“กิตติรัตน์”เปิดใจหลังทิ้งเก้าอี้ ขอพักผ่อนก่อนเตรียมรับงานใหม่ เป็นผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลราชประชา พร้อมมั่นใจว่าที่กรรมการและผู้จัดการตลท.คนใหม่ “ภัทรียา เบญจพลชัย” จะนำตลาดทุนไทยเติบโตและเข้มแข็งมากขึ้น เนื่องจากเป็นลูกหม้อ ตลท.
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า หลังจากวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ จะหมดหน้าที่การเป็นกรรมการและผู้จัดการ ตลท. ซึ่งคงจะพักผ่อนสักระยะหนึ่งก่อนที่จะเริ่มงานใหม่ ซึ่งเป็นงานด้านพัฒนาการศึกษาและสังคม ไม่ได้เกี่ยวข้องด้านตลาดทุน โดยงานใหม่คือ ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลราชประชา
นายกิตติรัตน์ กล่าวอีกว่า มั่นใจว่านางภัทรียา เบญจพลชัย ว่าที่กรรมการและผู้จัดการ ตลท. จะสามารถสานงานต่อได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นผู้ที่ทำงานมาตั้งแต่ก่อตั้ง ตลท. ปี 2518 เป็นบุคคลที่มีทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ และความสามารถ อ่อนน้อมถ่อมตนทั้งกับบุคคลภายนอก และ ตลท. ซึ่งมั่นใจว่า ตลท.จะประสบความสำเร็จ
“ตลอดระยะเวลา 4 ปีเศษที่ทำงานร่วมกับ ตลท. มีความภูมิใจ เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นองค์กรของประเทศ ไม่ใช่องค์กรของรัฐหรือเอกชน บุคคลในตลาดฯ เป็นบุคคลที่มีมาตรฐานสูง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีหลักการ ไม่ได้โอนอ่อนผ่อนตามบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และขอขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลอดมา แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องขอความสนับสนุนจากทุกคนในการสร้างตลาดทุนให้เข้มแข็ง” นายกิตติรัตน์ กล่าว
นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีความที่เกิดขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่ง คดีที่ตนเองเป็นผู้ฟ้องได้มีการถอนฟ้องหมดแล้ว ส่วนคดีที่เป็นผู้ถูกฟ้องก็คงดำเนินต่อไป แต่เชื่อมั่นว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการของศาลสามารถชี้แจงได้ โดยมีหลักฐานและยืนยันถึงความบริสุทธิ์ในการกระทำต่าง ๆ ส่วนการกระทำทุกอยางไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติ ไม่ได้เกิดจากการลำเอียง ซึ่งการกระทำบางอย่างอาจจะทำให้มีผู้พอใจและไม่พอใจ ไม่ได้ห่วงอะไรใน ตลท. เชื่อว่าจะมีการสานต่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ส่วนนโยบายไหนเห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถที่จะแก้ไขหรือยกเลิกได้
นางภัทรียา กล่าวว่า ขอบคุณและรู้สึกดีใจที่บอร์ด ตลท. ให้ทำงานสำคัญนี้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในการทำหน้าที่กรรมการและผู้จัดการต่อจากนายกิตติรัตน์ ที่เป็นผู้ที่ทำไว้อย่างดีเยี่ยม และยืนยันว่าจะสานต่องานของนายกิตติรัตน์ อย่างดีที่สุด และเสียดายที่นายกิตติรัตน์ ลาออกจากตำแหน่ง ส่วนแผนการดำเนินงานก็จะเปิดเผยหลังวันที่ 1 มิถุนายน 2549 เมื่อเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ