แบงก์กสิกรไทย (KBANK) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25-1.50% เงินกู้ 0.25% มีผลวันนี้ (15 ก.ย.)
นายจงรัก บุญชยานุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเงิน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่าธนาคารประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทอีก 0.25-1.50% และดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25% มีผลวันนี้ (15 กันยายน)
ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน ปรับขึ้นจาก 0.75-1% เป็นดังนี้
กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.50%
เงินฝาก 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2%
นิติบุคคลทั่วไป หน่วยงานราชการ กองทุน และสถาบันการเงิน ได้รับดังนี้
เงินฝากไม่ถึง 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.50%
เงินฝาก 5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน จาก 0.75-1.75% เป็นดังนี้
กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.25%
นิติบุคคลทั่วไป หน่วยงานราชการ กองทุน และสถาบันการเงิน ได้รับดังนี้
เงินฝากไม่ถึง 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.25%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ปรับจาก 1-2% เป็นดังนี้
กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.25%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.50%
นิติบุคคลทั่วไป หน่วยงานราชการ กองทุน และสถาบันการเงิน ปรับเป็นดังนี้
เงินฝากไม่ถึง 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.25%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.50%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 24 เดือน ทุกกลุ่มลูกค้า ปรับขึ้นจาก 1.25-2% เป็น 2.50% และ
ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 36 เดือน รับฝากเฉพาะบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ปรับขึ้นจาก 3% เป็น 3.25%
การขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารครั้งนี้ เพื่อ ตอบสนองนโยบายทางการ ที่ต้องการให้ดอกเบี้ยในระบบสูงขึ้น และบริ หารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินภายในของธนาคาร ให้เหมาะกับสถานการณ์ และภาวะตลาด ที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และรวดเร็ว กว่าที่คาด รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องแผนดำเนินธุรกิจธนาคารในภาพรวม
ธนาคารยังมีสภาพคล่องส่วนเกินพอสมควร แต่เพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าที่มีคุณค่าของธนาคาร สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม เพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ประกาศปรับขึ้นก่อนหน้า
นายจงรัก บุญชยานุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเงิน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่าธนาคารประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทอีก 0.25-1.50% และดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25% มีผลวันนี้ (15 กันยายน)
ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน ปรับขึ้นจาก 0.75-1% เป็นดังนี้
กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.50%
เงินฝาก 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2%
นิติบุคคลทั่วไป หน่วยงานราชการ กองทุน และสถาบันการเงิน ได้รับดังนี้
เงินฝากไม่ถึง 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.50%
เงินฝาก 5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน จาก 0.75-1.75% เป็นดังนี้
กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.25%
นิติบุคคลทั่วไป หน่วยงานราชการ กองทุน และสถาบันการเงิน ได้รับดังนี้
เงินฝากไม่ถึง 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.75%
เงินฝาก 5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.25%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ปรับจาก 1-2% เป็นดังนี้
กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.25%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.50%
นิติบุคคลทั่วไป หน่วยงานราชการ กองทุน และสถาบันการเงิน ปรับเป็นดังนี้
เงินฝากไม่ถึง 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2%
เงินฝาก 5 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.25%
เงินฝาก 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 2.50%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 24 เดือน ทุกกลุ่มลูกค้า ปรับขึ้นจาก 1.25-2% เป็น 2.50% และ
ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 36 เดือน รับฝากเฉพาะบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ปรับขึ้นจาก 3% เป็น 3.25%
การขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารครั้งนี้ เพื่อ ตอบสนองนโยบายทางการ ที่ต้องการให้ดอกเบี้ยในระบบสูงขึ้น และบริ หารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินภายในของธนาคาร ให้เหมาะกับสถานการณ์ และภาวะตลาด ที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และรวดเร็ว กว่าที่คาด รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องแผนดำเนินธุรกิจธนาคารในภาพรวม
ธนาคารยังมีสภาพคล่องส่วนเกินพอสมควร แต่เพื่อต้องการรักษาฐานลูกค้าที่มีคุณค่าของธนาคาร สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม เพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ประกาศปรับขึ้นก่อนหน้า