xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊ก"โออิชชิ"ขายหุ้น 55% ให้ บ.นครชื่น-Bengenaฯ "ตัน'เหลือหุ้น 10.67%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


OISHI ตกลงขายหุ้น 55% ให้ บ.นครชื่น ของ 'เจริญ สิริวัฒนภักดี' และครอบครัว และ Bengenaฯ หุ้นละ 32.50 บ.จากนี้กลุ่ม'ตัน'เหลือหุ้น 10.67% ระบุการซื้อขายหุ้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ทำบิ๊กล็อตบ่ายนี้ 33.87% ที่เหลือ 21.13% จะโอนหลังหลุด Silent Period ชี้ บริษัทฯแข็งแกร่งขึ้น หลังขายหุ้นให้กลุ่มเจริญ เหตุเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่ม ด้าน 'ตัน ภาสกรนที ' ยังเป็นผู้บริหารต่อไป ส่วน 5 กรรมการ ลาออก ขณะที่ เจ้าสัวเจริญส่ง 'ฐาปน สิริวัฒนภักดี' นั่งบอร์ด ยืนยันยังเป็นบริษัทจดทะเบียนใน ตลท.ต่อไป ส่วนนโยบายต้องรอเปลี่ยนกรรมการชุดใหม่ก่อน

วันนี้(26 ม.ค.)นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากนายตัน ภาสกรนที ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ถึงการเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นในบริษัทฯ ระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่และกลุ่มผู้ซื้อ ดังนี้

1.กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประกอบด้วย นายตัน ภาสกรนที และครอบครัว และรวมทั้งบุคคลที่ นายตัน ภาสกรนที ชักชวนให้ทำการขายหุ้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานของบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นในวันที่ 26 มกราคม 2549 นี้ ตกลงที่จะร่วมกันขายหุ้นจำนวนรวมทั้งสิ้น 103,125,000 หุ้น (55%) ให้แก่กลุ่มผู้ซื้อ ได้แก่ บริษัท นครชื่น จำกัดและ Bengena International Ltd.

ทั้งนี้ เฉพาะส่วนหุ้นของนายตัน ภาสกรนที และครอบครัว ที่เสนอขายรวมทั้งสิ้นจำนวน 47,541,550 หุ้น (25.36%)

2.ราคาซื้อขายภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้น คือ หุ้นละ 32.50 บาท โดยการซื้อขายหุ้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ (i) หุ้นจำนวน 63,506,637 หุ้น (33.87%) จะทำการซื้อขายกันระหว่างบริษัท นครชื่น จำกัด กับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ผ่านการซื้อขายกระดานใหญ่ (Big Lot) ในช่วงการเปิดการซื้อขายช่วงบ่ายวันที่ 26 มกราคม 2549 นี้ และ (ii) หุ้น จำนวน 39,618,363 หุ้น (21.13%) ซึ่งปัจจุบันมีข้อจำกัดห้ามโอน (Silent Period) จะทำการขายผ่านทางการทำคำเสนอซื้อหุ้น เมื่อหุ้นดังกล่าวหลุดพ้นจากข้อกำหนดห้ามโอน (Silent Period) ซึ่งกลุ่มผู้ซื้อจะร่วมกันทำคำเสนอซื้อภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดภายหลังจากการซื้อหุ้นครั้งแรกข้างต้น โดยในการทำคำเสนอซื้อ Bengena International Ltd. จะเข้าซื้อในสัดส่วนไม่เกินสัดส่วนหุ้นต่างประเทศ (ไม่เกินร้อยละ 49)สำหรับจำนวนที่เกินมากกว่านี้ทางบริษัท นครชื่น จำกัด จะเป็นผู้รับซื้อ

ทั้งนี้ เมื่อมีการซื้อขายหุ้นทั้งสองส่วนเสร็จเรียบร้อยแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของนายตัน ภาสกรนที และครอบครัว จะเหลืออยู่ 10.67%เมื่อมีการขายหุ้นดังกล่าวแล้ว นายตัน ภาสกรนที จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้บริหารในการบริหารงานของบริษัทฯเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของ 'นครชื่น' ที่แท้เป็นของ 'เจริญ สิริวัฒนภักดี' และครอบครัว

นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI) เปิดเผยรายละของกลุ่มผู้ซื้อหุ้น OISHI คือ บริษัท นครชื่น จำกัด เป็นบริษัทจำกัดที่จัดตั้งภายใต้กฎหมายไทยและมี Ultimate Shareholders คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี และครอบครัว (โดยถือหุ้นผ่านบริษัท วัฒนพัฒน์ เทรดดิ้ง จำกัด และ ที ซี ซี โฮล์ดิ้ง จำกัด และบริษัทอื่นๆในกลุ่ม) โดยมีทุนจดทะเบียน ทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 500,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยมีทุนชำระแล้ว 5,000 ล้านบาท โดยประกอบธุรกิจหลักคือ การจำหน่ายสุรา การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน คณะกรรมการของบริษัท นครชื่น จำกัด มีทั้งสิ้น 8 คน ดังนี้

1. นายเจริญ สิริวัฒนภักดี
2. คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
3. นายณรงค์ ศรีสอ้าน
4. นายธีรศักดิ์ นาทีกาญจนลาภ
5. นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร
6. นางสาวอาทินันท์ สิริวัฒนภักดี
7. นายฐาปน สิริวัฒนภักดี
8. นายปณต สิริวัฒนภักดี

ส่วน Bengena International Ltd. เป็นบริษัทจำกัดที่จัดตั้งภายใต้กฎหมาย British Virgin Islands และมี Ultimate Shareholder คือ Mr. Ma Wah Yan โดยมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 50,000 เหรียญสหรัฐ โดยมีทุนชำระแล้ว 1 เหรียญสหรัฐ ก่อตั้งเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2548 คณะกรรมการของ Bengena International Ltd. คือ Mr. Ma Wah Yan โดย Bengene International Ltd. เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักคือ ธุรกิจการลงทุน

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ซื้อว่าผู้ซื้อทั้งสองไม่เป็นบุคคล ที่เกี่ยวโยงซึ่งกันและกันบิ๊ก OISHI เผยบริษัทฯแข็งแกร่งขึ้น หลังขายหุ้นให้กลุ่มเจริญ เหตุเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่ม

นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI) เปิดเผยว่า ประโยชน์ที่บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับจากกลุ่มผู้ซื้อ คือบริษัทจะมีความแข่งแกร่งขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อเป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และบริษัทสามารถใช้ช่องทางการจำหน่ายร่วมกันรวมทั้งสามารถใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากรของผู้ซื้อและเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร เนื่องจากสามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้

นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2549 ได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจาก การเป็นกรรมการของบริษัท โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้

1. นางสาวฐิติมา ศรีอุทัยศิริวงศ์
2.นายดำรงค์ พฤกษะริตานนท์
3. นายสุเนตร เอมวัฒนา
4.นางสุลาวัลย์ พฤกษะริตานนท์
5. นายชิว ไฮ เซียน เฮสเตอร์ อาร์เธอร์

โดยการลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2549 นี้และที่ประชุมคณะกรรมการดังกล่าวจึงมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการของบริษัทใหม่แทนกรรมการที่ลาออก ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

1. นายพิษณุ วิเชียรสรรค์
2. นายอวยชัย ตันทโอภาส
3. นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร
4. นายณรงค์ ศรีสอ้าน
5. นายฐาปน สิริวัฒนภักดี

และได้มีมติให้แก้ไขอำนาจกรรมการของบริษัทฯ เป็นดังนี้ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อผูกพันบริษัท คือ นายณรงค์ ศรีสอ้าน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร คนใดคนหนึ่ง ลงลายมือชื่อร่วมกับ นายพิษณุ วิเชียรสรรค์ หรือ นายอวยชัย ตันทโอภาส หรือนายตัน ภาสกรนที หรือนางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร หรือนายโช เอวี่ย จิ้นรวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท

ดังนั้น คณะกรรมการของบริษัทจึงมี 11 คน ตามรายชื่อ ดังต่อไปนี้

1. นายตัน ภาสกรนที
2. นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร
3. นายโช เอวี่ย จิ้น
4. นายพิษณุ วิเชียรสรรค์
5. นายอวยชัย ตันทโอภาส
6. นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร
7. นายณรงค์ ศรีสอ้าน
8. นายฐาปน สิริวัฒนภักดี
9. นายนพพร พิชา (กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ)
10. นายเกรียง ยรรยงดิลก (กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ)
11. นายไพรสัณฑ์ วงศ์สมิทธิ์ (กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ)

ที่ประชุมคณะกรรมการดังกล่าวมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการบริหาร ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

1. นายณรงค์ ศรีสอ้าน ประธานกรรมการบริหาร
2. นายฐาปน สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการบริหาร
3. นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ
4. นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร กรรมการบริหาร
5. นายโช เอวี่ย จิ้น กรรมการบริหาร
6. นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร กรรมการบริหาร
7. นายอวยชัย ตันทโอภาส กรรมการบริหาร
8. นายพิษณุ วิเชียรสรรค์ กรรมการบริหาร

ทั้งนี้นางสาวสุนิสา เปิดเผยอีกว่า สำหรับนโยบายของกลุ่มผู้ซื้อจะแจ้งให้ทราบต่อไปเมื่อมีการประชุมในคณะกรรมการชุดใหม่ และหลังจากการซื้อขาย บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ยังคงมีสถานะในการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

นายอุดมศักดิ์ กล่าวว่า บริษัททั้งสองจะร่วมทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ หุ้นทั้งหมดของกิจการตามเกณฑ์ของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในราคาหุ้นละ 32.50 บาท ช่วงระยะเวลาการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ คาดว่าจะอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2549 ทั้งนี้ ภายหลังการสิ้นสุดการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ แล้วนั้น โออิชิ กรุ๊ป ยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

ด้าน ยืนนายอุดมศักดิ์ ชาครียวณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของกลุ่มพันธมิตรใหม่ของ โออิชิ กรุ๊ป ได้เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนของนายเจริญ ประธานกรรมการ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นการเข้าลงทุนโดยส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทไทยเบฟฯ เพราะนายเจริญได้นำข้อเสนอที่จะซื้อหุ้นโออิชิเข้าขอมติจากที่ประชุมบอร์ดไทยเบฟแล้ว แต่บอร์ดปฏิเสธที่จะร่วมลงทุนโดยให้เหตุผลว่า ไทยเบฟอยู่ระหว่างยื่นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหากใช้ไทยเบฟเข้าซื้อจะทำให้กระบวนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยเบฟล่าช้าออกไปอีก และยืนยันว่า จะไม่มีการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม (แบ็คดอร์ ลีสติ้ง) ผ่านโออิชิอย่างแน่นอน

ด้านนายตัน ภาสกรนที กล่าวว่า หลังจากการขายหุ้นครั้งนี้ ตนและภรรยายังมีสัดส่วนการถือหุ้นในโออิชิประมาณร้อยละ 10 หรือคิดเป็นมูลค่า 600-700 ล้านบาท ซึ่งก็จะหาลู่ทางการลงทุนต่อไป ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และลู่ทางอื่น ๆ แต่จะยังทำงานให้โออิชิอย่างเต็มที่ ยืนยันว่า การเลือกพันธมิตรครั้งนี้ น่าเป็นการเสริมศักยภาพทางธุรกิจ เนื่องจากนายเจริญและบริษัท Bengena มีธุรกิจมากมาย ทั้งโรงแรม สนามกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถใช้เครือข่ายของพันธมิตรมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย

ด้านนายธนิต ธรรมสุคติ ในฐานะตัวแทนของบริษัท นครชื่น จำกัด กล่าวว่า การที่นครชื่น ได้ร่วมกับ Mr. Ma Wah Yan เข้าซื้อหุ้นโออิชิ กรุ๊ป เพราะเล็งเห็นว่าเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการที่ดี เป็นผู้นำในธุรกิจชาเขียวและร้านอาหาร รวมทั้งยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก และเมื่อเช้าวันนี้ คณะกรรมการของโออิชิ กรุ๊ป ได้รับแจ้งว่า กรรมการ 5 ท่านได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการของโออิชิ กรุ๊ป และคณะกรรมการได้มีมติแต่งตั้งกรรมการใหม่ 5 ท่านเข้ารับดำรงตำแหน่งแทน ประกอบด้วย นายณรงค์ ศรีสอ้าน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร นายอวยชัย ตันทโอภาส และนายพิษณุ วิเชียรสรรค์ โดยนายณรงค์ ศรีสอ้านเป็นประธานกรรมการบริษัท และจะเป็นผู้กำหนดนโยบายของทิศทางการดำเนินงานของบริษัทต่อไป

บริษัท นครชื่น จำกัด จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2543 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วจำนวน 5,000 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท วัฒนพัฒน์เทรดดิ้ง จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 75 บริษัท ที.ซี.ซี. แลนด์ จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 25 และคณะกรรมการบริษัทประกอบด้วย นายเจริญ สิริวัฒนภักดี คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี นายณรงค์ ศรีสอ้าน นายธีรศักดิ์ นาทีกาญจนลาภ นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร นางสาวอาทินันท์ สิริวัฒนภักดี นายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี

สำหรับ Bengena International Ltd. เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ British Virgin Islands จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2548 ด้วยทุนจดทะเบียน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยประกอบธุรกิจการลงทุน บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ Mr. Ma Wah Yan ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 และคณะกรรมการบริษัทประกอบด้วย Mr. Ma Wah Yan เพียงท่านเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น