xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองไทย...ใกล้ความฝัน (15) เมื่อเลิกเชื่อในสิ่งที่ผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มนตรี  ศรไพศาล
คนไทยทุกคนคงยังต้องลุ้นระทึกว่า ก้าวต่อไปทางการเมืองจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะชาวหุ้นต้องจับตาติดตามอย่างใกล้ชิด ด้วยหลักการสำคัญคือ “เมื่อความไม่แน่นอนมีแนวโน้มคลลี่คลาย หุ้นก็ขึ้น และ เมื่อความไม่แน่นอนมีแนวโน้มสูงขึ้น หุ้นก็อึมครึมซบเซา” ผมเชื่อว่า การเมืองไทยจะเข้มแข็งขึ้นหลังปัญหาในช่วงนี้ ด้วยการที่ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเข้มแข็งมากขึ้น และยกระดับจริยธรรมของบ้านเมืองได้

ความเชื่อที่ผิดคือ “ปุถุชน เมื่อมีอำนาจวาสนา ก็นำไปสู่ประโยชน์เพิ่มลาภของตน” จึงเป็นเรื่องที่ไม่พึงยอมรับกันทั่วไป จริงๆแล้ว การหาประโยชน์สำหรับตนเองนั้นไม่ผิด แต่ไม่ใช่บนการเอาเปรียบคนอื่น ทุกคนพึงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

โดยหลักเศรษฐศาสตร์เสรีนิยม ถือว่า ทุกคนมีสิทธิเลือกซื้อสินค้า และเลือกบริการ กล่าวได้ว่า ใครใคร่ค้าช้างค้า ใครใคร่ค้าม้าค้า ไม่ควรถูกจำกัดด้วยอำนาจผูกขาดจนนำไปสู่การเอาเปรียบลูกค้าได้ เช่น สินค้าควรจะถูก ก็ไม่ถูกตามที่ควร ส่วนเกิน ก็คือสิ่งที่ผู้ใช้อำนาจ ตักตวงมาจากลูกค้าโดยมิชอบ หวังว่า ที่ว่า “ใครก็ตามสามารถมีอำนาจ ก็จะหาทางผูกขาดเพื่อประโยชน์ส่วนตัวสูงสุด แม้จะเป็นการเอาเปรียบผู้อื่นก็ตาม” จะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมบ้านเรา

โดยหลักการใช้อำนาจปกครองบ้านเมือง ผู้มีอำนาจก็พึงใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชนโดยทั่วถึงกัน ไม่ควรที่จะมุ่งทำเพียงเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนและพวกพ้อง เช่น การใช้อำนาจทำให้รัฐได้ประโยชน์น้อยลง เพื่อให้กลุ่มตนได้ประโยชน์มากขึ้นโดยมิชอบ เป็นต้น

กรณีไอทีวี เป็นกรณีที่น่าสนใจว่า ศาลได้พิพากษาแล้วว่า หน่วยงานภาครัฐ ทำให้รัฐเสียประโยชน์ให้ภาคเอกชนเกินควร และประชาชนก็เสียทีวีเสรีซึ่งเกิดขึ้นในยุคพฤษภาทมิฬเพื่อปกป้องเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนจากการปกปิดของภาครัฐ และผลของความไม่ชอบในเรื่องนี้ ในที่สุด ก็ทำให้นักลงทุนทั่วไปก็ต้องเสียหายอย่างก็น่าเห็นใจ

เราก็ควรจะร่วมกันภาวนาว่า ไม่มีกรณีอื่นๆที่ใช้อำนาจรัฐเอื้อธุรกิจกลุ่มตนโดยไม่ชอบอีก หวังว่าผู้มีอำนาจจะได้ตอบคำถามต่างๆที่มีจากกลุ่ม “ผู้รู้ทัน” เพื่อให้เกิดความไว้วางใจในผู้นำต่อไปได้

ผมยังไม่อยากให้สังคมไทยยอมรับว่า “พวกนักการเมืองเข้ามาโกงกันทั้งนั้น” ผมว่า ขนาดที่คิดว่า “คนโกง จะยอมรับไม่ได้” “ใครโกงต้องออกไป” ก็ยังเห็นมีผู้เสี่ยงโกงเป็นร้อยเป็นพันล้านบาท ถ้าถึงขั้นที่คิดว่า “จับได้ก็ไม่เป็นไร ก็โกงกันทั้งนั้น” จะโกงกันเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาทหรือไม่

ความเชื่ออีกอย่างที่ไม่น่าเปรียบเทียบกัน คือบอกว่า “เราไม่ควรเอาอย่างวัฒนธรรมตะวันตก มีแต่วัตถุนิยม เอาเปรียบคนอื่นมาก จึงร่ำรวยมาก” ผมก็เชื่อว่า ทุกสังคมมีดีและไม่ดี แต่ไม่อยากให้เชื่อว่า เพราะยิ่งโกง ยิ่งเอาเปรียบ จึงได้ดี จริงๆแล้วผมเชื่อว่า เขามีวัฒนธรรมที่ดีงามหลายอย่างที่เป็นผลของความสำเร็จ ผมเห็นหนังสือหลักความสำเร็จพูดถึงปรัชญาความคิดหลายประการเช่น “ความสำเร็จของคนไม่ได้วัดกันที่ ใครได้รับสมบัติเงินทองเท่าไร แต่วัดที่ใครทำให้ผู้อื่นเท่าไร” เซอร์ ไอแซค นิวตัน คิดค้นหลักกลศาสตร์ฟิสิกส์และวิชาแคลคูลัส ทำให้เกิดการพัฒนาวิชาการที่เป็นประโยชน์มากมาย เอดิสันสร้างหลอดไฟ ก็ทำให้ชาวโลกได้รับความสะดวก ปลอดภัยยามค่ำคืนมากมาย บิล เกตต์สร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยให้เราทำงานได้อย่างที่ในอดีตที่ไม่มีมันทำได้ยากมาก ฯลฯ การมุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กัน ไม่มุ่งการเอาเปรียบกัน ผมเห็นเบื้องหลังการส่งจรวดไปในอวกาศ มีการทำงานเป็นทีมอย่างดี มีความรัก ความสามัคคี เปิดใจรับฟังความเห็นกันและกัน จนประสบความสำเร็จ

เมื่อมีผู้โกง เช่น กรณี WorldCom หรือ Enron ก็เอาจริงเอาจังในการซักถามอย่างโปร่งใส ผู้บริหารต้องตอบ จะเลี่ยงการตอบไม่ได้ และเมื่อตอบไม่ได้ก็ต้องลงจากอำนาจ

กรณีละเลยสิทธิมนุษยชนกับนักโทษชาวอิรัค ก็ต้องสอบสวนกันอย่างโปร่งใส และลงโทษผู้กระทำผิด เพื่อเป็นแบบอย่างว่า เราจะชนะความชั่วไม่ได้ ถ้าเราไม่ยืนหยัดบนหลักแห่งคุณธรรม

ถ้าเราเรียนรู้สิ่งที่ดี ป้องกันสิ่งที่ไม่ดี คุณธรรมในบ้านเมืองจะสูงขึ้น และเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตยั่งยืนครับ

มนตรี ศรไพศาล(montree4life@yahoo.com)

กำลังโหลดความคิดเห็น