'กมล'ทิ้งหุ้นศรีไทยคลังสินค้าถึง 15% เหลือเพียง 4.99% ขายให้กับ 3 นักลงทุน ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารระดับสูง รพ.ศิครินทร์"พล.ต.ท.จารักษ์"ทิ้งหุ้นเกลี้ยงพอร์ต จับตาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงานใหม่ในอนาคต
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งว่านายกมล เอี้ยวศิวิกูล ได้ขายหุ้นบริษัททรัพย์ศรีไทยคลังสินค้า จำกัด(มหาชน)หรือ SST เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 โดยขายจำนวน1.816 ล้านหุ้นหรือ 15.0083% โดยขายให้กับนายเกรียงศักดิ์ ก้องขจร,นางสาวนฤมล แจ่มกระจ่างและนางสาวรุ่งระวี เอี่ยมพงษ์ไพฑูรย์ ทำให้ภายหลังการเสนอขายนายกมลยังคงถือหุ้นบริษัททรัพย์ศรีไทยคลังสินค้าจำนวน 604,000 หุ้นหรือ 4.9917%
อนึ่งนายกมลได้หุ้นบริษัททรัพย์ศรีไทยคลังสินค้าจากการไปรวมกับกลุ่มนายศุภสิทธิ์ สุขะนินทร์ และกลุ่มผู้ร่วมทุนจำนวน 17 รายซึ่งมีนายกมลรวมอยู่ด้วย ได้ไปซื้อหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)หรือ SCB จำนวน 9.47 ล้านหุ้นหรือ 78.29% ของจำนวนหุ้นที่สามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 51.25 บาท โดยนายกมลได้เข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 2.42 ล้านหุ้นหรือ 20%
สำนักงานก.ล.ต.ยังได้แจ้งว่าพล.ต.ท.จารักษ์ แสงทวีป ซึ่งเป็นประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร ของบริษัทโรงพยาบาลศิครินทร์ จำกัด(มหาชน)หรือ SKR ได้ขายหุ้นโรงพยาบาลศิครินทร์ จำนวน 2 ครั้งซึ่งเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2549 โดยขายหุ้นสามัญจำนวน 2.30 ล้านหุ้นหรือ 2.30% และได้ขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือวอร์แรนต์จำนวน 2.26 ล้านหน่วยหรือ 2.26%
ส่วนการขายครั้งหุ้นในครั้งที่ 2 ของพล.ต.ท.จารักษ์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 ซึ่งได้ขายหุ้นสามัญจำนวน 3.77 ล้านหุ้นหรือ 3.78%ทำให้ภายหลังการเสนอขายพล.ต.ท.จารักษ์ จะไม่ถือหุ้นโรงพยาบาลศิครินทร์อีกเลย
ทั้งนี้จากข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลศิครินทร์ ณ วันที่ 7 เมษายน 2549พบว่า พล.ต.ท.จารักษ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองโดยถือหุ้นจำนวน 6.07 ล้านหุ้นหรือ 6.08% ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับแรกได้แก่บริษัท จุลดิศ ดีเวลลอป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 6.08 ล้านหุ้นหรือ 6.08%
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์กล่าวว่า จากการที่พล.ต.ท.จารักษ์ ได้ขายหุ้นบริษัทโรงพยาบาลศิครินทร์ออกมาทั้งหมด คาดว่าจะทำให้โครงสร้างการบริหารงานของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ซึ่งจะต้องจับตามองต่อไป