โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) เป้า 5 ปี เล็งปั้นแบรนด์ใหม่-ซื้อแฟรนไชส์เพิ่ม รับตลาดฟาสต์ฟูดในไทยแนวโน้มยังสดใส
นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) กล่าวว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้ บริษัทจะพัฒนาแบรนด์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ปัจจุบัน มีแบรนด์เดียว สเต็ก ฮันเตอร์ เป็นแบรนด์ของบริษัทเอง ตั้งเป้าต้องเพิ่มอีกอย่างน้อย 1-3 แบรนด์ ขณะนี้ กำลังพิจารณาอยู่ ว่าควรเป็นอาหารประเภทไหน สไตล์ไหน ที่ยังพอมีช่องว่างให้เจาะตลาด
ยังจะเจรจาซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ จากต่างประเทศเพิ่ม อาจจะควบรวมกับกิจการฟาสต์ฟู้ดที่มีอยู่แล้วในไทย รวมทั้งมีแผนขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อย่างแท้จริง
เขามองว่าธุรกิจอาหารฟาสต์ฟูดในไทยช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ถึงปี 2549 ยังมีแนวโน้มเติบโตดี อัตราเติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10% จากปัจจุบัน มูลค่าตลาดรวมอาหารฟาสต์ฟูดประมาณ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท อาหารไก่ทอด มาร์เก็ตแชร์สูงสุด กว่า 30% รองลงมา แฮมเบอร์เกอร์ 20% พิซซ่า ประมาณ 18% ที่เหลือ เป็นอาหารประเภทอื่นๆ รวมกัน
"แม้ขณะนี้ เศรษฐกิจจะยังไม่ค่อยดี เกิดภาวะน้ำมันแพง แต่สินค้าประเภทอาหาร ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย แต่จำเป็นต่อชีวิต ซึ่งหากเราพัฒนาคุณภาพสินค้า มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาตอบสนองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และพัฒนามาตรฐานการบริการให้ดีอยู่เรื่อยๆ ผู้บริโภคก็จะรู้สึกพึงพอใจ และเข้ามาใช้บริการในร้านของเราอยู่เรื่อยๆ" นายธีระเดชกล่าว
นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) กล่าวว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้ บริษัทจะพัฒนาแบรนด์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ปัจจุบัน มีแบรนด์เดียว สเต็ก ฮันเตอร์ เป็นแบรนด์ของบริษัทเอง ตั้งเป้าต้องเพิ่มอีกอย่างน้อย 1-3 แบรนด์ ขณะนี้ กำลังพิจารณาอยู่ ว่าควรเป็นอาหารประเภทไหน สไตล์ไหน ที่ยังพอมีช่องว่างให้เจาะตลาด
ยังจะเจรจาซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ จากต่างประเทศเพิ่ม อาจจะควบรวมกับกิจการฟาสต์ฟู้ดที่มีอยู่แล้วในไทย รวมทั้งมีแผนขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อย่างแท้จริง
เขามองว่าธุรกิจอาหารฟาสต์ฟูดในไทยช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ถึงปี 2549 ยังมีแนวโน้มเติบโตดี อัตราเติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10% จากปัจจุบัน มูลค่าตลาดรวมอาหารฟาสต์ฟูดประมาณ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท อาหารไก่ทอด มาร์เก็ตแชร์สูงสุด กว่า 30% รองลงมา แฮมเบอร์เกอร์ 20% พิซซ่า ประมาณ 18% ที่เหลือ เป็นอาหารประเภทอื่นๆ รวมกัน
"แม้ขณะนี้ เศรษฐกิจจะยังไม่ค่อยดี เกิดภาวะน้ำมันแพง แต่สินค้าประเภทอาหาร ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย แต่จำเป็นต่อชีวิต ซึ่งหากเราพัฒนาคุณภาพสินค้า มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาตอบสนองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และพัฒนามาตรฐานการบริการให้ดีอยู่เรื่อยๆ ผู้บริโภคก็จะรู้สึกพึงพอใจ และเข้ามาใช้บริการในร้านของเราอยู่เรื่อยๆ" นายธีระเดชกล่าว