xs
xsm
sm
md
lg

Joy to the World (2)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน) (montree4life@yahoo.com)

ผมขอเขียนต่อเรื่องวีซีดี ภาพยนตร์ ดี ๆ มีบทเรียน ชุดที่ 4 เรื่อง “Joy to the World” ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูคริสต์ พระองค์ได้ทรงนำความชื่นชมยินดี (Joy) สันติสุข (Peace) และความรัก (Love) มาสู่เราทุกคน

สิ่งแรกที่ผมให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ ความชื่นชมยินดี เพราะผมเชื่อว่า ชีวิตที่ชื่นชมยินดี เป็นชีวิตที่มีพลัง มีความสุข และทำให้คนรอบข้างสดชื่น และได้รับพลังและความสุขไปด้วย

ในคำสอนชุดแรกของพระเยซูคริสต์ ประโยคที่ 2-3 บอกว่า “บุคคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการทรงปลอบประโลม.. บุคคลผู้ใดมีใจถ่อม (humble) ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก” สะท้อนว่าแม้เราอาจคิดโศกเศร้า พระองค์ยังสอนให้เป็นสุข เพราะจะได้รับการทรงปลอบประโลม และผู้ที่มีใจถ่อม ก็จะชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ด้วยความเชื่อว่า พระองค์ทรงประเสริฐยิ่งใหญ่ ย่อมได้สร้างทุกสิ่งมาดีอยู่แล้ว รวมถึงชีวิตเราด้วย เราจึงมีความสุขที่เราเป็นตัวเราอย่างที่เราเป็น

บทเรียนสำคัญคือ ความชื่นชมยินดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า มีสมบัติมากก็จะสุขมาก ดังที่พระคัมภีร์ได้บอกว่า “คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน และคนรักสมบัติไม่รู้จักอิ่มกำไร” แต่ชีวิตที่เป็นสุขเป็น “ทางเลือก” ของเราเองตามทัศนคติในชีวิตของเรา “เราเห็นโลกไม่ใช่อย่างที่โลกเป็น แต่เห็นโลกอย่างที่เราเป็น” สรุปง่ายๆว่า “มองโลกว่าสุขก็สุข มองโลกว่าทุกข์ก็ทุกข์” มีคนบอกว่า ในตอนตื่นเช้าแต่ละวัน เราเลือกเสื้อ กางเกง เนคไท ถุงเท้า รองเท้า อีกอย่างที่สำคัญที่เราเลือกได้คือ “ทัศนคติในชีวิต” คิดว่าโลกเป็นสุข เราก็มีชีวิตที่เป็นสุขได้ทั้งวัน ในทุกสถานการณ์ครับ

ผมได้ยกตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Bruce Almighty ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วพระเจ้าได้ทรงประทานพระพรให้กับเราทุกคนแม้เราจะรู้หรือไม่ก็ตาม แต่หากเราเลือกที่จะเชื่อและพึงพอใจกับสิ่งที่เรามี เราก็สามารถชื่นชมยินดีกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยความสุขใจได้เสมอ

บรูซ นอแลน ผู้สื่อข่าวรายการข่าวแนวตลก (นำแสดงโดย จิม แครี่) เขามีพรสวรรค์ในการเรียกเสียงหัวเราะจากท่านผู้ชมได้เป็นอย่างดี แต่เขากลับไม่พอใจในชีวิต มองโลกในแง่ร้าย เขาไม่เชื่อว่าพระเจ้าทรงสร้างทุกอย่างมาดีเลิศและพระพรที่เขาได้รับก็เหมาะสมกับชีวิตเขาแล้ว ทำให้จิตใจเป็นทุกข์ รู้สึกตกต่ำ หลายสิ่งไม่เป็นดังใจ ไม่สมหวัง บรูซคิดว่าถ้าพระเจ้ามีจริงและต้องการให้เขาเชื่อ พระเจ้าต้องตอบคำอธิษฐานของเขาทุกเรื่อง

พระเจ้าได้ยินที่บรูซบ่นจึงยื่นข้อเสนอให้เขามีอำนาจเหมือนพระเจ้า 7 วัน เขาสามารถทำทุกอย่างได้เว้นแต่ต้องให้มนุษย์มีเสรีภาพในการตัดสินใจ เขาไม่สามารถบังคับใจใครได้ เพราะพระเจ้าถือว่า “เสรีภาพ” ในการตัดสิน คือความงดงามของมนุษย์ ในช่วงต้น บรูซใช้อำนาจที่ได้มาหาประโยชน์ส่วนตัว และต่อมา เขาตอบคำอธิษฐานของทุกคนแบบ “Yes to all” โดยไม่สนใจว่าเหมาะสมหรือไม่ จึงทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้น คนถูกหวยมากมาย ทำให้เฉลี่ยรางวัลเหลือเพียง 17 เหรียญจึงประท้วงกันมากมาย บรูซมาถึงจุดตระหนัก เขามีความถ่อมใจกับพระเจ้า และกลับมามีความชื่นชมยินดีในทุกสถานการณ์ของชีวิต เขาเปลี่ยนมุมมองในชีวิตใหม่และเห็นคุณค่าของความรัก ซึ่งไม่จำกัดอยู่ที่ตัวเอง แต่รัก ห่วงใย และช่วยเหลือผู้อื่น อดทนนานกับทุกสิ่งด้วยใจรัก ร่วมยินดีและไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น และทำงานตามความถนัดที่พระเจ้าทรงประทานให้ ทำให้เขากลับมามีความสุขอีกครั้งและเห็นคุณค่าในพระพรต่าง ๆ ที่พระเจ้าทรงประทานให้

แต่อย่าลืมว่า การมองโลกในแง่ดีไม่ใช่การแก้ปัญหา หรือหนีปัญหา แต่การมองโลกในแง่ดีจะทำให้เราเผชิญปัญหาอย่างมีความหวัง มีพลัง มีความรัก มีความสุขใจ และทัศนคติในการมองโลกในแง่ดี เกิดได้ง่ายๆ เมื่อเรามีความเชื่อใจว่า พระเจ้ารักเรามาก (ถึงขั้นทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเรา) ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ และทรงรักเราอย่างมาก จะทรงอยู่เคียงข้างเราเสมอ

ผู้สนใจ VCD เพียงส่งอีเมลแนะนำตัวท่าน และตอบคำถามว่า “ท่านเห็นว่าชีวิตมนุษย์เป็นสุขขนาดไหน (0-10)” และโปรดแสดงความเห็นว่าท่านเห็นด้วยไหมที่ “เทศกาลคริสตมาสเป็นเทศกาลแห่งความชื่นชมยินดี” แล้วจะติดต่อท่านกลับไปครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น