xs
xsm
sm
md
lg

เสียดายแทนตลาดหุ้นไทย..หุ้นไทยเบฟฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน) (montree4life@yahoo.com)

หุ้นไทยเบฟฯได้ประกาศเรียบร้อยแล้วว่าจะไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ควบคู่กับตลาดหุ้นไทย หากตลาดหุ้นไทยยินดีเปิดต้อนรับหุ้นของไทยเบฟฯ หลายคนเริ่มส่งสัญญาณเสียดาย ผมเองก็ว่าถ้าเรากลับมาประเมินเรื่องนี้ด้วย “สติ” และ “ปัญญา” ผมว่าเราก็น่าจะร่วมกันเสียดายพอที่จะยอมรับให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยอาจไม่ต้องไปจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ด้วย (แต่อาจจะสายไปแล้ว)

ผมเชื่อในเจตนาดีของผู้ประท้วงการจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยว่า เป็นไปด้วยความกังวลต่อ “ปัญหาสังคม” จากเรื่องแอลกอฮอล์ จึงไม่ควรที่จะมองเพียง “ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจหรือตลาดทุน” จนทำให้มองข้ามปัญหาสังคมไปได้

แต่ผมก็อยากให้ผู้ประท้วงเข้าใจว่า ในกลุ่มผู้ที่สนับสนุนการจดทะเบียนหุ้นไทยเบฟฯในตลาดหุ้นไทย ก็ไม่ได้ประสงค์จะสนับสนุนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ผมจึงอยากชวนให้ทุกฝ่าย มองกันในแง่ดี และช่วยกันคิดด้วย “สติ” และ “ปัญญา” ดังนี้ครับ

1.ด้านสังคมสำคัญที่สุด ทุกคนเห็นด้วย เราไม่อยากสนับสนุนการดื่มสุราเมามาย เมาต้องไม่ขับ (เดี๋ยวจะหลับไม่ตื่น) ควรจำกัดการโฆษณา ควรไม่ให้เยาวชนดื่มหรือแม้แต่ลองดื่มสุรา ควรโฆษณาให้ลดหรือเลิกดื่มสุรา ควรจำกัดการแข่งขัน ฯลฯ ผมเห็นด้วยทุกประการ ผมและครอบครัวก็ถือสามากที่จะสอนลูกไม่ให้ดื่มสุรา สอนให้เห็นโทษของการเมามาย ทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของกิจการแอลกอฮอล์แต่อย่างใด หุ้นไทยเบฟฯจะจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย สิงคโปร์ หรือไม่จดทะเบียนในตลาดใดๆ เงื่อนไขในการทำธุรกิจก็เหมือนเดิม ธุรกิจก็ขยายไปตามกำลังเหมือนเดิม (ดังอดีตก็ขยายตัวแม้ไม่เข้าตลาด) การรณรงค์ไม่ให้ดื่มสุรา เมาไม่ให้ขับรถ ห้ามเยาวชนซื้อเหล้าหรือดื่มเหล้า ก็เหมือนเดิม ท้ายที่สุด ถ้าตลาดอื่นๆ มาพบบริษัทหลายครั้ง ยินดีต้อนรับหุ้นเขาไปจดทะเบียนในตลาดของเขา ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง สิงคโปร์ หรือสหรัฐฯ แล้วไทยเราจะได้อะไรขึ้นมา กิจการก็ได้ทุนตามกลไกตลาดทุน ก็ขยายธุรกิจภายใต้ขอบเขตข้อจำกัดของศีลธรรม และนโยบายรัฐในการรณรงค์ให้ลดการดื่มสุราเหมือนเดิม เราก็อาจจะได้ภูมิใจที่ได้แสดงจุดยืนต่อต้านทุกอย่างที่ทำได้เพื่อลดกำลังของธุรกิจสุรา แต่มันตรงจุดจริงๆหรือ ... ??? โดยเฉพาะเมื่อหุ้นไทยเบฟฯไปจดทะเบียนในต่างประเทศ

2.ด้านเศรษฐกิจ กิจการบางประเภท รัฐจะอยากควบคุมไม่ให้บริโภคกันอย่างกว้างขวางหรือมากเกินไป (แม้ไม่ถึงขึ้นผิดกฎหมายอย่างยาเสพติด) ก็อาจทำได้โดยเป็นกิจการที่รัฐควบคุม ในกรณีบ้านเราก็ทำนองเดียวกัน ให้ผู้ประกอบการมีน้อยราย มีกฎหมาและนโยบายควบคุม แต่การที่ผู้ประกอบการมีน้อย แม้ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่ควบคุมมากมาย ก็เป็นกิจการที่กำไรดีมาก จึงต้องมีการประมูลและเสียภาษีต่างๆเพิ่มเติม เช่น ภาษีสรรพสามิต ฯลฯ ก็เป็นวิธีการที่ลงตัวที่ถือว่า สังคมไทยโดยรวมได้เลือก (เราอาจเลือกไม่ให้ผลิต หรือไม่ให้ดื่มเลย แต่เราจะควบคุมเหล้าเถื่อนได้หรือไม่ ดังในบางประเทศ ทำให้เกิดปัญหาเหล้าเถื่อนและมาเฟียต่างๆมากมาย) เป็นเช่นนี้ กิจการนี้ก็กำไรดี การกระจายหุ้นให้นักลงทุนไทยได้ลงโดยสมัครใจ ก็สามารถสร้างประโยชน์ต่อตลาดทุนและผู้ออมเงินที่สนใจลงทุนได้ การให้จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ก็ช่วยให้เกิดสภาพคล่องสำหรับผู้ลงทุน ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นใหญ่ กิจการหลากหลายเป็นทางเลือกมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยใหญ่ขึ้น เพิ่มน้ำหนักให้ตลาดหุ้นไทยในภาพรวมตลาดโลก ช่วยให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น ธุรกิจในตลาดรองก็มีมากขึ้น

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่จะไม่สบายใจ หากถูกตราหน้าว่าเป็น “คนบาป” ในการสนับสนุนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยสำหรับกิจการแอลกอฮอล์ ผมเชื่อว่า ผมต่อต้านการดื่มเหล้า แต่ไม่จำเป็นที่เราต้องผลักดันให้หุ้นไทยเบฟฯไปจดทะเบียนในต่างประเทศ การกำกับดูแล การรณงรค์ต่อต้านก็ยังเหมือนเดิม กิจการเขาก็ยังขยายได้เหมือนเดิม แต่ประโยชน์ส่วนหนึ่งต่อเศรษฐกิจไทยจะเสียไป ซึ่งผลของธุรกิจที่ดีขึ้น จะมีผลทวีคูณในระบบเศรษฐกิจได้อีกมากมายผ่านการจับจ่าย ผ่านบรรยากาศความเชื่อมั่น ผ่านภาษี ฯลฯ ด้วย ช่วยกันมองเรื่องนี้ด้วย “สติ” และ “ปัญญา” ก็เชื่อว่าจะได้ผลดีที่สุดครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น