xs
xsm
sm
md
lg

ทางออกในเวลาแห่งความกังวล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย มนตรี โดย ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(montree4life@yahoo.com)

ผมเชื่อว่าขณะนี้ คนในวงการหลักทรัพย์โดยทั่วไป จะรู้สึกถึงสถานการณ์ที่อึมครึมจนรู้สึกอึดอัด ผมมีหลักการว่า “เมื่อเราเผชิญปัญหาหนักในชีวิต ให้มองไปที่ส่วนสว่างของชีวิต” เพราะเมื่อสายตาเรามองไปแต่ที่ปัญหา จะเกิด “ความกังวล” แต่เมื่อเรามองไปที่ส่วนสว่างของชีวิต เราจะยังมี “สันติสุข” และ “ความหวัง” ในทุกสถานการณ์ ความเข้มแข็งของประชาชนเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ หากหดหู่ ท้อแท้ สิ้นหวัง เศรษฐกิจจะยิ่งชะลอตัว สังคมก็จะยิ่งลำบากมากขึ้น

เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา เป็นวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนจะเป็นวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งชาวอเมริกาจะฉลองขอบคุณ สรรเสริญพระเจ้าที่อวยพรให้พวกเข้าทั้งหลายมีความสุขทั้งกาย และใจตลอดปีที่ผ่านมา และนับเป็นวันสำคัญสำหรับครอบครัวที่จะอยู่พร้อมหน้ากันทุกคนเพื่อรับประทานอาหารเย็น

รวมทั้งพูดคุยถึงสิ่งที่ต้องการขอบคุณพระเจ้า ผมเองอยากขอบคุณพระเจ้าในหลายเรื่อง ดังต่อไปนี้

1.ขอบคุณพระองค์ที่ทรงสร้างมนุษย์มาอย่างดี ให้มีเสรีภาพ การสร้างมนุษย์ไม่ใช่เรื่องฟลุคที่จะเกิดขึ้นได้เองได้ดีอย่างนี้ และสิ่งที่วิเศษกว่า สัตว์ พืช หุ่นยนต์ หรือคอมพิวเตอร์ คือ “การเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรี” แม้กระทั่งการเชื่อพระเจ้าหรือไม่เชื่อพระเจ้า พระองค์ยังมอบให้เป็นสิทธิ์ของเราเช่นเดียวกับที่มอบให้อาดัมกับอีฟ ในที่สุดแล้ว ความเชื่อนั้นจะเป็นตามความสมัครใจ

ทุกครั้งที่ประชาชนถูกริดรอนเสรีภาพ ความอึดอัดจะสูงมากขึ้น ในยุคสังคมสื่อสาร “เสรีภาพของสื่อมวลชน” จะถูกมองอีกมุมหนึ่งว่าเป็น “เสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ข่าวสาร”

ผมเชื่อว่ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ย่อมรักและดูแลประชาชน ในกระบวนการโต้ตอบคำถามหรือข้อกล่าวหาของสื่อ ผมเสนอแนะว่า น่าจะทำในกรอบที่รักษาสิทธิเสรีภาพของประชาชน ผมสังเกตว่า แต่ไหนแต่ไร การปิดกั้นสื่อ จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนที่ต้องการรักษาความเป็นมนุษย์ที่มีเสรีภาพของตน เข้าไปแสวงหาสิ่งที่ถูกปิดกั้นไป

แม้ยังไม่เห็นด้วย ก็กลายเป็นให้ความสนใจมากขึ้น และไปร่วมรับฟังกันมากขึ้น ความรักประชาชนและความเคารพในเสรีภาพของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยน่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาได้ และผมไม่คิดว่าเป็นการเสียศักดิ์ศรี ผมว่าผู้ใหญ่ใจดี มีความรักอบอุ่น ความกรุณา และความอดทน มีแต่จะได้รับความศรัทธาจากประชาชน

2.ขอบคุณพระองค์ที่ทรงสอนให้ “รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” ในบทความหมายของความรักยังบอกว่า “ความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาเสมอและมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง” (1 โครินธ์ 13: 4-7)

ผมทบทวนดูอีกที ผมว่าทุกฝ่ายน่าจะเลือกข้อได้เลยนะครับว่า จะใช้พัฒนาตัวได้แค่ไหน ตั้งแต่ความอดทนนาน ซึ่งเป็นประการแรก จนถึงทนต่อทุกอย่าง ซึ่งเป็นประการสุดท้ายใน 15 ประการเลยครับ

ในประเด็น “ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ” ก็น่าจะหมายถึง การเสนอความเห็นเตือนกันได้ แต่ควรอยู่ในกรอบแห่ง “ความรัก” ฝ่ายถูกเตือนก็ชี้แจงด้วยความรัก กลไกการทำงานโดยมีการตรวจสอบ ดังที่เอามาใช้เป็นเรื่อง “ธรรมาภิบาล (Good Governance)” ในภาคเอกชนจะได้ทำงานได้ดี และประชาธิปไตยในบ้านเมืองเราก็จะได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งครับ ด้วยความเคารพรักต่อทุกฝ่ายครับ

***อนึ่ง ผมจัดเตรียมของขวัญในเทศกาลคริสตมาสสำหรับท่านผู้อ่านที่กรุณาติดตามรายการนี้ เป็น VCD ภาพยนตร์ดีๆ มีบทเรียนชุดที่ 4 เรื่อง “Joy to the World” ในช่วงประมาณสัปดาห์ที่สองของธันวาคม ผมขอให้ท่านเพียงส่ง email มาที่montree4life@yahoo.com โดยแนะนำตัวท่าน เพื่อติดต่อกลับ และเขียนความเห็นสั้นๆ ว่า ทำไมเพลง “Joy to the World” จึงเป็นเพลงที่มีความหมายสำหรับเทศกาลคริสตมาส และเราจะติดต่อกลับไปเพื่อแจ้งวิธีรับ VCD นี้ให้กับท่านต่อไปครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น