xs
xsm
sm
md
lg

'กรณ์ ณรงค์เดช'ขยับลงทุนอสังหาฯ งัดที่ดินสุขุมวิทผุดอพาร์ตเมนต์ให้เช่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"กรณ์ ณรงค์เดช”ปรับแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ หลังที่ดินในไพร์มเอเรียลหายากและราคาพุ่งต่อเนื่อง เล็งผุดอพาร์ตเมนต์ให้เช่า เจาะลูกค้าต่างชาติมูลค่า 300 ล้านบาท แถมควักเงินส่วนตัวลงทุน จ้องงัดที่ดินของตระกูล โซนสุวรรณภูมิกว่า 100 ไร่ พัฒนาโครงการ หากสนามบินสุวรรณภูมิเปิดชัดเจนก่อน

นายกรณ์ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการ บริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ The Cadogan คอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนของบริษัทฯว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสามารถปิดการขายโครงการคอนโดฯ ซึ่งหลังจากนี้ มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ 1 โครงการ รูปแบบอพาร์ตเมนต์ให้เช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ในซอยสุขุมวิท 49 สูง 5 ชั้น จำนวนไม่เกิน 20 ยูนิต ขนาด 60-200 ตารางเมตร อัตราค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อตร.ม.รวมมูลค่าลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งที่ดินดังกล่าวบริษัทฯได้ตัดสินใจซื้อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ในราคา1.7 แสนบาทต่อตร.ม.

" การลงทุนจะใช้เงินส่วนตัวทั้งหมด ไม่ได้กู้สถาบันการเงิน โครงการดังกล่าวจะเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับสูง โดยเฉพาะชาวต่างประเทศ ทั้งชาวญี่ปุ่นและยุโรปในสัดส่วนเท่ากัน คาดจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณปี 50 "

ส่วนภาพรวมของตลาดอสังหาฯในโซนสุขุมวิท พบว่า มีความต่างกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงนั้นจะชอบห้องชุดขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันราคาห้องชุดแพงขึ้น เนื่องจากวัสดุก่อสร้างมีการปรับราคาสูงขึ้น โดยปัจจุบันราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 80,000บาทต่อตร.ม. จากเดิม 65,000บาทต่อตร.ม.

อย่างไรก็ตาม นายกรณ์กล่าวแนวทางการลงทุนของเคพีเอ็น จะแยกเป็น 2 กลุ่มบริษัท คือ โครงการที่เน้นตลาดระดับบน จะดำเนินการภายใต้บริษัท บริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด และถ้าพัฒนาโครงการประเภทอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ระดับราคา 5,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะดำเนินการภายใต้บริษัท เคพีเอ็น เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 แห่งคือที่บางนา,ดินแดน และรามคำแหง ส่วนโครงการอพาร์ตเมนต์ที่ซอยสุขุมวิท 49 นี้เราพัฒนาในนามบริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด

" ปัจจุบันที่ตลาดอสังหาฯชะลอตัว แต่บริษัทฯตนค่อนข้างโชคดีที่ธุรกิจอสังหาฯไม่ใช่รายได้หลักๆจะมาจากธุรกิจยานยนต์มากกว่า จึงทำให้บริษัทไม่มีความเสี่ยงมากนัก โดยจะพัฒนาปีละ 1 โครงการเท่านั้น ซึ่งตลาดอาคารสูงย่านสุขุมวิทในปัจจุบันดีมานด์ค่อนข้างลดลงแล้ว ส่วนโครงการเก่าก็ต้องมีการนำมาปรับปรุงใหม่ ขณะเดียวกันตลาดระดับล่างยังไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง”

รองประธานกล่าวว่า บริษทฯยังมีที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)อยู่หลายทำเล อาทิเช่น ที่ดินติดชายหาดจังหวัดกระบี่ กว่า 10 ไร่ มาศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการ เนื่องจากพบว่า ตลาดต่างจังหวัดยังเหมาะที่จะเข้าไปลงทุน และมีผู้ประกอบการคนไทยและต่างชาติ เข้าไปพัฒนาโครงการในรูปแบบของวิลล่ามากมาย ราคาตั้งแต่ 60 ล้านบาทขึ้นไป

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีที่ดินสะสมในย่านสุวรรณภูมิ กว่า100ไร่ ใกล้ถนนกิ่งแก้ว- ลาดกระบัง ซึ่งมารดาของตนคือ คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช สะสมไว้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ขณะที่มีนายหน้าติดต่อขอซื้อมากมาย แต่ก็ไม่ได้ขายแต่อย่างใด ต้องการเก็บไว้พัฒนา โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล และรอจังหวะให้สนามบินสุวรรณภูมิมีความเจริญเติบโตมากกว่านี้เสียก่อน นอกจากนี้ยังมีที่ดินสะสมที่จ.เชียงใหม่ และพัทยา จ.ชลบุรี อีกบางส่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น