กลุ่มบริษัทเอ.พี.เอฟโฮลดิ้งส์เข้าถือหุ้นบล.ยูไนเต็ด 78.53% หลังจากทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์จากผู้ถือหุ้นได้ 53.10% ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท ขณะที่ก.ล.ต.ไฟเขียวให้ผู้บริหารญี่ปุ่นเข้าไปนั่งในบอร์ดใหม่เรียบร้อย
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ กรรมการ บริษัทเอ.พี.เอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัดในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด(มหาชน)หรือ US แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ถึงผลการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ออฟเฟอร์)ซึ่งได้แต่งตั้งให้บริษัทเบเคอร์ ทิลลี่ เอฟ เอ เอส(ประเทศไทย) เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ จำนวน 125.89 ล้านหุ้นหรือ 74.57%ในราคาหุ้นละ 8.04 บาท โดยได้เสนอซื้อเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2549 ปรากฏว่ามีผู้ถือหุ้นแสดงเจตนาจะขายหุ้นจำนวน 89.64 ล้านหุ้นหรือ 53.10%
บริษัทเอ.พี.เอฟ โฮลดิ้งส์ ได้เข้ามาซื้อหุ้นบล.ยูไนเต็ดก่อนหน้านี้จากตระกูลว่องกุศลกิจ ทำให้ถือหุ้น 25.43% และเมื่อรวมกับหุ้นที่ถืออยู่กับหุ้นที่ทำคำเสนอซื้อมาได้จะมีจำนวน 132.56 ล้านหุ้นหรือ 78.53% ซึ่งทำให้บริษัทเอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ ใช้เงินเข้าซื้อกิจการรวมทั้งสิ้น 1,065.78 ล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินทุนที่บริษัทเอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์นำมาใช้ในครั้งนี้จะมาจากบริษัทเองและได้กู้ยืมจากธนาคารกรุงเทพจำนวน 500 ล้านบาทและ/หรือจากธนาคารเอบีเอ็น แอมโร สาขาลอนดอนจำนวน 515 ล้านบาท
นางสาวสุดธิดา จิระพัฒน์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด(มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่บริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมีการลาออก และเข้าใหม่ของกรรมการ และขณะนี้สำนักงานก.ล.ต.ได้ให้ความเห็นชอบกรรมการใหม่ของบริษัทแล้ว และได้นำเรื่องเข้าจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2549
ทั้งนี้นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ,นายเจเรมี เหลียว เป็นผู้บริหารสูงสุด โดยเป็นกรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหาร และนายทัตซึยะ โคโนชิตะ เป็นประธานกรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ โดยนายเจเรมี และนายทัตซึยะ ถือได้ว่าเป็นกรรมการที่มีอำนาจจัดการ
สำหรับราคาหุ้นวานนี้(30 มี.ค.)หุ้นบล.ยูไนเต็ดปิดที่ระดับ 7.70 บาทลดลง 0.10 บาทหรือ 1.28% มูลค่าการซื้อขาย 0.79 ล้านบาท
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ กรรมการ บริษัทเอ.พี.เอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัดในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด(มหาชน)หรือ US แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ถึงผลการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ออฟเฟอร์)ซึ่งได้แต่งตั้งให้บริษัทเบเคอร์ ทิลลี่ เอฟ เอ เอส(ประเทศไทย) เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ จำนวน 125.89 ล้านหุ้นหรือ 74.57%ในราคาหุ้นละ 8.04 บาท โดยได้เสนอซื้อเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2549 ปรากฏว่ามีผู้ถือหุ้นแสดงเจตนาจะขายหุ้นจำนวน 89.64 ล้านหุ้นหรือ 53.10%
บริษัทเอ.พี.เอฟ โฮลดิ้งส์ ได้เข้ามาซื้อหุ้นบล.ยูไนเต็ดก่อนหน้านี้จากตระกูลว่องกุศลกิจ ทำให้ถือหุ้น 25.43% และเมื่อรวมกับหุ้นที่ถืออยู่กับหุ้นที่ทำคำเสนอซื้อมาได้จะมีจำนวน 132.56 ล้านหุ้นหรือ 78.53% ซึ่งทำให้บริษัทเอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ ใช้เงินเข้าซื้อกิจการรวมทั้งสิ้น 1,065.78 ล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินทุนที่บริษัทเอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์นำมาใช้ในครั้งนี้จะมาจากบริษัทเองและได้กู้ยืมจากธนาคารกรุงเทพจำนวน 500 ล้านบาทและ/หรือจากธนาคารเอบีเอ็น แอมโร สาขาลอนดอนจำนวน 515 ล้านบาท
นางสาวสุดธิดา จิระพัฒน์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด(มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่บริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมีการลาออก และเข้าใหม่ของกรรมการ และขณะนี้สำนักงานก.ล.ต.ได้ให้ความเห็นชอบกรรมการใหม่ของบริษัทแล้ว และได้นำเรื่องเข้าจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2549
ทั้งนี้นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ,นายเจเรมี เหลียว เป็นผู้บริหารสูงสุด โดยเป็นกรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหาร และนายทัตซึยะ โคโนชิตะ เป็นประธานกรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ โดยนายเจเรมี และนายทัตซึยะ ถือได้ว่าเป็นกรรมการที่มีอำนาจจัดการ
สำหรับราคาหุ้นวานนี้(30 มี.ค.)หุ้นบล.ยูไนเต็ดปิดที่ระดับ 7.70 บาทลดลง 0.10 บาทหรือ 1.28% มูลค่าการซื้อขาย 0.79 ล้านบาท