วันนี้(15 พ.ค.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งว่าบริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการลงนามบันทึกความเข้าใจที่จะร่วมศึกษาความ เป็นไปได้สำหรับการร่วมลงทุนในโครงการผลิตสาร Acrylonitrile (AN) และ Methyl Methacrylate (MMA) ในประเทศไทย รวมถึงการร่วม กันศึกษาความเป็นไปได้ในการ ร่วมลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีอื่นๆ ระหว่าง ปตท. และบริษัท Asahi Kasei Chemicals Corporation (AKCC) นั้น
ปตท.ขอแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 ปตท. โดยความเห็นชอบจากคณะ กรรมการ ปตท. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) สำหรับการร่วมลงทุนในโครงการ ผลิตสาร AN และ MMA จำนวน 2 ฉบับและลงนามในสัญญาการร่วมทุนจัดตั้งบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. MOU สำหรับโครงการ AN ระหว่าง ปตท. AKCC และบริษัท Marubeni Corporation (Marubeni) เพื่อดำเนินโครงการผลิตสาร AN ที่กำลังการผลิต 200,000 ตันต่อปี โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ของ AKCC ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก ที่สามารถใช้ก๊าซโพรเพนจากโรงแยกก๊าซฯ ของ ปตท.เป็นวัตถุดิบแทนโพรพิลีนซึ่ง เป็นวัตถุดิบหลักชนิดเดียวที่ใช้ในการผลิต AN ณ ปัจจุบัน โดยมีสัดส่วนการลง ทุนร้อยละ 47.5 47.5 และ 5 ตามลำดับ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิต ในช่วงต้นปี 2553
2. MOU สำหรับโครงการ MMA ระหว่าง ปตท.และ AKCC เพื่อดำเนิน โครงการผลิตสาร MMA ที่กำลังการผลิต 70,000 ตันต่อปี โดยใช้ผลิตภัณฑ์หลัก จากโรงงาน AN ได้แก่ Acetone Cyanohydrin (ACH) เป็นวัตถุดิบในการผลิตโดยมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 49 และ 51 ตามลำดับ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตในช่วงต้นปี 2553 เช่นเดียวกับโครงการ AN
นอกจากนี้ ปตท.และ AKCC ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการโครงการผลิตเม็ดพลาสติก Poly Methyl Methacrylate (PMMA) ที่กำลัง การผลิต 25,000 ตันต่อปี โดยใช้ผลิตภัณฑ์ MMA จากโรงงาน MMA เป็นวัตถุดิบ ในการผลิต
3. สัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) ระหว่าง ปตท. AKCC และ Marubeni ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 47.5 47.5 และ 5 ตามลำดับ เพื่อจัดตั้งบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด (PTT Asahi Chemical Company Limited) ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 200 ล้านบาท สำหรับดำเนินการเตรียมงานเบื้องต้นของโครงการทั้ง 3 ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าวงเงินลงทุนรวมของทั้ง 3 โครงการมีมูลค่าประมาณ 484 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้การร่วมลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท.ซึ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มความหลากหลาย (Diversification)ให้กับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกลุ่ม ปตท. เนื่อง จากผลิตภัณฑ์ AN และ MMA เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Specialty ซึ่งมีราคาและความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปตท.ขอแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 ปตท. โดยความเห็นชอบจากคณะ กรรมการ ปตท. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) สำหรับการร่วมลงทุนในโครงการ ผลิตสาร AN และ MMA จำนวน 2 ฉบับและลงนามในสัญญาการร่วมทุนจัดตั้งบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. MOU สำหรับโครงการ AN ระหว่าง ปตท. AKCC และบริษัท Marubeni Corporation (Marubeni) เพื่อดำเนินโครงการผลิตสาร AN ที่กำลังการผลิต 200,000 ตันต่อปี โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ของ AKCC ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก ที่สามารถใช้ก๊าซโพรเพนจากโรงแยกก๊าซฯ ของ ปตท.เป็นวัตถุดิบแทนโพรพิลีนซึ่ง เป็นวัตถุดิบหลักชนิดเดียวที่ใช้ในการผลิต AN ณ ปัจจุบัน โดยมีสัดส่วนการลง ทุนร้อยละ 47.5 47.5 และ 5 ตามลำดับ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิต ในช่วงต้นปี 2553
2. MOU สำหรับโครงการ MMA ระหว่าง ปตท.และ AKCC เพื่อดำเนิน โครงการผลิตสาร MMA ที่กำลังการผลิต 70,000 ตันต่อปี โดยใช้ผลิตภัณฑ์หลัก จากโรงงาน AN ได้แก่ Acetone Cyanohydrin (ACH) เป็นวัตถุดิบในการผลิตโดยมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 49 และ 51 ตามลำดับ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตในช่วงต้นปี 2553 เช่นเดียวกับโครงการ AN
นอกจากนี้ ปตท.และ AKCC ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการโครงการผลิตเม็ดพลาสติก Poly Methyl Methacrylate (PMMA) ที่กำลัง การผลิต 25,000 ตันต่อปี โดยใช้ผลิตภัณฑ์ MMA จากโรงงาน MMA เป็นวัตถุดิบ ในการผลิต
3. สัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) ระหว่าง ปตท. AKCC และ Marubeni ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 47.5 47.5 และ 5 ตามลำดับ เพื่อจัดตั้งบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด (PTT Asahi Chemical Company Limited) ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 200 ล้านบาท สำหรับดำเนินการเตรียมงานเบื้องต้นของโครงการทั้ง 3 ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าวงเงินลงทุนรวมของทั้ง 3 โครงการมีมูลค่าประมาณ 484 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้การร่วมลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท.ซึ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มความหลากหลาย (Diversification)ให้กับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกลุ่ม ปตท. เนื่อง จากผลิตภัณฑ์ AN และ MMA เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Specialty ซึ่งมีราคาและความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง