใจได้ว่าประเทศชาติไทยจะดำรงมั่นคงอยู่ตลอดไปได้ ซึ้งใจทุกประการจริงๆครับ
หากเราทำทุกอย่างด้วยความรักเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน เราจะไม่มีใครเอาเปรียบกัน ไม่คดโกงกัน
หากเรามุ่งเกื้อกูลกัน ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และกับประเทศชาติ จะไม่มีใครมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน บนความสูญเสียของผู้อื่นหรือประเทศชาติส่วนรวม
หากเราประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผน โดยเท่าเทียมเสมอกัน ก็จะไม่มีใครเลือกปฏิบัติ ไม่มีใครใช้อำนาจครอบคลุมองค์กรตรวจสอบทั้งของภาครัฐ และองค์กรอิสระเพื่อละเลยการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทุกคนจะได้เคารพกฎหมายโดยเสมอภาคกัน
หากเราทำความคิด ความเห็นของตนให้ถูกต้อง เที่ยงตรง และมั่นคงอยู่ในเหตุในผล จะไม่มีใครตีความกฎหมายเพียงเข้าข้างตนเอง การใช้เล่ห์กลทางกฎหมายโดยขาดความชอบธรรมอย่างศรีธนนชัยจะไม่เป็นที่ยอมรับ และ การตัดสินความประพฤติด้วยเหตุด้วยผลจะไม่หลงจากทางแห่งความชอบธรรม
ในช่วงท้าย พระองค์ได้ทรงขอให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้รักษาจิตใจและคุณธรรมนี้ไว้ให้เหนียวแน่น และถ่ายทอดความคิด จิตใจนี้กันต่อไปอย่าให้ขาดสาย เพื่อให้ประเทศชาติของเราดำรงยืนยงอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ทั้งในปัจจุบันและในภายหน้า
ผมเชื่อว่า หากเราได้ปฏิบัติตามด้วยความรักและความศรัทธาต่อพระองค์ ประเทศจะร่มเย็น เศรษฐกิจจะเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนครับ
มนตรี ศรไพศาล(montree4life@yahoo.com)