ศาลฎีกายืนยันตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องในคดี 7 ผู้ถือหุ้นของบล.พัฒนสินได้ฟ้องร้องให้การออกหุ้นเพิ่มทุน ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อปี 37 ที่ฝ่าฝืนข้อบังคับบริษัทและพรบ.บริษัทมหาชน
นายสุเทพ พีตกานนท์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน)หรือ CNSแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่บริษัทได้จัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 1/2537 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2537 และที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นสามัญใหม่เพิ่มทุน จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน และมีมติที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนดังกล่าว โดยมีกลุ่มผู้ถือหุ้นจำนวน 7 ราย ได้ฟ้องร้องต่อศาลว่าการดำเนินการการจัดประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว เป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทฯ และพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535
นอกจากนี้ได้ขอให้ศาลเพิกถอนการประชุมผู้ถือหุ้นและมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว รวมทั้งห้ามบริษัทฯ และบุคคลที่ถูกระบุในคำฟ้องดำเนินการใด ๆ ตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาชี้ชาด โดยบริษัทฯและบุคคลที่ถูกระบุในคำฟ้องได้ให้การและแก้ไขคำให้การต่อศาลว่าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้มีการจัดให้มีการประชุมโดยชอบด้วยกฎหมายทุกประการ และขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ทั้งนี้คดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นได้พิพากษาแล้วพิจารณายกฟ้องเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2542 โดยคู่ความได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้องตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544 โดยโจทก์ได้ยื่นขอฎีกา ในการนี้ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 โดยพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกฟ้องคำฟ้องของโจทก์โดยศาลได้ยกข้อฎีกาของโจทก์ที่สำคัญ ซึ่งสรุปได้ว่าการกำหนดระเบียบวาระการประชุมผู้ถือหุ้น การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี การลงมติและมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2537 ของบริษัทฯชอบด้วยกฎหมายแล้ว และการกำหนดระเบียบวาระการประชุมเกี่ยวกับการขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่กรรมการและพนักงานไม่ขัดกับวัตถุประสงค์ตามหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ และไม่ขัดกับบทบัญญัติของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ
จากคำพิพากษาของศาลฏีกา ดังนั้นจึงถือได้ว่า ขณะนี้คดีความดังกล่าวได้ถึงที่สุดแล้ว